รีเซต

"บีม ศรัณยู" เคลียร์ดราม่า ตัวเหลือง-อ่อนแรง หลังดื่มน้ำกัญชา (มีคลิป)

"บีม ศรัณยู" เคลียร์ดราม่า ตัวเหลือง-อ่อนแรง หลังดื่มน้ำกัญชา (มีคลิป)
EntertainmentReport2
22 สิงหาคม 2565 ( 20:00 )
227

นักแสดงดาวร้ายสุดเกรียน "บีม ศรัณยู ประชากริช" ที่วันนี้ขอเคลียร์ดราม่า ตัวเหลือง อ่อนแรง หลังดื่มน้ำใบดอกกัญชาเกินขนาดโดนคนแซะอ่อนแล้วยังจะกล้าโชว์อีก พร้อมกับการพลิกคาแรคเตอร์จากดาราไฮโซสู่คอนเทนต์ครีเอเตอร์สายเกรียนเน้นพลังใบสายเขียว ลั่นตั้งใจสร้างกระแส คืออะไร งานนี้เจ้าตัวมาเปิดใจทุกเรื่องราวผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่อง วัน31 ที่มี เป็กกี้ ศรีธัญญา และ บูม สุภาพร เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

ล่าสุดทั้งเหลือง ทั้งปากซีด ลงรูปแบบตาลอยแล้ว อันนั้นเกิดอะไรขึ้น?

บีม : อันนั้นเรียกว่าเป็นวิทยาทานสักเล็กน้อย ผมไปแข่งรถบุรีรัมย์ วันนั้นร้อนมาก 38 องศา แล้วมีสหายข้าง ๆ เอาน้ำท่อมมาให้ผม น้ำท่อมเพียวบริสุทธิ์ ไม่ผสม 4x100 ไม่อะไรทั้งนั้น มันเพื่อสุขภาพ แล้วไปใส่แก้ว 3 ลิตร จิบไปเรื่อย ๆ เสร็จเติมพลังเขียวไปนิดหน่อย พอไปแข่งรถปุ๊บเหงื่อมันออกหมดตัว รู้สึกว่าของหวานอยู่ไหน น้ำตาลตก บีมก็ถามทีมว่ากินอะไรหวาน ๆ หน่อย ไปหยิบเอแคร์ร้อนมาให้ผมเกือบตายครับ กินเอแคร์เสร็จต่อด้วยน้ำหวาน ผมก็เลยต้องไปปั้มเลย อ้วก คือมันตีกัน

 

ขอบคุณคลิปจากรายการ คุยแซ่บShow

คือใครจะกินน้ำท่อมก็ควรจะเป็นแผนกของน้ำกระท่อมไป?

บีม : หลายคนเขาก็ใช้ในการจิบเรื่อย ๆ แล้วก็เติมพลังเขียว เขาเรียกว่าพลังใบกับพลังดอก พอเป็นสูตรไขว้ ถ้าบางคนใช้อย่างถูกต้องเขาก็ปลอดภัยครับ

อันนี้เราพลาดที่ตรงไหน?
บีม : พลาดที่อากาศร้อน ทานข้าวไม่ถึง แล้วก็ตีกันเยอะไปหน่อย 

แล้วอาจจะดริ๊งตัวที่เป็นน้ำท่อมเยอะไป มันเลยทำให้เสียเหงื่อ?

บีม : ใช่ เพราะผมไม่รู้ว่าทีมช่างเอาไปใส่ในรถแข่งที่ผมแข่งไป 20 นาที จิบไปมันน้ำท่อมล้วน ๆ เลยครับ ผมจิบไปเรื่อยๆ พอลงมาปุ๊บกูเริ่มวูบ ไม่ไหว

แล้วทำยังไงถึงอาการดีขึ้น?

บีม : เขาเรียกว่าเติมเป็นวิทยาทาน เขาเรียกว่าเหลืองโชว์ เหลืองโชว์ไปที แซวพี่ทั้งประเทศ ไปทุกๆ ที่ แม้ว่าคุณรปภ.ที่นี่ พี่หายเหลืองยังครับ

บางทีพี่บีมลงรูปแล้วกระดกเป็นลิตร มันได้อ่อ?
บีม : บีมกระดกยังไม่ถึงลิตรนะครับ ก็วางก่อนมันเป็นแค่รูป มันปั่น เราตั้งใจทำคอนเทนต์ให้ปั่นเป็นวิทยาทานสไลต์กวนๆ เราอยากบอกในเรื่องของความรู้ บอกในข้อผิดพลาด หรือว่าในสิ่งที่ไม่ดีเป็นวิทยาทานให้

เตือนหน่อยไหม ใครที่อยากเป็นสายเรา ควรจะประมาณไหน?

บีม : สายเราควรจะเอากำลังดีครับ เอาที่ฟิลตัวเองกำลังโอเค เพราะทุกคนมีความต้านทานที่แตกต่างกัน ดังนั้นดูฟิลตัวเองอย่าไปตามเพื่อน เอาที่เรารู้สึกรีเลคสมอง ทั้งนี้ ทั้งนั้นที่บีมออกมาพูดไม่ได้สนับสนุนให้เยาวชนหรือคนต่ำกว่า20 ปีทั้งดูดทั้งเติม หรืออะไรก็ตาม แต่อันนี้ให้ดูว่าทำไมคุณหมอหลายๆ คนออกมาโต้งแย้ง หลายคนตกเขียงหรือเหลืองต้องเข้าโรงพยาบาล เป็นฟิลแบบเวียนหัว บีมก็เลยทำให้เห็น เรียกว่า ผมเหลืองครับ แต่ผมยังไม่ตาย


เมื่อก่อนพี่บีมเท่มาก แต่ล่าสุดมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าอ่อน แล้วยังโชว์?

บีม : คอมเมนต์ผมก็ไม่เป็นไรเพราะว่าบีมตกเขียงให้ดูหรือว่าเหลืองโชว์ บอกอ่อนก็อ่อน คุณเป็นยอดขุนพลก็เรื่องของคุณ ของแบบนี้มันเป็นความสุขของแต่ละคน แต่ผมทำขึ้นมาเพื่อให้คนคอมเมนต์ว่าผม เรียกว่าเปิดใจยอมรับ เพราะว่าผมแคร์ในด้านของผม เพราะผมเนี่ยสไตล์นี้ ผมไม่จำเป็นต้องเป็นนักวิชาการ หรือว่าหวีผมใส่สูท ผูกไทแล้วต้องน่าเชื่อถือ เราก็ศึกษาระดับหนึ่ง เราก็เป็นสายเขียวจริงๆ เราอยากให้รู้ว่าของพวกนี้มันไม่ได้มีแต่ข้อเสียในสังคมนะ ข้อดีก็มี แต่ว่าถ้าข้อดีมากเกินไปก็จะเป็นข้อเสียเหลืองได้


ทำไมอยู่ ๆ เอาตัวเองมาเสี่ยงกับสายนี้ สายเกรียน?

บีม : เราจะเป็นสายดีดธรรมอย่างนี้อยู่แล้ว บีมเป็นคนล้น ๆ ชอบทำอะไรเกินร้อย พอพลังใบ ตอนแรกใบไม่มีปัญหาเพราะปลดแล้ว ถูกกฎหมาย แต่ในสิ่งที่บีมขับขี่มันดูอันตราย คนที่ดูคลิปแล้วหวาดเสียว ตรงนั้นก็โดนค่าปรับ แล้วผมก็เอาคลิปเก่าๆ เนี่ย แล้วสิ่งที่โดนคอมเมนต์มาเรียนรู้ ทีนี้เราจะเกรียนยังไงให้ไม่ผิดกฎหมาย เกรียนยังไงให้รู้สึกว่าคาแรคเตอร์นี้มันทำดีให้สังคมได้ มันให้ความรู้ประชาชนในแง่ข้อมูลได้ คือขอบอกว่าโจรแนะนำโจร มันจะเป็นสไตล์อย่างนั้น ไม่ได้บอกว่าทำอะไรโจรนะ แต่ว่าคาแรคเตอร์อย่าให้คนมาว่าเราว่าเป็นอย่างนี้แล้วเราทำดีไม่ได้ ตอนนี้ผมรณรงค์ แล้วทำคลินิกก้าวใหม่ เกี่ยวกับเลิกยาเสพติด เลิกฟรีไม่เสียประวัติ ร่วมกับ กตร. สำนักอนามัย แล้วก็สำนักคุมประพฤติ เราเป็นวิทยากรบอกน้องๆ ทุกคน ผู้เสพหรือผู้ค้าที่จะออกมาใช้ชีวิตประจำวันว่าอย่าให้ใครมาดูถูกเรา หรือสิ่งที่เราทำผิดพลาดมา อย่าเอามาเป็นข้อที่บอกตังเองว่ากูเจริญไม่ได้หรอกกูดีไม่ได้หรอก ต้องวนกลับมาใช้พฤติกรรมเก่าๆ ใช้ยาหรือว่าอยู่ในสภาวะแวดล้อมเดิมๆ ตรงนี้เราอยากจะให้ดูว่าคาแร็คเตอร์อย่างนี้ที่จริตเดียวกัน หรือคนละจริตคนละศีลกันมันก็จะคุยกันไม่รู้เรื่อง ตรงนี้ผมจะแคร์ในฝั่งและในโลกของผม ในจริตเดียวกับผม

คอนเทนต์ที่พี่บีมทำมันเสี่ยง นิดเดียวคือถึงชีวิตได้?

บีม : ทุกคอนเทนต์ที่บีมทำ บีมจะได้ใบมาทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นมอเตอร์ไซค์ รถยนต์ เรือแข่งหรืออะไรก็ตามจะมีใบอบรมมาทั้งหมด

คนดูยังรู้สึกเป็นห่วง ครอบครัวว่าไง?

บีม : ครอบครัวเฉย ๆ ครับ เพราะบีมเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็กมาก ๆ คือเด็ก ๆ เป็นเด็กที่เก็บกดมา เป็นเด็กอ้วนที่โดนบูลลี่ เราก็เลยปฏิวัติตัวเองตั้งแต่ ม.1 ลดความอ้วน ใครที่บูลลี่เรา เราจะบวกให้หมด คือผมเป็นคนที่ค่อนข้างกดดันในวัยเด็ก เรียกว่าปรับเปลี่ยนตัวเอง เปลี่ยนความคิด พอตอน 20 กว่ามาก็เป็นคนร้อนและอารมณ์รุนแรง บีมสมาธิสั้นตั้งแต่เด็กต้องกินยา ที่เรียกว่าอารมณ์มันปรี๊ดมากแล้วหยุดไม่ได้ แล้วไม่รู้ตัวเวลาทำลายล้างไปแล้ว กลับมาแล้วรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น หรือว่ารู้สึกแบบแย่ คือตรงนั้นพอทานยาไปเรื่อยๆ ปุ๊บ 
แล้วด้วยอารมณ์ที่มันมากมาย พอเจอ ชาช่าเขาพยายามอดทน แล้วช่วยพยามกดให้เรา ทำให้เราเห็นว่าบางทีทุก ๆ อย่างที่เรามีประสบการณ์ชีวิตไม่ดีมาเป็นข่าวหน้า1 อะไรก็ตาม ทำไมต้องรอให้เป็นเรื่อวก่อน ทำไมพอใกล้ ๆ แล้วไม่มีคนคนนั้นคอยเตือน เขาก็เลยเป็นคนคนนั้นคอยเตือนตลอด ทำให้ผมรู้สึกว่าที่ผมเป็นอย่างนี้ได้ก็เพราะภรรยาในการเตือน วัยวุฒิที่มีขึ้นมา เมื่อกี้บูมบอกเมื่อ10 ปีที่แล้วผมเคยด่าบูมไว้ ผมรู้สึกสะอึก

บูม : ด่าแบบออนแอร์ไม่ได้เลยนะ

บีม : ผมเลยรู้สึกสะอึกในสิ่งที่พูดกับน้องไป ผมไม่เคยคิดถึงอีกคนเลยว่าเขาจะรู้สึกยังไง ผมเป็นอย่างนี้มาตลอดสิบๆปี จน 5-6 ปีมานี้ผมเปลี่ยนตัวเอง ด้วยคำพูด คิดถึงคนอื่น แคร์ริ่งมากขึ้น ผมก็รู้สึกดี ต้องบอกตรง ๆ ว่ารู้จักสายเขียวทำให้ผมใจเย็นลง อันนี้ไม่ได้รณรงค์ว่ามันจะเป็นเรื่องที่ดี แต่ว่าพอผมเข้ามาพึ่งสายเขียวผมรู้สึกว่าในสิ่งที่ผมฟุ่งซ่านเร็วเกินไป ผมจัดการมันได้

ชีวิตพี่บีม เป็นนักเรียนนอก ไฮโซบีม อะไรเป็นจุดพลิกที่เป็นบีมพลังใบ?

บีม : บีมคิดได้ตอนโควิด 2 ปีทั้งงานทั้งอะไร ชีวิตเปลี่ยน แล้วบีมพยายามเสพอะไรที่เป็นออนไลน์ เรามองว่าบางคนประสบการณ์ชีวิตน้อยกว่าเราด้วยซ้ำ แต่เขาพรีเซนต์น่าดูจัง คือโลกดารา บางทีดาราหรือนักแสดง คิดว่าพวกครีเอเตอร์ พวกยูทูบเบอร์ขึ้นมาเร็วจัง คืองานจ้าง ทั้งเงิน ทั้งรายรับเยอะกว่าเรา พอเราคิดแบบนั้น เราคิดมุมเดียวว่าฉันต้องดีกว่า ๆ มันไม่ได้ ผมเลยคิดในแง่มุมของครีเอเตอร์ ลองเอาหัวเราไปเป็นคนอื่น ถอยกลังมา 2 ก้าว ดูตัวเอง มึงเป็นดาราอยู่อย่างนั้น ก็อยู่อย่างนั้นไป แล้วมันไม่ใช่ตัวเองแบบร้อย ไปไหนมาไหนต้องมีหน้ากาก ต้องเกรงใจคนนู้นคนนี้ ต้องเลียผู้จัด เยอะ เบื่อ เหนื่อย ผมก็แค่ขอเป็นตัวเองวันนี้ ไม่ได้อยากเป็นตัวเองวัย 60 ผมขอเป็นตัวเองในวันนนี้ที่ไม่ได้เดือนร้อนใคร มีกาลเทศะ ผมอยากเป็นอย่างนี้


เคยมีโมเมนต์ไหนไหมที่พี่รู้สึกอึดอัดสุด ๆ ในช่วงเวลาที่ยังไม่ได้เป็นครีเอเตอร์?

บีม : ไมว่าผมจะไปไหนก็ตาม ผมจะเป็นตัวผมอย่างนี้อยู่แล้ว ใครจะถ่ายรูปหรืออะไรก็ได้เลย หรือใครมารำมากก็ด่าเข้าใจไหมมึงปกติถ่ายกับพระเอก วันนี้มึงเป็นบ้าอะไรกู กูอยู่ในกระแสเหรอ คือก็พูดกับเขาตรง ๆ ไง คือปกติเดินสายหัวมันไม่เคยถ่ายผมเลย คือพูดตรง ๆ ถ้าเขาเอาไปครีเอดผมก็ยินดี ถ้าใครชอบผมจริงๆ ต่อให้อัดวีดิโอ 10 นาทีผมก็ทำให้ แต่ถ้าเพื่อกระแสไม่ได้ชอบกันจริงผมก็เฉย ๆ  ผมพยายามเฟรนลี่ ผมพยายามทำสหายพลังใบ พรรคพลังใบ ใส่เสื้อ คือผมอยากรณรงค์ให้สไตล์นี้ไปไหน มาไหนช่วยเหลือกัน สายโจรช่วยเหลือกันได้ ผมดีใจมาก fc ผมใส่เสื้อด้วยกัน เห็นกันที่บุรีรัมย์ รถพังช่วยกัน ไม่รู้จักกันด้วย คือมันเป็นน้ำใจ ผมอยากสร้างสังคมพลังใบขึ้นมา  ที่หลายคนเห็นปั่นๆ ว่าพรรคพลังใบ แต่มันกลับคิดดี ทำดี แล้วคนคอเดียวกันมารวมกัน แล้วมันจะเกิดพลัง


จากดาราที่ต้องอยู่ในกรอบ สุดท้ายเรามาเป็นตัวของตัวเอง 100% ความแตกต่างของความรู้สึกมันเป็นยังไงบ้าง?

บีม : ตื่นมาทุกวันผมมีความสุข ผมจะทำอะไร ผมมีความสุขที่จะทำคอนเทนต์ ผมไปไหนมสไหน ผมแฮปปี้ไม่ต้องมานั่งปั้นหน้ากับใคร ดีมาดีตอบ เลวมาเลวตอบ มีความสุขมาก ๆ และส่วนใหญ่ทุกคนก็ดีมาก ๆ คนไทยยิ้มง่าย ถ้าเรามีมารยาท ขอแค่เรายิ้มให้กัน หรือว่าทำคลิปให้มันมีความสุขซึ่งกันและกันมันก็แฮปปี้แล้ว


สมัยก่อนมีอยู่หนึ่งจุดที่พี่บีมเสียใจมากกับการเป็นบีม ศรัณยู คืออะไร?

บีม : เหมือนคิดน้อย มันก็เป็นตัวเรานี่แหละ แต่ว่าเราพรีเซ้น สมมติ 10 ปีที่แล้วเราเป็นแบบนี้ ในสังคมก็รับไม่ได้ในการที่เราโอเพ่นมาก ๆ อย่างนี้ เราก็จะดูแบบรุนแรงมาก ๆ ตอนนี้มันถึงเวลาแล้ว แล้วด้วยอะไรหลาย ๆ อย่าง ผมพยายามปร้บเปลี่ยนให้คนเข้าใจเรา สไตล์ของผมเนี่ยว่าผมไม่ได้เป็นตัวอันตรายของสังคมนะ แต่ผมคาแรกเตอร์แบบนี้ แต่ผมอยากจะรณรงค์หรือทำพวกกิจกรรมหรืออะไรก็ตามให้เป็นจิตอาสาแล้วเป็นผลบวกในอนาคต

สมัยก่อนเขาแบดบอยแค่หน้าตา แต่พอหลังจากเป็นครีเอเตอร์มันก็มีเทรนด์ทวิตเตอร์ดราม่าเดือด มีแฮชแท็ก #บีมศรัณยูขับรถประมาท และอีกหลายอย่างในช่วงนั้น พี่บีมทำยังไง?

บีม : เพราะผมเป็นคนประมาทแล้วเมียก็ด่าทุกวันเลยว่าเนี่ยในสิ่งที่ทำไป รู้อยู่แล้วจะทำทำไม คือเราคิดไม่ถึง เห็นตอนเช้าเราใช้เขาแตะ เราคิดเองไม่ได้ เราต้องคิดถึงคนอื่นด้วยที่ใช้รถ ใช้ถนน

เราคิดว่าเราโอเค เราไหว?
 บีม : ใช่ แต่คนอื่นจะรู้ได้ไงว่ามึงโอเคหรือเปล่า อย่าพูดอะไรเพื่อตอบเหตุผลของตัวเอง คือต้องคิดให้กว้างแลเคิดถึงคนอื่นด้วย ตรงนี้ผมได้รับการอบรมมา แล้วก็ปรับเปลี่ยน 


อันนั้นคือยอมรับ ว่าไม่โอเค?

บีม : ยอมรับเพราะผมประมาทจริง ผมก็โดนด่าไปแล้ว แล้วผมก็ไปจ่ายค่าปรับ ผมคิดว่าผมยอมรับแล้วผมขอโทษแล้วผมเริ่มใหม่เป็นคนที่ดีขึ้น ผมว่ามันเป็นประโยชน์ต่อตัวเอง มันไม่ได้น่าอายหรือเสียศักดิ์ศรีเลยในสิ่งที่ผมคิดตรงนี้แล้วผมอยากให้รู้ว่าในทุกคอนเทนต์ที่บีมทำ ตอนนั้นก็จะดูรุนแรงหน่อย บ้าเอ้ย มันดีดอะไรมา คืออันนั้นมันคือคอนเทนต์ เพราะเราเป็นคนพลังเยอะ แต่ว่าทุกๆ คอนเทนต์ทึกวันนี้ วีดิโอหรือภาพหรืออะไรที่บีมปั่น บีมอยากให้มันเกิดรอยยิ้ม ความสนุก แล้วก็เด็กดูแล้วไม่เสื่อมเสียอารมณ์ดีได้ แล้วผู้ใหญ่ก็ดูดี บีมอยากปรับฐานให้มันกว้างขึ้น


ณ ปัจจุบัน ความเสี่ยงตาย ความที่ประมาทหรืออะไรก็ตามเคยทำแล้ว แล้วรู้ว่ามันไม่ดี มันพลาดไปแล้ว หลังจากนี้ก็จะไม่มีแล้ว?

บีม : ทุกวันนี้ก็ทำ แต่ทำในที่ปิด


ตอนที่มีกระแสว่าพี่บีมเมายา มันคือยังไง?

บีม : เราเป็นคนพูดอะไรตรง ๆ ไปเลย เวลาเราโกรธหรือเวลาเราอยากขอโทษ เราอยากแสดงความบริสุทธิ์ใจที่เรารู้สึกเราโง่ทำไปแล้ว เราก็ตบหน้าตัวเอง เราก็ไม่ได้อยากแสดงความรุนแรง เมียก็บอกว่าทำอย่างนี้ไป คนจะคิดว่าเป็นโรคจิตนะ แต่จริงๆ ผมก็จิตๆ นิดนึง ผมพยายามคอนโทร ผมเป็นคนอารมณ์ร้อน ผมก็พยายามคอนโทรล เพราะผมรู้ว่าผมไม่ปกติ แต่ทุกวันนี้เวลาโกรธก็สวดมนต์ พยายามระงับ


ตอนนั้นเราเข้าใจที่คนมาว่าเราเมายา?

บีม : คือถ้าคนรู้จักบีมตั้งแต่เด็ก คือเราไม่ได้สายสารเคมี เราเป็นสายธรรมชาติ แล้วเป็นคนแคร์เรื่องสุขภาพ ก็บอกว่ามันดีดธรรมชาติมันมาจากอะดรีนาลีนของบีม บีมชอบท็อปสปีท ขับอะไรเร็วๆ หรือว่ารู้สึกเสี่ยงตายแล้วมันมีความสุขแล้วมันนอนหลับ อะดรีนาลีมมันเหมือนสารเสพติดเลย แต่มันอยู่ในร่างกายเรา ความเร็ว 300 ที่อยู่ในสนาม มันฟินมันเหมือนเด็กอีกครั้ง ผมเป็นคนเสพติดอะดรีนาลีน อันนี้เรื่องจริง


ปกติพี่ช่าจะไม่ออกสื่อเลย แต่พี่ช่าออกมาโพสต์ถึงการกระทำของพี่บีม ณ ตอนนั้น เขาไม่ไหว?

บีม : ต้องบอกว่าช่ากับบีมเป็นคนละขั้วมากๆ เขาเป็นคนที่ค่อนข้างแคร์ความรู้สึกคนข้างๆ มากกว่าตัวเอง ทำให้เขาเป็นทุกข์ด้วยซ้ำ เราก็เลยบอกเขา ที่เขาโพสต์ประมาณว่าเขาไม่เคยสนับสนุนบีมเรื่องพวกนี้ แต่ไม่ว่าทุกอย่างทั้งความเร็วหรืออะไรก็ตามเขาไม่อยากมาห้ามผมในสิ่งที่เป็น แต่อะไรที่มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับสังคม ถ้าไม่ได้อยู่ในที่ปิดจะทำอย่างนั้นทำไม เขาก็เตือนตลอด แล้วเขาไม่เคยซัพพอร์ตในเรื่องที่ไม่ดี ตรงนี้เรานั่งคุยตลอด คุยกันแบบผู้ใหญ่ คุยแบบเหมือนเขาอบรมผมด้วย เพราะผมเป็นคนที่คุณพ่อ คุณแม่พูดอะไรไม่ค่อยฟัง เพราะเด็กๆ อยากทำอะไรแล้ว พ่อแม่จะไม่ก่อนพอไม่เรื่อยๆ งั้นกุคิดเองทำเองทุกอย่าง ก็เลยไม่ปรึกษาใคร จนมันเลยป้ายไปเรื่อยๆ ก็ดีที่มีภรรยาคอยพูดถึงเรื่องความคิด เลรกทุกอย่างไว้ก่อน อาจจะต้องทะเลาะกัน เขาบอกเขายอมโดนทะเลาะ ดีกว่าเราโดนสังคมด่า

แต่งงานมา 5 ปี คุณเลี่ยงการมีลูกมาตลอดเลย จริงเหรอ?

บีม : เราก็ปกติ แต่ทีนี้มันยังไม่พร้อม คนชอบบอกว่ามีไปเถอะเดี๋ยวก็พร้อม มันไม่ได้ ผมกับภรรยาเราคุยกัน อยากทำทุกอย่างให้มันดี อยากให้พร้อมทุกอย่างก่อน ทั้งชีวิตส่วนตัว ที่ทางหรืออะไรก็ตามอยากให้มีแล้วมันดีไปเลย ไม่อยากให้มีปัญหาอะไรให้เป็นภาระ เป็นความเครียดของลูกและเมีย มีเมื่อพร้อมแล้วมันจะมีความสุข


ตอนนี้พร้อมหรือยัง?

บีม : ใกล้แล้วครับ ผมว่าผมอยากจะมี คุยกับภรรยาไว้ว่าปีหน้า ผมตั้งใจ ไม่งั้นมันก็จะดีเลไปเรื่อย ๆ ด้วยอายุเราทั้งสองคน แล้วภรรยาผมผมเชื่อว่าเขาเป็นแม่ที่ดี เขาเป็นคนที่ละเอียดอ่อน ใช้ความคิดกับทุกอย่าง ใช้เหตุและผล ไม่เคยใช้อารมณ์นำเลย ผมเชื่อใจเขาตรงนั้น


ฝากไข่หรือยัง?

บีม : บีมไปตรวจ เขาบอกบีมมีปัญหาเอง น้ำเชื้อบีมไม่ได้ไปข้างหน้า100 % มันวิ่งวน70% เรื่องของรังไข่ สเปิร์มเราไม่มีปัญหาอะไร เรื่องของจำนวน แต่ว่าในเรื่องของการวิ่งไปถึงไข่มันยากนิดนึง


แพลนอยากมีกี่คน?

บีม : หนึ่งคน หรือไม่ก็แฝด เราอยากจะทำมันให้ดีที่สุด


ตอนแรก ๆ ที่ไม่พร้อม เพราะพี่ช่าคิดว่าจะมีลูก 2 คน คือบีม1 แล้วลูกอีก1?

บีม : ไม่ใช่เลย ทุกอย่างคืออะไรรู้ไหม บีมเป็นคนอารมณ์ร้อน พูดอะไรไม่คิด นู้นนี่นั่น เขาถึงไม่อยากให้บีมมีด้วยความพร้อม เพราะว่ามีลูกแล้วเราจะเป็นคนอย่างนั้นไม่ได้ เราต้องเป็นคนที่นิ่งพอในความเป็นหัวหน้าครอบครัว และความเป็นพ่อที่ดี ต้องทีสติหลายทางในการตัดสินใจ ไม่ใช่ตัดสินใจปุ๊บทำมันไม่ได้กับการเป็นหัวหน้าครอบครัวและการเป็นพ่อคน


เขาได้ฉายา ไอดอลทรงโจร แต่โดนใจ บีมพลังใบ รู้สึกยังไงกับฉายานี้?

บีม : รู้สึกว่าดีใจนะครับ มันมีแบบทรงโจรแต่โดนใจ ต้องบอกว่าทรงนี้สามารถทำดีได้ หลาย ๆ คนในสังคมก็ทรงนี้เรียกว่าขึ้นจากดินสักทีนะครับผม

ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์  เวลา13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama