อาณาจักรสั่นคลอน! "Madame Web" คว่ำสนั่น ทำสตูดิโอหนังเริ่มขบคิดทบทวนใหม่
ดูเหมือนว่านาทีนี้จะยังไม่สามารถเรียกศรัทธากลับคืนมาได้อีกครั้ง สำหรับโปรแกรมหนังซูเปอร์ฮีโร แนวหนังที่เคยรุ่งโรจน์ถึงขีดสุดเมื่อช่วงทศวรรษก่อนในยุคปี 2010s แต่กลับกลายเป็นว่าค่อย ๆ ล้มเหลวลงเรื่อย ๆ นับตั้งแต่โควิด-19 คืบคลานเข้ามา จนปัจจุบันสถานการณ์ตัวเลขบนบ็อกซ์ออฟฟิศยังล้มเหลวแบบไม่ฟื้นตัวขึ้น
โดยเฉพาะล่าสุดกับ "Madame Web" หนังภาคแยกเรื่องใหม่จากจักรวาลไอ้แมงมุม ที่เป็นการปลุกปั้นโครงการของสตูดิโอ โซนี พิคเจอร์ส กับ มาร์เวล ที่เพิ่งออกฉายไปหมาด ๆ ขึ้นแท่นกลายเป็นหนังฮีโรที่ทำสถิติรายได้เปิดตัวน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ ซ้ำยังได้มีนักวิจารณ์ชื่นชอบแค่เพียง 13% บนเว็บไซต์ Rotten Tomatoes นั่นยิ่งทำให้โซนีต้องเริ่มกลับมาทบทวนโครงการหนังในจักรวาลนี้อีกครั้ง
ความล้มเหลวล่าสุดที่เกิดขึ้นกับ Madame Web ยิ่งตอกย้ำความวายป่วงที่กำลังเกิดขึ้นกับอาณาจักรหนังฮีโรในระยะ 2-3 ปีที่ผ่านมา Madame Web ทำรายได้เปิดตัวในอเมริกา 6 วันแรกแค่เพียง 26.2 ล้านเหรียญ กับอีก 25.7 ล้านเหรียญในตลาดต่างประเทศ โดยหนังได้แค่เกรด C+ จากความคิดเห็นของผู้ชมหน้าโรงหนังของ CinemaScore
ผู้เชี่ยวชาญวงการหนังฮอลลิวูดระบุว่า ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานั้น มีแค่เพียง Guardians of the Galaxy Vol. 3 ที่ผ่านเกณฑ์ประสบความสำเร็จตามมาตรฐานหนังฮีโร คอนเทนท์จากฝั่งมาร์เวลและดีซีต่างเผชิญหน้ากับความขรุขระทางกระแสตอบรับแทบจะทั้งหมด ปัญหาที่เกิดขึ้นในตอนนี้คือหนังฮีโรไม่สามารถดึงดูดความสนใจของผู้ชมได้ไม่เหมือนกับเมื่อทศวรรษก่อนอีกต่อไป
เมื่อลองกางตัวเลขสถิติล่าสุดจากหนัง Madame Web จะพบว่ากลุ่มผู้ชมหนังเรื่องนี้ส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย คิดเป็นร้อยละ 65-70 เลยทีเดียว โดยที่มีผู้หญิงเข้าชมเพียงร้อยละ 46 เท่านั้น ทั้งที่โซนีตั้งใจว่าหนังฮีโรเรื่องนี้จะสามารถกอบโกยและดึงดูดกลุ่มผู้หญิงได้มากกว่าปกติ แต่หนังกลับไม่สามารถประสบความสำเร็จในด้านนี้
ขณะที่คนวงในแวดวงโรงภาพยนตร์ในอเมริการะบุว่า เกิดปรากฏการณ์ผู้ชมที่ซื้อตั๋วหนัง Madame Web เอาไว้ล่วงหน้า ต่างพากันแห่มาขอคืนค่าตั๋วหนัง ทำให้ยอดตั๋วลดลงแบบเรียลไทม์อย่างน่าประหลาดใจ เพียงแค่หลังจากที่กระแสตอบรับอันล้มเหลวของหนังถูกป่าวประกาศออกไป
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์บ็อกซ์ออฟฟิศมองว่า Madame Web ที่ระบุว่าใช้ทุนสร้างไปราว ๆ 80 ล้านเหรียญ แต่หากคำนวณค่าใช้จ่ายตามจริงและรวมถึงงบประมาณประชาสัมพันธ์ของหนังก็เชื่อว่าน่าจะสูงกว่า 100 ล้านเหรียญเป็นแน่แท้ นั่นเท่ากับว่าหนังเรื่องนี้อาจจะต้องทำรายได้ให้ในระดับ 200-300 ล้านเหรียญขึ้นไป ถึงจะไม่เจ็บตัว ซึ่งพิจารณาจากสถานการณ์ในตอนนี้ค่อนข้างจะเป็นไปได้ยาก
โซนี พิคเจอร์ส ได้เริ่มเปิดตัวการสานต่อภาคแยกในจักรวาลไอ้แมงมุมด้วย "Venom" และ "Venom: Let There Be Carnage" ที่ค่อนข้างประสบความสำเร็จด้วยดีทั้ง 2 ภาคที่ผ่านมา แต่เริ่มส่งสัญญาณความล้มเหลวใน "Morbius" ในปี 2022 แต่หนังก็ทำเงินทั่วโลกไปได้เฉียด ๆ 170 ล้านเหรียญ ถือว่ายังเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างรับได้อยู่ กระทั่งมาเผชิญหน้ากับความชอกช้ำหนักใน Madame Web เรื่องล่าสุด
โดยในปี 2024 นั้น โซนีจะยังส่งหนังภาคแยกจากจักรวาลนี้ออกมาต่อเนื่อง ได้แก่ "Kraven the Hunter" ที่เดิมจะฉายตั้งแต่ปลายปี 2023 แต่เลื่อนฉายไปอยู่ในช่วงปลายฤดูร้อนนี้แทน กับภาคต่อ "Venom 3" ที่จะเป็นการกลับมาสานต่ออีกครั้งของปรสิตต่างดาว ที่วางคิวฉายเอาไว้ในเดือนพฤศจิกายนนี้ ที่ทุกเรื่องตอนนี้สถานการณ์ก็ค่อนข้างคลุมเครือ และสตูดิโอเริ่มจะรอบคอบมากขึ้นในการประชาสัมพันธ์หนัง
โซนี ยังีมแผนจะขยายจักรวาลแห่งนี้ออกไปอีก ไม่ว่าจะเป็นโปรเจกต์หนัง "The Sinister Six", "Nightwatch" หรือ "El Muerto" แต่โครงการเหล่านี้แทบจะไม่มีความเคลื่อนไหวแล้ว อีกทั้งยังมีการพัฒนาสร้างในฝั่งทีวีซีรีส์ อย่าง "Silk: Spider Society" หรือ ซีรีส์ไอ้แมงมุมเรื่องใหม่ ที่มีโอกาสที่เป็นไปได้ว่าในอนาคตจักรวาลนี้อาจจะย้ายไปเอาดีทางฝั่งซีรีส์มากกว่าก็เป็นไปได้
Source: The Hollywood Reporter
-------------------------------------
>> ดูหนังออนไลน์ได้ที่ Movie.TrueID <<
หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับทรูไอดีสามารถเข้าไปได้ที่ TrueID Help Center เป็นช่องทางใหม่ที่ให้ข้อมูลและการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นเกี่ยวกับทรูไอดี คลิกเลย >> https://bit.ly/3xEgdAa