Series Review Rikuo (2018) วิ่งสุดใจ ไปสุดฝัน ส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างแนวธุรกิจกับดราม่ากีฬาชั้นดีที่เต็มไปด้วยความเบียวในแบบญี่ปุ่นแต่นั่นแหละคือเสน่ห์ที่ไม่มีใครเหมือนและไม่เหมือนใคร รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! สำหรับคนในวัยเดียวกับผู้เขียนหรือใกล้เคียงบวกลบสิ่งแรกๆที่เป็นประสบการณ์เกี่ยวกับญี่ปุ่นอาจเป็นการ์ตูนที่เดี๋ยวนี้ลูกชายคนเล็กเรียกว่ามังงะแต่เมื่อก่อนอะไรที่เป็นลายเส้นแบบนั้นมันคือการ์ตูน ซึ่งไม่เว้นแม้กระทั่งผู้หญิงเพราะผู้เขียนยังจำได้ว่ามีเด็กผู้หญิงสมัยนั้นอ่านการ์ตูนคำสาปฟาโรห์ที่ไม่รู้ว่าตอนนี้จบหรือยังเพราะไม่ได้ติดตาม แต่กับผู้ชายอย่างผู้เขียนนั้นการ์ตูนมันต้องแมนๆหน่อยและด้วยความที่ชอบกีฬาการ์ตูนญี่ปุ่นเกี่ยวกับกีฬาเลยเป็นตัวเลือกแรกๆที่หาอ่านในห้องสมุดโรงเรียนประถมบ้านนอกสมัยก่อน และนั่นอาจซึมซับความชอบดูหนังดูซีรีส์แนวดราม่ากีฬามาจนปัจจุบันก็เป็นได้แต่ที่ผู้เขียนกำลังรำลึกกึงการ์ตูนญี่ปุ่นที่เคยอ่านสมัยนั้นคือเรื่องอารมณ์ เพราะการณ์ตูนญี่ปุ่นจะมีเอกลักษณ์อยู่อย่างที่ไม่ว่าชาติไหนก็ทำเหมือนไม่ได้ในการปลุกขนแขนให้แสตนด์อัพน้ำตาซึมด้วยความซาบซึ้งกินใจในขณะที่เวลาที่ผ่านมาเพิ่งจะหัวร่องอหายมาหมาดๆจนมารดาผู้เขียนบอกว่าบ้า และอารมณ์นั้นที่ลูกคนเล็กบอกว่ามันคือความเบียวในแบบญี่ปุ่นก็มาอยู่ในซีรีส์เรื่องนี้เต็มที่ โคฮาเซยะคือบริษัทผลิตทาบิหรือถุงเท้าแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่ดำเนินงานมานานกว่าร้อยปีและเมื่อถึงรุ่นที่สี่ที่บริหารงานโดยโคอิชิ มิยาซาวะ (โคจิ ยากุโช) ก็กลายเป็นบริษัทเล็กๆที่เหลือพนักงานเพียงยี่สิบคน นั่นเพราะยุคสมัยที่เปลี่ยนความนิยมในทาบิลดน้อยลงยอดขายก็ลดลงตามไปด้วยจนกระทั่งโคฮาเซยะกลายเป็นบริษัทที่ง่อนแง่น ทำให้แม้กระทั่งไดชิ มิยาซาวะ (เคนโตะ ยามาซากิ) ลูกชายคนโตของโคอิชิไม่ยอมเป็นผู้สืบทอดกิจการรุ่นต่อไปและมุมานะหางานใหม่ที่มีรายได้ที่มั่นคงกว่า ทว่าวันหนึ่งที่สองพ่อลูกมิยาซาวะได้มีโอกาสได้ดูการแข่งขันวิ่งมาราธอนของฮิโรโตะ โมงิ (เรียวมะ ทาเคอุชิ) ที่จบลงด้วยอาการบาดเจ็บของเขาไม่สามารถเข้าเส้นชัยได้ปล่อยให้คู่แข่งตัวฉกาจชนะเขาไป ในวันที่ง่อนแง่นของทาบิโคอิชิ มิยาซาวะเลยผุดไอเดียบรรเจิดในการใช้ทักษะในการตัดเย็บทาบิมาประยุกต์เพื่อการสร้างรองเท้าวิ่งที่มีเอกลักษณ์ จนกระทั่งได้รองเท้าวิ่งแบบทาบิออกมาที่ใช้ชื่อว่าริคุโอแต่การแข่งขันในเวทีนี้ก็โหดหินเพราะสนามธุรกิจมันไร้ความปราณี ล้ำลึกร้ายกาจในการผสานเรื่องเชิงธุรกิจให้เข้ากับดราม่ากีฬาชั้นดีได้ลงตัวและเล่าง่ายดูง่ายกำหนดดินแดนของหัวใจไว้เรียบร้อย ที่ต้องชื่นชมคือความเบียวด้วยแก่นของเรื่องในแบบญี่ปุ่นคือการลุกขึ้นมาสู้หลังจากที่ล้มลงสิ้นเรี่ยวแรงประมาณว่าเรามาสู้ไปด้วยกันนะ แต่ความเจ๋งคือสิ่งที่เอามาเป็นองค์ประกอบในการเล่าเรื่องให้สนุกคือเรื่องเชิงธุรกิจที่ต้องสู้กับอุปสรรคนานับประการของบริษัทเล็กๆที่กำลังจะถูกยุคสมัยกลืนกิน และก่อนที่จะล้มก็ขอฮึดสู้อีกครั้งด้วยการร่วมแรงร่วมใจฝ่าฟันไปด้วยกัน กับอีกส่วนคือการเป็นงานแนวดราม่ากีฬาเรื่องของนักกีฬาที่ได้รับบาดเจ็บจนเกือบหมดอนาคตแล้วต้องลุกขึ้นมาใหม่โดยหลงทางจากเป้าหมายในใจ แล้วก็เอาสองส่วนนี้มาผสานกันที่ยอมรับว่ากลายเป็นเนื้อเดียวกันอย่างสมบูรณ์แบบด้วยความเป็นญี่ปุ๊นญี่ปุ่นคือเรามาวิ่งไปด้วยกันเถอะหรือจะเรียกว่าโลกสวยทัศนคติดีก็น่าจะได้ โดยการกำหนดดินแดนของหัวใจไว้เรียบร้อยเมื่อนี่คือเรื่องของไก่รองบ่อนที่ต้องลุกขึ้นมาสู้กับอุปสรรคในทุกทางที่เข้ามาจึงกลายเป็นว่าได้ใจไปเต็มๆ เต็มไปด้วยความเบียวในแบบญี่ปุ่นที่เป็นเสน่ห์เฉพาะตัวจนมาหมดทุกอารมณ์ไม่ต่างจากการได้อ่านการ์ตูนเมื่อคราอดีตจนติดอกติดใจ เอาจริงตลอดทุกตอนมีการใส่บทสนทนาในเชิงทัศนคติบวกที่สร้างความฮึกเหิมปลุกเร้าแรงบันดาลใจในแบบโลกสวยใสสไตล์ญี่ปุ่นตลอดเวลาที่อาจเรียกได้ว่าเบียวแล้วเบียวอีก แต่นี่แหละคือเสน่ห์ความเป็นญี่ปุ่นที่จะสามารถเห็นได้จากการ์ตูนที่เคยอ่านเสมอโดยเฉพาะในการ์ตูนกีฬาที่เรามาสู้ไปด้วยกันเถอะบ่อยๆ แน่นอนมันอาจดูทะแม่งแต่เมื่อมันมาจากงานญี่ปุ่นมันจึงมาพร้อมอารมณ์ที่เข้าถึงในทุกทางต่อให้รู้สึกขวางหูไปบ้างก็รับได้ เพราะเป้าประสงค์คือการสร้างแรงบันดาลใจให้ไม่ยอมแพ้ยืนหยัดต่อสู้ด้วยความอดทน แถมยังมีมิติทางการแข่งขันในเรื่องกีฬาที่สมจริงให้ได้ลุ้นเอาใจช่วยเพราะแบ่งแยกชัดทางหัวใจให้เอาใจช่วยคนหนึ่งทำให้ฮึกเหิมขนลุกในทุกการแข่งขันหรือการตัดสินใจทำอะไร แน่นอนอารมณ์ตื้นตันก็มาเพื่อสั่นไหวหัวใจซึ่งมันก็ไม่ต่างจากการอ่านการ์ตูนเมื่อครั้งอดีตที่ทำให้ติดใจในความเบียวแบบนี้มาจนถึงวันนี้ การประชันบทบาทกันอย่างถึงพริกถึงขิงแต่อาจต้องทำใจให้ได้ก่อนว่านี่คือการแสดงในแบบญี่ปุ่นสำหรับคนที่ไม่คุ้นเคย แรกเลยที่ต้องชื่นชมคือการทำงานหนักของเรียวมะ ทาเคอุชิในการเป็นนักวิ่งมาราธอนได้อย่างน่าเชื่อถือทั้งท่าทางการวิ่งที่ถูกต้องและจังหวะการหายใจจนเชื่อได้ว่านี่คือนักวิ่งระยะไกลจริงๆ ถัดมาคือการแสดงในแบบญี่ปุ่นจ๋าที่จะมีเอกลักษณ์แบบเบียวๆที่สืบเนื่องมาจากบทที่ให้เป็นแบบนี้ของโคจิ ยากุโช แต่แม้จะมีความเบียวอยู่ตลอดแต่ในด้านอารมณ์ลุงโคจิ ยากุโชยังสามารถถ่ายทอดได้อย่างถึงอารมณ์ ยิ่งได้การแสดงจากนักแสดงสมทบมากมายที่อาจต้องทำใจนิดหน่อยว่านี่คืองานระดับละครโทรทัศน์แถมมีบทที่เป็นเอกลักษณ์แบบญี่ปุ่นแบบนั้นกำกับอยู่ ทำให้อาจดูขัดใจขัดตาไปบ้างในความเบียวของตัวละครสำหรับคนที่อาจไม่คุ้นชินกับการแสดงในแบบญี่ปุ่นซึ่งอาจมองว่าเป็นการ์ตูนแบบจ๋าๆ แต่ถ้าคุ้นเคยดีและเข้าใจว่าญี่ปุ่นก็จะเป็นแบบนี้ก็ไม่มีปัญหาและจะสามารถจับใจความได้อย่างครบถ้วนที่มาพร้อมเพลงประกอบที่ปลุกเร้าอย่างโจ่งแจ้ง มันคือความเป็นงานญี่ปุ่นแท้ที่อารมณ์แบบนี้บทสนทนาแบบนี้การแสดงแบบนี้และบทสรุปแบบนี้ไม่มีที่ไหนทำได้ดีเท่าญี่ปุ่นแล้ว ถ้าว่ากันที่ความเห็นส่วนตัวผู้เขียนล้วนๆสำหรับความเป็นญี่ปุ่นจัดๆแบบเรื่องนี้ที่มาพร้อมหมดทั้งบทสนทนา การแสดง และบทสรุปที่ไม่เป็นนิยายขายฝันคงมีแค่ญี่ปุ่นเท่านั้นที่จะสร้างงานที่มาอารมณ์แบบนี้ได้ แน่นอนมันอาจไม่ถูกใจทุกคนโดยเฉพาะคนที่ไม่คุ้นกับละครในแบบญี่ปุ่นหรือคนที่อาจไม่คุ้นกับการ์ตูนยุคเก่าที่จะมีอะไรแบบนี้แบบเต็มที่ที่ไม่รู้ว่าการ์ตูนสมัยนี้ยังมีหรือไม่เพราะไม่ได้อ่านมานานมากแล้ว แต่ที่แน่ๆคือเรื่องทั้งสองแนวคือแนวธุรกิจกับแนวดราม่ากีฬามันจะมีความเร้าใจมีความสนุกมีอะไรให้ลุ้นให้เอาใจช่วยอยู่แล้ว ยิ่งถ้าเล่าแบบเข้มข้นอุปสรรคมาแบบไม่ว่างเว้นตั้งแต่ต้นจนจบหาทางลุกขึ้นมายากยิ่งสนุกใช่หรือไม่และเรื่องนี้เป็นแบบนั้นทำให้เมื่อจบแต่ละตอนพลังดึงดูดให้ดูตอนต่อไปแรง เพราะนี่คือการเล่าเรื่องในแบบญี่ปุ่นแท้ที่คงหาไม่ได้จากที่ไหนและคงไม่มีที่ไหนที่จะถ่ายทอดมุมมองต่อโลกในแบบญี่ปุ่นได้อีกแล้ว ดูไปบ่นไป ขอบคุณภาพประกอบ ภาพปก,ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 / ภาพที่ 5 / ภาพที่ 6 / ภาพที่ 7 จาก X TBS「陸王」"有終の美"とは、ある意味"最高のスタート"という意味でもある・・・ เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !