Fauda ภาพยนตร์ซีรี่ย์ Fauda (ในภาษาอังกฤษแปลว่า 'Chaos') แนว ดราม่า-แอ๊คชั่น เรื่องราวความขัดแย้งระหว่าง หน่วยปฏิบัติการลับพิเศษอิสลาเอลซึ่งนำทีมโดยเจ้าหน้าที่ “โดรอน” กับ ผู้ก่อการร้ายฝ่ายฮามาล “อาบู อาหมัด ทาฟีค ฮัมเหม็ด” ที่ได้สังหารชาวอิสลาเอลไปมากมาย ซีรี่ย์สัญชาติอิสราเอลเรื่องนี้เริ่มฉายครั้งแรกเมื่อปี 2015 ซึ่งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในประเทศ ตัวซีรี่ย์ก็ยังได้กวาดรางวัลไปแบบมากมายอีกด้วย จากนั้น Netflix ได้นำซีรี่ยชุดนี้มาฉายในปี 2016 และได้รับความนิยมแผ่หลายมากขึ้น โดยที่น่าสนใจคือ นักแสดงนำของเรื่อง “Lior Raz” ยังเป็นคนเขียนบทเองอีกด้วย และตัวเขากับเพื่อนที่ร่วมกันเขียนบท ยังเคยทำงานอยู่ในหน่วยปฎิบัติการลับของอิสราเอลด้วย ขอบคุณภาพจาก FaudaOfficial1 ขอบคุณภาพจาก FaudaOfficial2 “โดรอน” เจ้าหน้าปฎิบัติการลับพิเศษอิสลาเอลที่เคยทำหน้าที่ตามล่า อาบู อาหมัด ทาฟีค ได้ถูกชวนกลับเข้าทีมอีกครั้งหลังจากที่ทางการได้รับข้อมูลว่า อาบู อาหมัด ทาฟีค ยังไม่ตาย เรื่องราวการไล่ล่าผู้ก่อการร้ายจึงเริ่มต้นขึ้น ในเนื้อเรื่องจะมีการความขัดแย้งระหว่างมุสลิมกับชาวยิวให้เห็นได้ชัด กลิ่นอายบรรยากาศของหนังใส่ความเป็นเอเชียกลางเข้ามาได้อย่างครบถ้วน ในหลายๆฉากเราจะเห็นการทักทายที่เป็นเอกลักษณ์ของชาว มุสลิม บรรยากาศภาพเมืองที่สวยงามของภูมิประเทศเอเชียกลาง ผสมผสานด้วยเพลงประกอบแบบอาหรับที่เป็นเอกลักษณ์จึงทำให้ซีรี่ย์เรื่องนี้ดูมีเสน่ห์ขึ้นมา ขอบคุณภาพจาก FaudaOfficial3 ถึงแม้ว่าซีรี่ย์เรื่องนี้จะดูผิวเผินเหมือนหนังแอ๊คชั่นทั่วไป แต่ในเนื้อเรื่องเต็มไปด้วยฉากดราม่าเฉือนคมอยู่ตลอดเวลา ซึ่งจะเน้นไปด้านความสัมพันธ์ของตัวละครแต่ละตัวละครอย่างเข้มข้น พัฒนาการความสัมพันธ์ของตัวละครระหว่างครอบครัวหรือระหว่างเพื่อนร่วมงานที่ชัดเจนขึ้นในช่วงท้ายเรื่องที่ทำออกมาได้ดี อย่างเช่น พัฒนาการของตัวละคร “วาลิค” ผู้ติดตามของ “อาบู อาเหม็ด” ซึ่งใน EP แรกๆ วาลิค มีความเชื่อฟังและเคารพต่อ อาบู อาเหม็ด เป็นอย่างมาก แต่เมื่อเรื่องดำเนินไปเรื่อยๆเราจะเริ่มเห็นพัฒนาการในความคิดโต้แย้งจุดพลิกผันของเขากับตัว อาบู อาเหม็ด จนไปจบลงด้วยการแตกหักที่ไม่สามารถกลับคืนมาได้ ขอบคุณภาพจาก FaudaOfficial4 ส่วนในด้านแอ๊คชั่นตัวหนังไม่ได้พยายามให้ตัวเอก “โดรอน” เก่งเวอร์จนเกินไป ฉากแอ๊คชั่นจึงดูมีความสมจริง ผิดกับหนังแอ๊คชั่นทั่วไปที่ทำให้ตัวเอกเก่งกาจมีความสามารถรอบด้าน ซึ่งในเรื่องเราจะพบความผิดพลาดของ “โดรอน” จากการตัดสินใจที่ใช้อารมณ์เป็นส่วนใหญ่ จนความผิดพลาดบางอย่างนั้นได้นำไปสู่ปมปัญหาใหญ่ที่ตามมา อย่างเช่น จุดพลิกพลันของเรื่องที่ทำให้ “โดรอน” ตัดสินใจปฎิบัติงานนอกเหนือคำสั่งเพื่อไปช่วยตัวน้องสะใภ้ “โบแอซ” ที่ถูกจับไป และท้ายที่สุด “โดรอน” ก็ทำพลาดอย่างร้ายแรงจนเกิดความสูญเสียและมีผลต่อเนื่องไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ ขอบคุณภาพจาก FaudaOfficial5 ขอบคุณภาพจาก FaudaOfficial6 ตัวหนังได้สอดแทรกความเชื่อหรือความคิดมุมมองของชาวมุสลิมที่มีต่อชาวยิวผ่านตัวละครหลักอย่าง “อาบู อาหมัด ทาฟีค” แต่จุดด้อยคือหนังได้ปูพื้นหลังต้นเหตุความขัดแย้งของ “อาบู อาหมัด” ไม่มากพอจนทำให้ข้อมูลเบื้องหลังของเขาเบาหวิว ซึ่งถ้าใครไม่รู้เรื่องประวัติศาสตร์เหตุการณ์ความขัดแย้งระหว่าง ชาวยิวกับชาวมุสลิม มาก่อนก็อาจจะทำให้มีความรู้สึกร่วมกับแรงจูงใจของตัวละครนี้ได้ยากในช่วงต้น ในด้านโปรดักชั่นต้องบอกเลยว่า มุมกล้อง แสงสีของภาพ ทำได้ดีมากไม่แพ้ซีรี่ย์ฟอร์มยักษ์เลย ส่วนตัวนักแสดงแต่ละคนพูดได้เลยว่าถ่ายทอดอารมณ์ออกมาได้สุดยอดเติมเต็มความดราม่าของซีรี่ย์เรื่องนี้ได้หมดจด ขอบคุณภาพจาก FaudaOfficial7 เป็นซีรี่ย์ดราม่าที่ทำออกมาได้ดีเรื่องหนึ่งเลย แฟนซีรี่ย์แนวดราม่าจะได้ติดตามบทภาพยนตร์ที่จริงจังเข้มข้น แต่อาจจะมีบางตอนที่ไม่สมเหตุสมผลดูรวบรัดไปบ้าง แต่ก็ยังถือว่าเป็นซีรี่ย์ที่ดูสนุกอยู่ในระดับมาตฐานที่ดี ส่วนถ้าใครหวังที่จะเห็นฉากแนวบู๊ล้างผลาญคงจะมีให้ดูไม่เยอะ แต่จะได้เต็มอิ่มกับบทหนังที่กระหน่ำใส่ความดราม่ามาแบบไม่หยุดหยั้งแทน สามารถติดตามชม Fauda ทั้งซีซั่นได้ทาง Netflix และติดตามชมซีซั่น 3 ที่กำลังจะเตรียมฉายใน วันที่ 16 เมษายน 2553 ขอบคุณภาพจาก FaudaOfficial8ขอบคุณภาพปก FaudaOfficial9