ทีมผู้สร้าง "Mulan" ให้คำตอบ ทำไม "มูชู" มังกรผู้พิทักษ์โดนเท ไม่อยู่ในฉบับไลฟ์แอคชั่น
ข่าวสารวงการหนัง Mulan 2020
ปลายเดือนมีนาคมนี้ เราน่าจะได้ดูฉบับไลฟ์แอคชั่นจากหนังแอนิเมชันเรื่องดังของดิสนีย์ อย่าง "Mulan" ที่นำมาปัดฝุ่นขึ้นจอใหญ่อีกครั้ง พร้อมกับเนรมิตการ์ตูนออกมาเป็นการแสดงโดยนักแสดงจริงๆ เป็นหนึ่งในนั้นที่แฟนๆ ดิสนีย์ต่างรอคอย เพราะเป็นการจับงานที่มีพื้นที่ของวัฒนธรรมจีนดั้งเดิมเป็นเดิมพัน
ท่ามกลางกระแสความเป็นกังวลว่า มู่หลาน ฉบับนี้อาจจะไม่ประสบความสำเร็จเพียงพอ เนื่องจากตลาดหนังทางฝั่งเอเชียยังตกอยู่ในภาวะซบเซา เพราะการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 โดยเฉพาะตลาดหนังเมืองจีนที่โรงหนังถูกปิดให้บริการมาเดือนเศษแล้ว ความหวังที่จะให้ Mulan โกยรายได้มหาศาลจากแผ่นดินใหญ่ก็ดูจะริบหรี่ลง
แต่ยังมีหนึ่งคำถามที่สำคัญต่อแฟนๆ ตั้งแต่ฉบับแอนิเมชันที่ยังสงสัยมาโดยตลอดว่า ทำไมมู่หลานฉบับนี้ไม่มีความเป็นแฟนตาซีและทะเยอทยานเหมือนกันหนังไลฟ์แอคชั่นเรื่องก่อนๆ ของดิสนีย์ โดยเฉพาะการตัดตัวละครอย่าง "มูชู" มังกรผู้พิทักษ์ออกไป ต่างสร้างความไม่พอใจกับแฟนๆ กลุ่มหนึ่ง เพราะเท่ากับเป็นการตัดเสน่ห์หลักๆ อีกอย่างของหนังเรื่องไปอย่างสิ้นเชิง
มูชู คือตัวละครขโมยซีนที่สุดของเวอร์ชั่นแอนิเมชัน
นักแสดงและผู้สร้าง Mulan ได้เปิดใจในสัมภาษณ์พิเศษกับ The Hollywood Reporter โดยในบางช่วงบางตอนหนึ่งได้กล่าวถึงประเด็นนี้ด้วย โดยผู้สร้างให้เหตุผลถึงการตัดตัวละคร มังกรผู้พิทักษ์ ออกไปนั้น ก็เพราะว่าต้องการเคารพขนบประเพณีที่แท้จริงของเมืองจีน
"มูชู เป็นตัวละครที่ได้รับความนิยมในอเมริกามาก คนอเมริกาชื่นชอบมังกรผู้พิทักษ์ตัวนี้ แต่สำหรับที่เมืองจีนแล้วเข้าขั้นเกลียดเลยทีเดียว เพราะไม่ต่างกับการดูแคลนวัฒนธรรมความเชื่อของพวกเขา เพราะมังกรคือสัตว์ที่เป็นตัวแทนความเชื่อสิริมงคลหลายๆ อย่างของชาวจีน" สแตนลีย์ โรเซน ศาสตราจารย์ปรัชญาและศาสตราจารย์กิตติคุณที่มหาวิทยาลัยบอสตัน ได้กล่าวเอาไว้
เวอร์ชั่นปี 2020 จะเคารพวัฒนธรรมดั้งเดิมของจีนมากๆ
ขณะที่ "เจสัน รีด" ผู้อำนวยการสร้างของ Mulan ฉบับนี้ ได้กล่าวเสริมว่า "เราถกเถียงเรื่องนี้กันเยอะมาก เป็นการพูดคุยที่ยืดเยื้อ จนต้องรีบหาข้อสรุปให้ได้ เราต้องการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับหนัง และมองว่าการสอดแทรกมุกตลกขบขันในแบบที่เคยเกิดขึ้นเข้าไปในฉบับไลฟ์แอคชั่น อาจจะดูไม่เข้ากันสักเท่าไหร่ อีกทั้งเราก็ไม่ต้องการให้มีเพลงมาแย่งซีนตัวหนังไปอีกด้วย"
ทางด้าน "นิกิ คาโร" ผู้กำกับหญิงได้เล่าการทำงานในหนังเรื่องนี้ว่าเป็นอีกงานที่ท้าทาย เพราะมีโจทย์ที่ค่อนข้างยาก โดยเฉพาะการจะสื่อสารถึงสงครามอย่างไรให้อยู่ภายใต้ขอบเขตของความเป็นดิสนีย์ "เพราะเราไม่สามารถให้มีฉากกระทบกระทั่ง เกิดความรุนแรง หรือฟันดาบเลือดสาด แต่ทุกคนหาทางออกได้เก่งมาก ทำให้หนังยังมีความเอพิกอยู่ ในขณะเดียวกันก็เป็นหนังที่เด็กๆ ยังดูได้" นิกิ คาโร กล่าว
โธ่...มังกรมูชูคงเศร้าน่าดูเลย
แม้จะพยายามไม่ให้มีฉากรุนแรงในกรอบของดิสนีย์ แต่หนังก็ได้รับจัดเรท PG-13 ถือเป็นหนังไลฟ์แอคชั่นดิสนีย์เรื่องแรกที่ได้รับเรทสูงเท่านี้ ส่วนอีกประเด็นที่แฟนๆ แคลงใจอยู่ว่า Mulan จะไม่มีเพลงประกอบหนังออกมาเลยหรือ ล่าสุดก็มีข่าวว่า "คริสตินา อากีเลรา" ได้เข้าห้องอัดเพลง 'Reflection' ฉบับใหม่เอาไว้แล้ว เชื่อว่าน่าจะเตรียมไว้สำหรับใช้โปรโมทหนังเรื่องนี้ต่อไป
----------------------------------------------------