เป็นหนึ่งในหนังสือที่ชอบอ่านและเป็นหนังสือที่สามารถฮีลใจในวันที่รู้สึกเหนื่อยเลย ได้ข้อคิดหลายๆอย่างจากหนังสือเล่มนี้ ไม่ได้มีเพียงแค่คำปลอบโยน แต่เป็นการบอกกล่าวถึงทิศทางหลุดพ้นจากปัญหาหนังสือเล่มนี้จะช่วยให้คุณได้เยี่ยวยาปลอบประโลมจิตใจในช่วงเวลาที่ต้องการกำลังใจจากใครสักคน ข้อคิดจากหนังสือ 1. “ในวันที่หมดแรง เกินจะลุกขึ้นสู้” เราหรือว่าใครหลายๆคนที่กำลังอยู่ในสถานการ์ณนี้ ในวันที่รู้สึกเหนื่อยจนหมดแรงที่จะลุกขึ้นสู้อีกครั้งบางหลายคำแนะนำ ให้ออกกำลังกาย ทำกิจกรรมเพื่อคลายความเศร้า ผิดหวังที่เจอมาแต่ใน ณ เวลานั้นคุณไม่มีแม้กระทั่งเรี่ยวแรงทำอะไรทั้งนั้น อาจทำให้ฝืนทำทั้งๆที่ไม่มีกะจิตกะใจทำ ถ้าเป็นเช่นนั้น เราลองหาคำปลอบโยน อ่านข้อความปลุกใจคิดบวกกับชีวิต การตบบ่าตัวเองเบาๆ ให้กับตัวเองผู้เหน็ดเหนื่อยฝ่าฟัน เธอทำได้ดีแล้ว พักร่างกายและจิตใจก่อนแล้วค่อยวิ่งต่อ 2. “ไม่เห็นต้องเศร้าเมื่อเราเป็นผู้ใหญ่” ตอนยังเด็ก เราโหยหาความเป็นผู้ใหญ่เพียงเพราะอยากมีชีวิตที่อิสระ แต่บางเหตุผลที่ทำให้เราใช้ชีวิตไม่เป็นอิสระ ทำงานที่ไม่ชอบ พลางริษยาชีวิตคนอื่น แบบนี้ไม่ใช่ปัญหาหนักอกที่แท้จริงของผู้ใหญ่หรอกนะบางคนแค่อยากอยู่เฉยๆ ไม่ต้องทำอะไรเลย หรือแค่ไม่อยากทำเพราะไม่มั่นใจว่าเราเก่งเรื่องไหนกันแน่ คุณลองถามตัวเองว่าคุณแน่ใจจริงๆ นะ ว่าเกิดมามีชีวิตทั้งที คุณแค่อยากอยู่เฉยๆไปตลอดหรอ อิสระที่แท้จริงของการเป็นผู้ใหญ่ เลือกสิ่งที่ตัวเองต้องการและแบกรับความรับผิดชอบกับความน่าหวั่นใจจากการเลือกนั้นต่างหาก 3. “เราทุกคนผู้ใช้ชีวิตไม่สมบูรณ์แบบในแต่ละวัน” บางครั้งไม่ได้ใช้ชีวิตเพื่อให้สมบูรณ์แบบในทุกๆวัน แต่อาจเพื่อค้นหาเสียงหัวเราอีกมากมายที่รอเราอยู่บนโลกนี้ บางครั้งแค่เราวางก้อนหินที่หนักอึ้งในใจที่ว่าต้องความสมบูรณ์แบบเท่านั้นลงสักครู่ การอ่านหนังสือทำให้เราได้ค้นหาตัวเองในหลายมุมมองที่ต่างออกไปเราไม่จำเป็นต้องเก่งในทุกอย่างๆก็ได้ เราไม่จำเป็นแบกสิ่งที่เป็นภาระหนักใจอยู่ตลอดเวลา บางครั้งอาจมีวันที่มืดมนจนมองไม่เห็นทางไป แต่เราก็ยังยอดเยี่ยมที่สุดด้วยความอดทนในวันที่แสนยากลำบาก การมองหาข้อความ คำปลอบต่างๆอาจจะต้องเริ่มที่ตัวเราที่จะมองหา เครดิตภาพ ภาพปก โดยผู้เขียน ภาพประกอบ 1 2 3 4 จาก pexle เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !