สารคดีการหลอกลวงและต้มตุ๋นบน Netflix นั้นจะเผยแผ่ความจริงที่นักต้มตุ๋นและวิธีที่พวกเขาหลอกลวงเหยื่อให้กับคนดู ด้วยการโกงเงินจากเหื่อรูปแบบต่างๆ ซึ่งบางครั้งก็มักจะมาในรูปแบบขอความช่วยเหลือ ใช้ความไว้ใจ หรือใช้วิธี Manipulate หรือต้มกันตรงนั้นเปื่อยๆแบบเดินออกไปแล้วเราถึงได้เพิ่งรู้ตัวว่าเรากำลังเจอกับ 18 มงกุฎอยู่นี่ ซึ่ง Netflix ก็สร้างออกมาได้ยอดเยี่ยมมากๆในรูปแบบของหนังและซีรีส์สารคดีที่ตีแผ่ความจริงชีวิตของ 18 มงกุฎปลอมเปลือกที่คุ้มค่าเวลาการดูของเราแน่นอน มีเรื่องอะไรบ้างไปดูกัน1. Catch Me If You Canสร้างจากเรื่องจริงของ Frank Abagnale Jr รับบทแสดงนำโดย Leonardo Dicaprio สมัยวัยละอ่อน ผมบลอนด์ ตาฟ้า หน้าละอ่อน หุ่นกำลังดี ที่ปลอมแปลงเอกสาร ปลอมประวัติ เปลี่ยนแปลงตัวตน ฉ้อโกง และกลายเป็นอาชญากรหรือนักต้มตุ๋นระดับโลกที่ FBI ต้องการตัวความรู้สึกของผู้เขียนตอนที่ดูหนังเรื่องนี้ที่มีความยาว 2 ชั่วโมง 22 นาที ทำให้ไม่อยากจะเชื่อเลยว่านี้คือหนังของปี 2002 จริงๆ เพราะหนังมีเนื้อหาที่ดีมากจริงๆ มีวิธีการดำเนินเนื้อเรื่องที่รวดเร็วเข้าใจง่ายและไม่รู้สึกเสียดายเวลาที่ได้ดูหนังเรื่องนี้ตลอด 2 ชั่วโมงกว่าๆเลย หากมีอะไรที่ผู้เขียนได้เรียนรู้จากหนังเรื่องนี้ก็คือความมั่นใจค่ะ เพราะ Leonardo DiCaprio แสดงความมั่นใจของ Frank ออกมาตลอดเวลา และแม้จวนจะถูกจับได้ก็ยังแสดงไหวพริบออกมาแบบไม่แสดงอาการประหม่า หรือหลุดสีหน้าหวาดกลัวออกมาเลย ซึ่งเอาจริงๆก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าชื่นชมมากนัก เพราะเรากำลังหลอกลวงคนๆหนึ่งอยู่ ผู้เขียนเข้าใจสิ่งที่หนังจะสื่อดีและเข้าใจด้วยว่าทำไม Frank ถึงต้องทำแบบนี้ แต่ถ้าผู้เขียนเจอคนแบบ Frank ผู้เขียนคงรู้สึกต้องถามตัวเองว่ามีอะไรจากปากของผู้ชายคนนี้บ้างที่เป็นเรื่องจริงในเมื่อทุกอย่างในชีวิตเขาเป็นเรื่องโกหกหมดเลย แต่ปัจจุบันเขาเปิดสถาบันให้การปรึกษาด้านการเงินและข้อมูลการโกงกับสถาบันและธนาคารที่มีมูลค่าเป็นหลักล้านดอลล่าห์ สิ่งหนึ่งที่ประทับใจคือการแสดงของ Leonado Dicapio ค่ะคะแนนรีวิว 10/102. Inventing Annaเล่าเรื่องราวของแอนนา เดลวีย์ ที่ตัวจริงคือแอนนา โซโรคิน ลูกครึ่งชาวรัสเซียเยอรมันที่มาจากครอบครัวชั้นกลางทั่วไป เธอหลอกทุกคนว่าเธอเกิดในครอบครัวเศรษฐีของตระกูลเยอรมันเก่าแก่ และครอบครัวของเธอจะไม่ให้สมบัติกับเธอจนกว่าเธอจะอายุครบ 25 ปี เธอจึงยืมเงินทุกคน จนได้ใช้ชีวิตกินหรูอยู่สบาย พักโรงแรมห้าดาว ซื้อเสื้อผ้าแบรนด์เนม ไปเที่ยววันหยุดกับแฟนที่เรือยอร์ช ความรู้สึกที่ดู สนุกนะ แต่สารคดีจะเน้นเล่าเรื่องไปที่การทำงานของนักข่าวที่แอนนา ยอมและเลือกที่จะให้สัมภาษณ์ด้วย ความรู้สึกของเหยื่อที่เจอกับแอนนา และไลฟสไตล์ที่ฟุ้งเฟ้อและดูรวยเกินจริงของตัวแอนนา มากกว่าที่จะโฟกัสไปที่ตัวของแอนนาคือใครกันแล้วทำไมเธอต้องโกหกและสร้างตัวตนใหม่ของตัวเองขึ้นมา และเธอใช้วิธีการโกงยังไงถึงได้รอดพ้นความผิดจากกฎหมายและไม่มีเพื่อนๆคนไหนสงสัยเธอเลยเมื่อมีประวัติการย้ายเงินข้ามประเทศที่มากขนาดนั้น หรือเธอหลีกเหลี่ยงการตรวจสอบเอกสารจริงยังไง สารคดีไม่ฉายเรื่องนี้เลย แต่เน้นไปที่งานปาร์ตี้ เรือยอร์ช ความรักที่ดื่มดำของแอนนากับแฟนนายแบบ คนรอบข้างที่อิจฉาชีวิตของแอนนา และความลำบากของนักข่าวที่สัมภาษณ์กับแอนนา สารคดีมีความพยายามอย่างมากในการบิ๊วอารมณ์คนดูให้อินกับความคิดเราไม่มีทางรู้เลยว่าคนๆหนึ่งเป็นคนยังไงและอะไรบ้างที่เป็นความจริงเพราะตัวตนทั้งหมดที่เธอสร้างมาเป็นเรื่องโกหกตบตาทุกคนหมดเลย แต่ในความจริงผู้เขียนอยากจะรู้จักเรื่องราวและประวัติรวมถึงเหตุผลว่าทำไมเธอถึงทำแบบนี้มากกว่าการฉายเรื่องของเธอแค่ผิวเปลือก และเน้นไปที่การต่อสู้ในชั้นศาลเพื่อให้เธอถูกลดโทษหรือพ้นผิด ส่วนตัวชอบหน้าตาและการแสดงของคนที่มารับบทแอนนาในสารคดีเรื่องนี้มากๆ เธอถ่ายทอดความเป็นแอนนาออกมาได้ค่อนข้างดีเลยนะในสายตาของผู้เขียน ทั้งนิสัยเข้าสังคม การโกหกอย่างเป็นธรรมชาติ การสังเกตก่อนเข้าหาคน คะแนนรีวิว 7.5/103. Tinder Swindlerเล่าเรื่องราวของผู้หญิงสามคนที่ใช้แอป Tinder เพื่อหาเพื่อนคุย หาแฟน หาคนรัก หรือมิตรภาพและความสัมพันธ์อันยาวนาน จนไปเจอกับคนแบบ Simon ที่สร้างโปรไฟล์ปลอมขึ้นมาหลอกเอาเงินจากพวกเธอเข้า เพื่อเอาไปใช้จ่ายของฟุ่มเฟือยจนเหยื่อได้รับความเดือดร้อนทางการเงินและบางคนก็หมดตัว กลายเป็นหนี้เพราะกู้เงินมาให้ Simon ความรู้สึกตอนที่ดู โดยรวมสารคดีถ่ายออกมาค่อนข้างดี ค่อนข้างสมจริง เปิดเผยเรื่องราวการหลอกลวงและวิธีการหลอกล่อเหยื่อให้โอนเงินมาให้ตัวเองการโกหกและสร้างเรื่องราวโกหกยังไงให้ดูน่าเชื่อถือ และพวกเขามีวิธีการพูด วิธีการหว่านล้อมคุณยังไงเพื่อให้คุณส่งเงินไปให้ เริ่มแรกสารคดีจะถ่ายภาพสัมภาษณ์เหยื่อแบบ Footage ก่อนจะเผยให้เห็นความน่ากลัวของผู้ชายหน้าหล่อ โปรไฟล์ดี ใส่สูทราคาแพง ถ่ายรูปบนเฮลิคอปเตอร์ส่วนตัวของตัวเองผ่านนักแสดงและการถ่ายภาพโดยจำลองเป็นบุคคลที่สามมองเข้าไปและอธิบายถึงการกระทำในชีวิตที่ปลอมเปลือกและเต็มไปด้วยคำโกหกที่ไม่มีอะไรเป็นจริงของเขา ตอนใกล้จบสารคดีแอบรู้สึกได้ถึงเพื่อนหญิงพลังหญิงในการตามจับ Simon ให้ได้คะแนนรีวิว 10/104. Made You Lookเล่าเรื่องราวการโกงศิลปะที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของอเมริกา มากกว่าการยอมรับว่าศิลปะที่ซื้อมาเป็นของปลอม คือการยอมรับว่าคนในพิพิธภัณฑ์ถูกหลอก ซึ่งเปิดเผยการโกงของลาพิร่า โรซาเลส ที่นำภาพวาดศิลปะแบบรอธโกไปขายในโนดเลอร์ และทำกำไรได้มากถึง 200-600% จากการกำหนดการขายภาพต่อควรกำไรในอันตรากำไรแค่ 1 : 1ความรู้สึกที่ดู ยอมรับว่าแอบๆน่ากลัว มากกว่าอีโก้ของเจ้าของพิพิธภัณฑ์ สายตาของนักตรวจสอบภาพวาดหลายๆคน มันง่ายกว่าที่จะเชื่อว่าภาพวาดทั้งหมดที่เขาซื้อมาเป็นของจริง แม้จะเป็นของปลอมก็ตาม สารคดีเรื่องนี้มีการเล่าเรื่องแบบสัมภาษณ์สลับกับฉายเหตุการณ์จริงมีวิธีการดำเนินเรื่องที่รวดเร็วแม้มีบางมุมหรือบางจุดที่ดูเนือยๆ น่าเบื่อ ชวนง่วงนอน และทำให้เราอยากลุกไปทำอย่างอื่นอยู่ แต่สารคดีก็ถ่ายทอดออกมาได้ดี ด้วยการใช้การถ่ายทำด้วยการวางมุมกล้องแบบสารคดีทั่วไปที่เล่าเรื่องราวถึงสิ่งที่เกิดขึ้นจริงอยางเป็นกลางและไม่ใส่ความรู้สึกส่วนตัวเข้าไป หลังจากดูจบรู้สึกได้เลยว่าคนที่ทำงานในวงการศิลปะเขาทำงานกันจริงจังมากๆไม่ว่าจะเป็นศิลปินที่สร้างงานศิลปะอยู่ภายในพิพิธภัณฑ์หรือในโลกภายนอกก็ตามคะแนนรีวิว 8.5/105. Fyreเล่าเรื่องราวของงานเทศกาลดนตรีที่อลังการบนเกาะส่วนตัวที่ไม่เป็นจริง จากการโฆษณาชวนเชื่อที่ Too Good To Be True ด้วยการนำนางแบบ A List มาโปรโมท ถ่ายภาพปาร์ตี้แบบเรียลไทม์และเอาทีมงานที่เก่ง ดีที่สุดและศิลปินจำนวนที่มากที่สุดมารวมตัวในที่เดียวกัน จนคนเชื่อและพากันซื้อตั๋วจองกันด้วยเงินกว่า 3 หมื่นเหรียญ แต่มันกลับไม่เป็นจริงความรู้สึกที่ดู คือสนุกมากๆ รู้สึกได้ถึงความซวยของบิลลี่ นักธุรกิจวัยหนุ่มที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่วัยหนุ่มเลย และรู้สึกได้ถึงความนอยด์ ความเซ็งของคนที่คาดหวังว่าจะได้ใช้งานเวลากับงานปาร์ตี้พักผ่อนส่วนตัวอย่างสนุกสุดเหวี่ยงและคาดหวังว่าจะได้เจอกับสาวๆสวยๆและมีช่วงเวลาดีๆในโรงแรมห้าดาวเรือยอร์ชสุดหรูและมื้ออาหารสุด exclusive ด้วย แต่ผลลัพธ์คือทั้งหมดที่วาดฝันนั้นไม่เป็นจริง และพวกเขารู้สึกเหมือนถูกหลอก สารคดีมีวิธีการเล่าเรื่องโดยเน้นไปที่การสัมภาษณ์ทุกคนที่เกีี่ยวข้องกับเหตุการณ์ Fyre Festival ทั้งทีมงานตัดต่อ ทีมงานขายตั๋ว ฝ่ายโปรโมท ไปจนถึงเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นที่มีคลิปของนายบิลลี่ที่ถูกอัดไว้ เอาจริงๆนี้ไม่ใช่การแสดง เพราะมันคือเรื่องจริงจากชีวิตของคนที่เกิดขึ้นกับคนจริงๆ และ Netflix หยิบเรื่องนี้มาสร้างเพื่อให้เราระวังคนแบบบิลลี่ ที่แม้จะจบเหตุการณ์ Fyre Festival เขาก็ยังหลอกคนต่อไปเรื่อยๆผ่านชื่อของคนอื่น โดยที่ไม่มีใครรู้เลยว่าเขากำลังทำอะไรอยู่คะแนนรีวิว 10/106. The Puppet Masterเล่าเรื่องราวของฟรีการ์ดที่ทำการหลอกลวงทุกๆคนรอบๆตัวให้เชื่อว่าเขาคือพนักงานหนึ่งในหน่วยสืบสวนสอบสวนเอ็มไอไฟว์ปลอมตัวมาตั้งแต่ปี 1993 จนถึงปัจจุบัน และพยายามหาวิธีควบคุมบงการเหยื่อทุกๆคนไม่ให้กลับบ้านไปเจอหน้าครอบครัวของตัวเองเพื่อหาเรื่องเอาเงินจากครอบครัวของพวกเขาความรู้สึกที่ดู บอกตรงๆว่าน่ากลัวมากๆนะเพราะเรากำลังเจอผู้ชายคนหนึ่งที่โน้มน้าวใจเก่ง และเก่งในการใช้คำพูดชักจูงคน สารคดีจะเริ่มต้นไปที่การสัมภาษณ์เหยื่อที่เคยถูกหลอกและหลงเชื่อคำพูดของฟรีการ์ดจนยอมตัดขาดจากเรื่องยอมตัดขาดจากครอบครัว ยอมไม่มีไอดี ยอมไม่เปิดบัญชีในธนาคารเพราะเชื่อว่าเขากำลังปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยงานลับจริงๆ แต่สิ่งหนึ่งที่ผู้เขียนรู้สึกสงสัยก็คือถ้าเขาเป็นสายลับจริงๆ เขาจะป่าวประกาศและบอกทุกคนทำไมว่าตัวเองคือสายลับ สารคดีเล่าถึงการสัมภาษณ์เหยื่อที่ถูกช่วยเหลือให้รอดออกมาได้จากคำโกหกหลอกลวงของฟรีการ์ด การปฏิบัติหน้าที่และการจริงจังกับทีมตำรวจและทีมสืบสวนที่พยายามจับฟรีการ์ดให้ได้ การหายตัวไปจากบ้านเกือบสิบปีของซาร่าห์ สมิธ และการที่ฟรีการ์ดถูกปล่อยตัวปี 2009 และเขากลับมาหลอกลวงคนอื่นอีกครั้งในปี 2020 ขอยอมใจทีมงาน ผู้กำกับ คนเขียนบท และนักแสดงในสารคดีเรื่องนี้จริงๆเพราะมีวิธีการเล่าเรื่องที่ชวนลุ้นและน่าติดตามรวมถึงรู้สึกตื่นเต้น อยากรู้ตอนจบมากๆ โดยรวมก็เป็นสารคดีนักต้มตุ๋น 18 มงกุฎที่น่าสนใจมากๆของ Netflix เพราะคำพูดของเขาเชื่ออะไรไม่ได้เลย บอกตรงๆว่าถ้าผู้เขียนเป็นเหยื่อในเรื่องแล้วรอดออกมาได้ ผู้เขียนต้องมีปัญหาด้านความเชื่อใจคนไปตลอดชีวิตแน่ๆคะแนนรีวิว 8.5/107. Trust No Oneเล่าเรื่องของ Gerald Cotten เจ้าของ Exchange ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศแคนาดา และเป็นนักธุรกิจ Start Up ที่ประสบความสำเร็จและได้รับความไว้ใจตั้งแต่วัยหนุ่ม จนกระทั่งวันหนึ่ง Exchange ของเขามีปัญหา และมีการประกาศว่าเขาได้เสียชีวิตแล้วที่ประเทศอินเดียความรู้สึกของผู้เขียนตอนที่ดู คือสารคดีฉายเรื่องราวว่านาย Gerald Cotten คือใคร ก่อนจะสัมภาษณ์ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในครั้งนี้โดยเฉพาะเหยื่อที่มีทั้งความเครียด ความกลุ้มใจ ความเศร้า ความนอนไม่หลับ และความกังวลของผู้เสียหายได้อย่างเห็นภาพได้ชัดและตรงไปตรงมาดี เพราะแสงสีเงาองค์ประกอบและการดำเนินเนื้อเรื่องที่ย่อยง่าย เข้าใจง่าย และตรงไปตรงมา สารคดียังถ่ายจากมุมมองของบุคคลภายนอกที่อยากจะจับตัวGerald Cotten ด้วย แต่เขาไม่ใช่หนึ่งในผู้เสียหาย เพราะเขาบอกว่าเขาไม่เคยไว้ใจ Exchange ที่ให้ส่วนแบ่ง หรือกำไรปันผลบนโลกอินเทอร์เน็ตที่ดีเกินไปจะเป็นความจริง แต่เขารู้สึกเห็นใจเหยื่อทุกๆคนที่สูญเสียเงินกับ Exchange นี้ด้วย เอาจริงๆ สารคดีสนุกมากๆ กับคอนเซปและแนวคิดห้ามไว้ใจใครหรือคำพูดของใครทั้งนั้น รู้สึกชื่นชมฝีมือและทักษะการแสดงของตัวละครทุกๆคนในเรื่องจริงๆเพราะมันทำให้คนดูรู้สึกเครียดและหวาดระแวงไปด้วยว่าจริงๆแล้วเราควรเชื่ออะไรได้บ้างคะแนนรีวิว 10/10จบไปแล้วกับ 7 หนัง/ซีรีส์สารคดีน่าดูจาก Netflix ที่สร้างจากเรื่องจริงของนักต้มตุ๋น 18 มงกุฎ ปลอมเปลือกหลังจากที่ผู้เขียนดูสารคดี 7 เรื่องนี้จบ สิ่งที่ผู้เขียนได้ความรู้จากสารคดี 7 เรื่องนี้คือทุกๆคนสามารถเป็นเหยื่อที่ถูกหลอกได้ค่ะ พวกเขาไม่ได้โง่หรือไร้เดียงสาอะไรเลย พวกเขาก็เป็นคนปกติธรรมดาเหมือนเราๆทั่วไปที่ตื่นเช้า ไปทำงาน ประกอบอาชีพสุจริต และพวกเขาได้รับความเดือดร้อนหรือความเสียหาย จากการเชื่อคำพูดของคนๆหนึ่งแน่นอนว่าโลกนี้คือเรื่องโกหกและการหลอกลวงขนาดใหญ่ที่เราต้องอาศัยความกล้าอย่างมากในการเชื่อใจ เพราะมันคงน่าเศร้ามากถ้าเราไม่เชื่อใจใครหรือไม่เชื่อในอะไรเลย ดังนั้นทุกคนจึงมีสิทธิ์ที่จะถูกหลอกได้ และเมื่อคนที่เขาเสียหายได้รับความรู้สึกสูญเสียและความรู้สึกทุกข์ใจ เราก็ควรจะใช้ชีวิตของตัวเองให้ดีที่สุด ไม่ควรจะไปหลอกใคร เพราะผู้เขียนเชื่อว่าทุกการกระทำที่เราลงมือทำลงไป ผ่านการคิดและการไตร่ตรองอย่างตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม ทุกอย่างมีผลลัพธ์ตามมาเสมอ เหมือนกับคำว่าซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นานค่ะถ้าใครอยากให้รีวิวสารคดีเรื่องไหนหรืแแนวไหนก็คอมเมนท์เข้ามาได้เลยนะบทความอื่นๆที่น่าสนใจรีวิว First kill season 1 (2022) รับชมได้ทางช่อง Netflixรีวิว ANNA (2022) เมื่อเธอต้องโกหกว่าเป็นคนอื่นจนได้ใช้ชีวิตหรูหราอู้ฟู่รีวิว Link : Eat Love Kill (2022) ซีรีส์แฟนตาซีที่ไว้ใจใครไม่ได้เลย10 ซีรีส์/หนังโปรดของผู้เขียนที่สามารถรับชมได้ทางช่อง Netflix ปี 2022รีวิว Hurt Like Hell เจ็บเจียนตาย (2022) ตีแผ่วงการมวยได้แรงบันดาลใจมาจากเรื่องจริงขอขอบคุณเครดิตรูปภาพ หน้าปก / Canva รูปประกอบภาพหน้าปำที่ 1 / 2 / 3 / 5 / 7 โดย Netflix / 4 โดย Made You Look / 6 โดย Twitter : Netflixรูปภาพประกอบที่ 1 / 2 / 3 / 5 / 7 โดย Netflix / 4 โดย Made You Look / 6 โดย Twitter : Netflixจะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !*STAR COVER"อย่ามัวแต่ดูมาดังกัน"*ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ขอชวนทุกคนมาสนุกโคฟเวอร์ พร้อมลุ้นรับเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 7,000 บาท (5 รางวัล) โคฟคนที่ใช่ ไลก์คนที่ชอบ 'ร่วมสนุกได้ที่ ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ห้อง cover บนแอปทรูไอดี'คลิกเลย >> https://ttid.co/UAnK/7y9jfqkqอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://bit.ly/3O1cmUQร่วมสนุกตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2565 - วันที่ 3 สิงหาคม 2565