ทุกวันนี้ในสถานการณ์ที่พวกเราทุกคนจำเป็นต้องอยู่แต่ภายในบ้านเพื่อป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 เพื่อนๆ อาจจะกำลังหากิจกรรมอะไรสักอย่างทำแก้เบื่อ ชมภาพยนตร์เก่าๆ ก็นับเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ วันนี้ผู้เขียนจะขอแนะนำ 3 ภาพยนตร์ที่อาจจะไม่ดังมากมายนัก แต่ถ้าไม่ดูชาตินี้จะดูชาติไหน ไว้ให้เพื่อนๆ เป็นทางเลือกนะครับ 1. CHEF (2014)ภาพยนตร์แนวดราม่า-คอเมดี้ ที่กล่าวถึง ‘คาร์ล’ (จอน เฟฟโร) พ่อครัวชื่อดังที่มีปัญหากับนักวิจารณ์อาหาร ซ้ำยังมีปัญหากับลูกชายของตัวเอง จนทำให้ต้องตัดสินใจลาออกจากร้านอาหารที่ทำอยู่ เมื่อโชคร้ายถ่าโถมเข้ามาพร้อมๆกัน เขาจึงหาจุดเปลี่ยน และตัดสินใจออกเดินทางพร้อมกับรถบรรทุกขายอาหาร ตระเวนขายไปตามเมืองต่างๆ เพื่อพบกับเรื่องราวต่างๆมากมาย และใช้เวลาเหล่านี้สานความสัมพันธ์กับลูกชายไปพร้อมกัน ขอบคุณภาพจาก en.wikipedia.orgในช่วงต้น เนื้อเรื่องอาจจะเกริ่นนำยืดยาวไปเล็กน้อย ทำให้คนดูอาจจะรู้สึกเบื่อได้ แต่เมื่ออดทนอีกนิดเดียว สิ่งที่รอเราอยู่ในภาพยนต์เรื่องนี้ คือ กลิ่นอายของหนังแนวครอบครัวที่สอดแทรกความตลกขบขันมาอย่างกลมกล่อม เมื่อดูเรื่องนี้จบแล้ว ผู้เขียนมั่นใจอย่างยิ่งว่า หัวใจของทุกๆคนจะต้องพองโตไปกับความรู้สึกดีๆ และข้อคิดต่างๆ ที่ CHEF ถ่ายทอดให้แก่คนดูอย่างพวกเราแน่นอนครับ 2. Yesterday (2019)ภาพยนตร์แนวโรแมนติก-คอเมดี้ ที่เล่าถึงเรื่องราวของ แจ็ค มาลิค (ฮิเมช พาเทล) นักดนตรีสมัครเล่น ที่มีความฝันที่เป็นนักดนตรีอาชีพในสักวันหนึ่ง ในคืนหนึ่งเกิดเหตุไฟดับทั่วโลก ทำให้แจ็คประสบอุบัติเหตุรถเมล์ชน เมื่อเขาลืมตาขึ้นมา สิ่งต่างๆ ก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ขอบคุณภาพจาก www.imdb.comสำหรับใครก็ตามที่กำลังมองหาภาพยนต์แนวอบอุ่น คลอด้วยเสียงดนตรี เรื่องนี้เป็นหนึ่งในเรื่องที่คุณต้องไม่พลาดไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ไม่ว่าคุณจะเกิดในปีไหน เพลง The Beatles ทุกเพลงในเรื่อง จะทำให้คุณหลงรัก และอินไปกับอารมณ์ที่เรื่องราว และเพลงถ่ายทอดถึงคุณ ผู้เขียนมั่นใจอย่างยิ่งเลยว่า หลังจากทุกคนดูเรื่องนี้จบ จะต้องมีโมเมนต์ที่แอบฮัมเพลงของวง The Beatles ไม่เพลงใดก็เพลงหนึ่งแน่นอนครับ 3. Spirit Away (2001)ภาพยนต์แนวอนิเมะจากผู้สร้าง Studio Ghibli กล่าวถึงเรื่องราวของเด็กสาว ‘จิฮิโระ’ ที่มีนิสัยดื้อรั้น กำลังย้ายบ้านไปกับพ่อ และแม่ แต่พวกเขากลับหลงเข้ามาในดินแดนลึกลับจนทำให้พ่อ และแม่ต้องถูกสาปให้กลายเป็นหมู เมื่อเหลือตัวคนเดียว เธอจึงต้องติดอยู่ในดินแดนลึกลับนี้ต่อไปเพื่อพยายามช่วยเหลือพ่อ และแม่ พร้อมกับหาทางออกไปสู่โลกของเธอให้ได้ ขอบคุณภาพจาก en.wikipedia.orgถึงแม้ Spirit Away จะเก่าที่สุดในลิสต์ของวันนี้ แต่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ปีก็ตาม ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ยังจะสามารถหยิบขึ้นมาชม และสนุกไปกับมันได้ในทุกๆ ช่วงเวลาของชีวิต โดยส่วนตัวผู้เขียนเองดูเรื่องนี้มาแล้ว 3 ครั้ง โดยในแต่ละครั้ง ข้อคิดที่ได้หลังดูจบจะไม่ซ้ำกันเลยในแต่ละครั้ง ข้อคิดนั้นมักจะเปลี่ยนไปตามช่วงอายุของเรา ซึ่งถือว่าผู้สร้างทำเรื่องนี้ออกมาได้ดีมากๆ เลยครับจบไปแล้วนะครับกับภาพยนตร์ที่ควรดูทั้ง 3 เรื่อง ในครั้งหน้าจะมีเรื่องอะไรมาแนะนำอีก ฝากติดตามด้วยนะครับ