the MENU เมนูสยอง นับว่าเป็นภาพยนตร์ที่สร้างสรรค์มากๆกับเรื่องเล่าเรื่องหรือแม้แต่พล็อตเรื่อง ที่บอกได้เลยว่าเป็นภาพยนตร์ระทึกขวัญที่ไม่ได้ทำให้เราเล่าคนดูสะดุ้งตอนดู แต่ทำให้เราได้หวนคิดตามกับเรื่องราวที่เสิร์ฟมาให้ได้ชม นับว่าเป็นภาพยนตร์แนวสยองขวัญเสียดสีสังคมได้อย่างดีกับฝีมือการกำกับของ Mark Mylod เขียนบทโดย Seth Reiss และ Will Tracy และยังได้ทีมนักแสดงมาฝีมือที่ขนกันมาเต็มขบวนไม่ว่าจะเป็น อันยา เทเลอร์-จอย, เรล์ฟ ไฟนส์, นิโคลัส โฮลต์ นับว่าเป็นการกลับมานั่งเก้าอี้ผู้กำกับอย่าง มาร์ค ไมลอด กับการทำภาพยนตร์ที่ต้อบอกว่ามีความเป็นเข้าสุดๆเพราะใส่ลูกเล่นและชั้นเชิงเข้ามาอย่างเต็มล้น และต้องยอมรับว่าเป็นการหวนคืนบัลลังก์ได้อย่างสวยงามตอนผู้เขียนดูลายละเอียดภาพยนตร์บอกได้คำเดียวเลยว่าเรื่องนี้ต้องดีมากแนะๆ เพราะการันตีด้วยชื่อของผู้กำกับคนนี้ นอกจากนักแสดงตัวใหญ่ๆแล้วยังหนีไม่พ้นนักแสดงในเรื่องที่ต้องบอกว่าขนกันมาเต็มสุดๆ อย่าง เจเน็จ แม็คเทียร์, ฮง เชา, จอห์น เลอกิซาโม หรือ จูดิธ ไลต์ นับว่าเป็นอะไรที่ควรค่าแก่การชมแบบสุดๆเลยจริงๆเล่าย่อๆเรื่องราวมันเริ่มขึ้นเมื่อกลุ่มคนดังในแวดวงการอาหารทั้งหลายมารวมตัวกันเพื่อเดินทางไปทานอาหารที่ ฮอว์ธอร์น อาณาจักรร้านอาหารหรูที่มีความกว้างขวางใหญ่โตทั้ง 12 เอเคอร์ ที่มีทะเลล้อมลอบ เมื่อมาถึงร้านอาหารพวกเขาก็ไม่เจอในสิ่งที่พวกเขาควรจะเจอ เมื่ออาหารเริ่มเสิร์ฟ ความวินาศสันตะโรก็เริ่มขึ้น พวกเขาจะได้กินอาหารอย่างมีความสุขในค่ำคืนที่หรูหรานี้อย่างอร่อยขนาดไหนต้องไปดู“กล้องพร้อม นักแสดงพร้อม เทปเดิน…ซีน 1 คัท 1 เทค 1…แอ็กชัน”1 ซีน (Scene) คือ “ฉาก” ว่าด้วยเรื่องของฉาก / ภาพยนตร์ได้นำเสนอเรื่องราวต่างๆออกมาได้อย่างน่าสนใจ ตั้งแต่เริ่มเรื่องเลยก็ว่าได้ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนอเหล่าตัวละครที่ขนกันเข้ามาตั้งแต่นาทีแรกที่ภาพยนตร์เล่น การลำดับภาพถือว่าทำออกมาได้อย่างไม่เคอะเขิน เสิร์ฟเมนูท่านเล่นได้อย่างตรงไปตรงมา เล่าและใส่ลายละเอียดของภาพยนตร์ด้วยการค่อยๆไต่ละดับขึ้นไปเรื่อยๆ เซอร์ไพรส์ในด้านของธีมหลังที่สวยงามไม่ได้ทำให้เราเหล่าคนดูเดาได้ตั้งแต่แรก นี้จึงเป็นภาพยนตร์ที่ผู้เขียนยอมรับเลยว่าเกินความคาดเดา ภาพยนตร์ที่ใส่ความครบสูตรจริงๆ ถึงกระนั้นรสชาติของของภาพยนตร์ก็ถูกปรุงขึ้นใหม่ให้อร่อย ด้วยการเสิร์ฟธีมหลักที่น่าจับตาที่สุดของเรื่อง สิ่งหนึ่งที่ผู้เขียนชอบนั้นก็คือ การที่เราจะท่านอาหารสักหนึ่งอย่างและมีคนมาอธิบายว่าอาหารนี้มี concept design อย่างไร หรือ Inspire มาจากที่ไหน และ Reference การทำมาอย่างไร ผู้เขียนมองว่าภาพยนตร์ทำออกมาได้ดี และเสนอมันออกมาได้อย่างสวยงาม ผ่านฉากในเรื่องและค่อยๆไต่ละดับความระทึกขึ้นเรื่อยๆจนกลายเป็นภาพยนตร์ ที่ต้องบอกว่าเสียดสีตีแผ่สังคมในวงการอาหารหรือแม้แต่สังคมบริโภคนิยมได้อย่างดีและสวยงามสุดๆ อีกเรื่องเลยก็ว่าได้ กระนั้นเองภาพยนตร์ยังเสิร์ฟความระทึกตามแบบฉบับของภาพยนตร์แนวนี้ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เสนอความหลอนที่จะทำให้เราเหล่าคนดูสะดุ้งได้ แต่ภาพยนตร์ก็ได้นำเสนอความระทึกแบบเรียบๆแต่ใส่ความเป็นจิตวิทยามาแทนก็น่าสนใจมากเกินพอ2 คัท (Cut) คือ “มุม”ว่าด้วยเรื่องของบท / เป็นภาพยนตร์ที่มีบทที่สุดยอดมากๆในมุมของผู้เขียน ตัวภาพยนตร์ที่มีพล็อตเป็นร้านอาหาร แต่ไม่มีการไล่ล่าแขกเพื่อนำมาทำอาหารแล้วจะเป็นภาพยนตร์ระทึกขวัญได้อย่างไร ตัวภาพยนตร์เผยเรื่องราวของมาเป็นขั้นให้เหมือนกับการเสิร์ฟอาหาร และเรื่องราวเหล่านั้นเองก็เป็นเรื่องราวที่ผู้เขียนชอบมากๆ เพราะการเสิร์ฟอาหารแต่ละครั้งการลำดับเรื่องก็จะเล่าตามเมนูที่เสิร์ฟ ภาพยนตร์ทำมันออกมาได้ดีไม่ว่าจะเป็น การรังสรรค์รสชาติอาหารแต่ละจานว่าเป็นอย่างไร ต้องมีความสอดคล้องกันไปและส่งเสริมกัน เพราะนอกจากรสชาติแล้ว “อารมณ์” “ความรู้สึก” ของเราเหล่าคนดูก็เพิ่มขึ้นมาอีกหลายเท่าตัว แต่สิ่งหนึ่งที่น่าเสียดาย และน่าจะเป็นหลุมใหญ่ๆของภาพยนตร์เรื่องนี้ก็เป็นได้ นั้นก็คือภูมิหลังของตัวละครทั้งหลายในเรื่องที่เราเหล่าคนดูไม่อาจ ที่จะรู้ได้เลยว่าพวกเขามีความเป็นมาอย่างไร แต่ภาพยนตร์เลือกที่จะยัดให้เราเหล่าคนดูโยตรงและเป็นอะไรที่เราไม่อาจได้รู้มันเลย จนกระทั้งภาพยนตร์จบลงและปล่อยเราในลอยทะเล แต่ที่แน่ๆความจริงที่ว่าตลกร้ายและการเสียดสี บทภาพยนตร์เรื่องนี้ก็เข้าท่าเข้าทางที่สุดเลยก็ว่าได้ 3 เทค (Take) คือ “จำนวนครั้งที่เล่น”ว่าด้วยเรื่องของตัวละคร / การที่ภาพยนตร์ใส่ตัวละครที่มีความหลายหลากเข้ามาในเรื่อง ผู้เขียนมองว่าทีมสร้างตัดสินใจทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว เพราะการที่ใส่ตัวละครที่มีความหลากหลายไม่ว่าจะเป็นตัวละครที่เป็นนักชิมมืออาชีพ นักวิจารณ์อาหาร นักแสดง นักธุรกิจ หรือแม้แต่ตัวละครอย่างตัวเอกของเรื่อง เหมือนกับว่าตัวละครเหล่านี้กำลังเป็นตัวแทนของทุกคน แล้วยังเป็นตัวแทนของเราเหล่าคนดูที่มีความสงใสใคร่รู้อยู่ในกลุ่มนี้ด้วย เป็นอะไรที่น่าสนใจจริงๆ การใส่ตัวละครเข้ามาแบบนี้ผู้เขียนนึกถึงว่าทีมสร้างจงใจใส่ความตลกร้าย และน่าจะโดนกันทุกวงการเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นนักชิม นักวิจารณ์ หรือแม้แต่ตัวผู้เขียนเองก็โดนไปเต็มๆ และที่เจ๋งไปมากกว่านั้นคงหนีไม่พ้นทีมนักแสดงและแน่นอนว่า นี้คือตัวดึงให้ภาพยนตร์เรื่องนี้มาถึงจุดนี้ได้ก็ต้องบอกว่าทีมนักแสดงนี้แหล่ะ อย่างตัวผู้เขียนเองที่ต้องบอกว่าเป็นแฟนภาพยนตร์ของ อันยา เทเลอร์-จอย จึงเป็นสิ่งแรกที่ผู้เขียนเขาโรงภาพยนตร์เพื่อไปดูน้องเขาจริงๆ นักแสดงทุกคนทำออดมาได้ดีมากๆ เข้าถึงคาแรกเตอร์กันแบบสุดๆ ตังเอกของเรื่องที่แท้จริงต้องยกให้กับตัวตึงอย่างเชฟ ด้วยการเดินลายละเอียดการแสดงหรือแม้แต่การขยับตัวไม่กี่ครั้ง สีหน้าแววตาท่าทางต้องทำให้เราเหล่าคนดูรู้สึกได้ถึงความตรึงเครียดอะไรบางอย่าง พอมาคิดๆดูแล้วถ้ามีคนแบบนี้จริงๆเราคงทำตัวไม่ถูกแน่ๆ4 Slate คือ ป้ายที่เขียนบอก ซีน คัท เทคว่าด้วยเรื่องของความหมาย / AMUSE BOUCHE (อาหารเรียกน้ำย่อย - เมล่อนแตงกวา,หิมะนม,ใยเผา) FIRST COURSE (จานที่หนึ่ง - เกาะสวรรค์) เกาะแห่งนี้และสารอาหารที่ทำให้เกิดการมีอยู่ในสภาพสมบูรณ์ที่สุดโดยเราไม่ต้องไปเก็บเกี่ยวมันหรือควบคุมหรือทำลายพวกมันสิ่งที่เกิดขึ้นในห้องนี้ช่างไร้ความหมายถ้าเทียบกับสิ่งที่เกิดขึ้นในธรรมชาติ เราเหล่าคนดูก็เป็นได้แค่สิ่งที่น่ากลัวสำหรับสิ่งเหล่านั้น SECOND COURSE (จานที่สอง – จานขนมปัง ไร้ขนมปัง) ขนมปังเป็นอาหารที่อยู่บนโลกใบนี้มามากกว่า 12,000 ปี โดยเฉพาะในกลุ่มคนยากจน ไพร่ยุคกรีกโบราณจิ้มขนมปักเหม็นหืนกับไวน์กินเป็นอาหารเช้า และทำไมพระเจ้าได้สอนเราว่าให้สวดอ้อนวอนของให้ได้กินขนมปังทุกวัน เพราะไม่ว่ายังไงก็จะมีอาหารสำหรับคนธรรมดาตลอดไป THIRD COURSE (จานที่สาม - ความทรงจำ) เรามักจะจำเรื่องราวทั้งดีและร้ายทั้งทุกข์และสุขและภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ใส่มันเข้ามาได้อย่างน่าสนใจ ถือได้ว่าภาพยนตร์ทีมีความหมายในตัวของมันเองที่เสนอออกมาได้อย่างเด่นชัด แต่ผู้เขียนยกมา แค่สามอย่างเพื่อเป็นการเรียกน้ำย่อยให้เราเหล่าคนดูไปหาคำตอบที่ คมคายและแสบสันเหล่านี้ด้วยตัวของผู้อ่านเอง เพราะเอาเข้าจริงๆเขาแค่กินเพื่อใหม่ชีวิตอยู่ในวันต่อไป5 “คัท !!!!”อันยา เทเลอร์-จอย เป็นตัวละครที่มีน่าที่และบทบาดเป็นตัวเชื่อตัวละครในเรื่อง และคนดูอย่างเราๆได้อย่างสวยงาม ด้วยคาแรกเตอร์ที่สง่างามของเธอก็ยังคงเป็นเสน่ห์ที่ดึงดูดสายตาทุกคู่ของเราเหล่าคนดูได้อย่างอยู่หมัด นักแสดงการดำเนินเรื่องการออกแบบฉากผู้เขียนยอมรับเลยว่าดีจริงๆ แต่หากมองมาที่ตัวภาพยนตร์อย่างที่ผู้เขียนได้กล่าวไว้เบื้องต้นแล้วว่างมันมีช่องว่างจริงๆทั้งในแง่ของเรื่องบทและภูมิหลังของตัวละคร ลายละเอียดบางอย่างมันไม่ได้ใส่เข้ามามากพอเมื่อที่ว่า แต่เหล่าคนดูอย่างเราถูกมัดมือชกจนสะบัดสะบอมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นั้นจงทำให้เป็นช่องว่างที่มองว่าแม้วิถีการเล่าเรื่องจะเจ๋งเพียงไร ประเด็นเสียดสีจะดีมากแค่ไหนก็ไม่ได้ถมช่องว่างนี้ได้เลยแม้แต่น้อย มันเลยกลายเป็นภาพยนตร์ที่พล็อตธรรมดาเรื่องหนึ่งเลยก็ว่าได้ Mood and Tone ถือว่าทำออกมาได้ดีสมกับที่เป็นคือหรูอาหารอร่อยก่อนวันสุดท้ายของชีวิตได้จริงๆ Easter Egg มากมายในเรื่องเป็นการเสริมเรื่องราวของภาพยนตร์ให้มรความระทึกมากอย่างขึ้น ประเด็นเสียดสีสังคมรวมไปถึงความหมายที่ยกมาทั้งเรื่องผู้เขียนต้องยอมรับมันจริงๆ ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้คือที่สุด รวมมาถึงฉากที่มันเป็นตัวดึงดูดคนดูได้อย่างอยู่หมัด ตามที่กล่าวไว้ข้างต้นว่าถึงแม้จะไม่ได้เป็นระทึกขวัญตามสูตรสำเร็จอย่างที่เคยเห็นแต่ความเจ๋งมันก็มีอยู่ในทุกที่ทั้งเรื่องที่เผยออกมา อยากให้ผู้อ่านได้ดู the MENU : เมนูสยองชอบ Dialog นี้ (แล้วเราก็มาถึงจุดที่เป็นศูนย์รวมแห่งความยกยอตอแหล) - มาร์โก(สิ่งหนึ่งที่คนดูอย่างผู้เขียนเห็นคือความตั้งใจของทีมผู้กำกับทีมนักแสดง คะแนนเต็มแบบไหนอย่างไรไม่ควรนำมาตัดสิน กับเรื่องของภาพยนตร์ , อนิเมะ , ซีรีส์ , แอนิเมชัน และเกม "คะแนนของคุณไม่ใช่คะแนนของใคร ที่สำคัญกำลังใจย่อมดีกว่าการตัดสินด้วยคะแนน" ผู้เขียนจะย้ำอยู่เสมอ สิบปากว่าไม่เท่าตาคุณเห็น ต้องชมเองให้ได้เท่านั้น)#จิปาถะและอรรถรสขอบคุณภาพประกอบจาก Searchlight Pictures / The Menu - ปก / 1 / 2 / 3 / 4 / 5 / 6 / 7 / 8 / 9 / 10 / 11 / 12 / 13 / 14 / 15 / 16 ขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติมจาก End Credits ท้ายเรื่อง และการเป็นแฟนเดนตายผู้กำกับภาพยนตร์ , อนิเมะ , ซีรีส์ , แอนิเมชัน และเกม นักเขียนบทภาพยนตร์ , อนิเมะ , ซีรีส์ , แอนิเมชัน และเกม นักแสดงทุกท่านทีมสร้างภาพยนตร์ , อนิเมะ , ซีรีส์ , แอนิเมชัน และเกมทุกคนและบริษัทและค่ายผู้ผลิตภาพยนตร์ , อนิเมะ , ซีรีส์ , แอนิเมชัน และเกมและในวันนี้ก่อนจากกันไปบอกเราหน่อยว่าผู้อ่านเป็นแฟนภาพยนตร์เรื่อง the MENU เมนูสยอง เพราะอะไร อย่าลืมกดติดตามเพื่อเป็นกำลังใจ แล้วท่านจะไม่พลาดเหล่าคอนเทนต์ใหม่ๆที่ทาง จิปาถะ และ อรรถรส จัดมาให้แบบ Exclusive เจาะลึกถึงวงการบันเทิงที่มากกว่าใคร หากคุณรักภาพยนตร์ รักซีรีส์ อนิเมะ แอนิเมชัน และเกม ที่เดียวที่ จิปาถะ และ อรรถรสจะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !