มาต่อกันกับภาพยนต์สายร็อคน้องใหม่ที่เพิ่งเข้า Netflix ไปเร็วๆนี้กับ "Metal Lords" หนังคอมเมดี้ ดราม่า แนวดนตรีร็อคเมทัล ที่จะถ่ายถอดความเป็นร็อคเมทัลผ่านมุมมองของวัยรุ่นมัธยมกับมิตรภาพและดนตรี ที่มาผสานกัน โดยได้นักแสดงอย่าง น้องเจเดน (Jaeden Martell) นักแสดงหนุ่มน้อยชาวอเมริกันที่ฝีมือการแสดงไม่ใช่เล่นๆ ทั้งโด่งดังและได้รับกระแสตอบรับจากหนังดังหลายเรื่องไม่ว่าจะเป็น It, Knives Out, The Lost Boys และอื่นๆอีกมากมายที่เจเดนได้ฝากฝังฝีมือการแสดงเอาไว้ และนี่ถือเป็นการเปิดตัวในภาพยนต์ครั้งแรกของหนุ่ม Adrian Greensmith เรียกได้ว่าน่าจับตามองสุดๆสำหรับหนังเรื่องนี้โดย "Metal Lords" ได้ Peter Sollett มาเป็นผู้กำกับเรื่องนี้ ซึ่งปีเตอร์เองก็ผ่านงานกำกับภาพยนตร์มาหลายเรื่อง เช่น Raising Victor Vargas, Nick and Norah’s Infinite Playlist รวมไปถึง Minecraft ด้วย จริงๆผลงานของปีเตอร์ค่อนข้างน่าสนใจมาก อีกทั้งยังได้ D.B. Weiss นักเขียนบทจากบัลลังก์ อย่างซีรีส์ในตำนานอย่าง Game of Thrones บอกได้เลยว่าแม้หนังเรื่องนี้จะเป็นหนังคอมเมดี้ หนังวัยรุ่นที่อาจจะไม่ได้ซับซ้อนอะไรมากนัก แต่ก็อัดแน่นไปด้วยทีมงานเบื้องลึกเบื้องหลังที่คุณภาพแน่นมากๆเรื่องย่อว่าด้วยเรื่องราวของ "เควิน" หนุ่มมือกลองสุดเนิร์ด ที่มีเพื่อนซี้ชื่อ "ฮันเตอร์" หนุ่มร็อคเมทัลที่มีความตั้งใจสูงสุดอยากจะสร้างวงเมทัลให้เป็นตำนาน เพื่อไปแข่งประกวดในงานโรงเรียนที่กำลังจะมาถึง แต่ติดปัญหาที่ในวงยังไม่มีมือเบส ในระหว่างนี้จึงต้องช่วยกันตามหามือเบสกันให้วุ่น จนกระทั่งไปเจอ "เอมิลี่" สาวน้อยเชลโล่สุดเฟี้ยวที่มีความเป็นเมทัลสุดๆ พร้อมกับการรับมือเรื่องป่วนๆ ที่สุดแสนจะวุ่นวายที่ตามมา ต้องมาดูกันว่า เควินและฮันเตอร์ จะสามารถสร้างวงเมทัลให้เป็นตำนานได้หรือไม่การดำเนินเรื่องตัวเรื่องเองมี Dynamic ที่ค่อนข้างดีมากตั้งเริ่มจนจบ เป็นไปตามสูตรหนังวัยรุ่น แต่เสน่ห์ของเรื่องนี้คือ ความเมทัลแบบหนัก แบบจัดเต็ม แต่ผสานเข้ากับความเป็นคอมเมดี้ได้อย่างละมุนละม่อมมากๆ จุดที่ทำให้ชอบมากๆของเรื่องนี้เลยคือการใส่เพลงร็อคเข้ามาประกอบได้อย่างสมูท ค่อยๆให้เพลงพาตัวเรื่องดำเนินไป อย่างตัวเราเองที่ไม่ค่อยถนัดเรื่องเพลงร็อคเท่าไหร่นัก ก็รู้สึกสบายและได้เรียนรู้เกี่ยวกับดนตรีแนวนี้มากขึ้น สิ่งที่ต้องทำให้ได้คือความมุ่งมั่นและเสียสละ เพลงเมทัลมันสำคัญแบบนั้นแหละตัวความสัมพันธ์ของตัวละครก็ดีเลยทีเดียว ไม่ได้มีอะไรที่น่าตื่นเต้นมาก แต่ด้วยความเรียบง่ายของเรื่องมันก็เลยทำให้ดูเป็นธรรมชาติมากๆ และการแสดงของ Adrian Greensmith ในบทบาทของ ฮันเตอร์ ก็เรียกได้ว่าสุดยอดมากๆ ถ่ายถอดความเบียวเมทัลของฮันเตอร์ออกมาได้อย่างเต็มรูปแบบ จนไม่น่าเชื่อว่านี่คือผลงานการแสดงภาพยนต์เรื่องแรกของเอเดรียน ส่วนตัวชอบการปรุงแต่งตัวละครของหนังเรื่องนี้ มันกลมกล่อม และทำให้ตัวละครดูมิติดี มีทั้งด้านแย่และดีปะปนกันไป ดูเป็นธรรมชาติของวัยรุ่นที่อยู่ในวัยที่กำลังพยายามสร้างตัวตนสร้างคาแรคเตอร์ และการตามหาความฝัน ด้วยลูกเล่นและกลิ่นอายแบบร็อคเมทัลที่แฝงอยู่ภายในเรื่อง ทำให้เรื่องนี้โดดเด่นและพาคนดูอย่างเราสนุกได้ตั้งแต่ต้นจนจบ มันให้อารมณ์เหมือนดูหนังไทยอย่างเรื่อง "ซักซี้ด ห่วยขั้นเทพ" แต่อันนี้เป็นเวอร์ชั่นใหม่ เป็นแบบร็อค เป็นแบบยุค 2022 และการใส่รายละเอียดตำนานเพลงร็อคก็เรียกได้ว่าครบถ้วน มีระดับตำนานมาเต็มไปหมด และเพลงประกอบ "Machinery Of Torment" โดยได้ คาร์ล เรสติโว มาเป็นโปรดิวเซอร์เพลง และได้ Dan Weiss มาเขียนเนื้อเพลงให้ เป็นเพลงที่น่าจดจำและเป็นภาพจำของหนังเรื่องนี้มากๆเมทัลคือความมุ่งมั่น คือการยืนหยัดเพื่อความถูกต้อง การต่อต้านผู้มีอำนาจและเมทัลคือความเร็วสรุป เมทัล ลอร์ด ก็เป็นหนังอีกเรื่องที่สนุก ดูง่าย แถมยังได้พลังของความเมทัลกลับมาด้วย มันเป็นหนังวัยรุ่นที่เรียกเสียงหัวเราะ และส่งความสุขกลับคืนให้แก่คนดูได้อย่างเต็มเปี่ยม ไม่ควรพลาดเลยจริงๆ ทั้งตัวหนังเองและเพลงประกอบดีๆที่ "Metal Lords" จะตอบโจทย์ทุกความร็อคให้แก่คุณ เปิด Netflix แล้วไปดูกันโลดhttps://www.youtube.com/watch?v=30L42EUymkoขอบุณวิดีโอ เมทัลลอร์ด (Metal Lords) | ดี.บี. ไวสส์ | ตัวอย่างภาพยนตร์อย่างเป็นทางการ จาก Netflix Thailandขอบคุณภาพปก จาก Metal Lords Netflix และ ภาพประกอบ 1/2-1,2-2/3/4/5 จาก @NetflixFilmจะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !