👩🏻⚕️Resident Playbook เพลย์บุ๊คชุดกาวน์ — 5 เหตุผลที่ต้องรีบเปลี่ยนเวร มาดูด่วน! ใครเคยหลงรัก Hospital Playlist จนอยากสมัครเป็นแพทย์เฉพาะทางแค่เพื่อไปอยู่ทีมเดียวกับคุณหมออิกจุน—ขอให้มารวมตัวกันค่ะ! เพราะจักรวาลเดียวกันกำลังจะกลับมาอีกครั้งใน Resident Playbook หรือ เพลย์บุ๊คชุดกาวน์ ซีรีส์ใหม่จากผู้กำกับและทีมเขียนบทในตำนาน ที่คราวนี้เล่าเรื่องชีวิตของเหล่าแพทย์ประจำบ้าน (resident) ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่อยู่กึ่งกลางระหว่างคำว่า "มือใหม่" กับ "แบกรับชีวิตคนไข้ได้แล้ว" รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! และนี่คือ 5 เหตุผลแบบเน้นๆ ที่ทำให้คุณต้อง ห้ามพลาดเรื่องนี้เด็ดขาด! ☁️ 1. กลิ่นอาย Hospital Playlist กลับมาแบบฟูลฟีล จนคิดถึงน้ำตาจะไหล ถ้าเคยดู Hospital Playlist แล้วรู้สึกว่าซีรีส์แบบนี้แหละที่ใจเราต้องการ! บอกเลยว่า Resident Playbook หยิบ DNA ตรงนั้นมาใส่ไว้ครบหมด ทั้งอารมณ์ละมุนๆ ซีนหมอๆ ที่คุยเล่นกันในห้องพักคนไข้ การทำงานที่มีทั้งเสียงหัวเราะ ความเครียด และมิตรภาพที่เติบโตไปพร้อมกับความรับผิดชอบ มันไม่ใช่แค่ซีรีส์หมอที่โชว์ฉากผ่าตัดตึงๆเท่านั้นนะ แต่มันคือซีรีส์ที่เล่าเรื่องคนผ่านความเป็นหมอและทำให้คนดูรู้สึกอบอุ่นได้แม้ในวันที่หัวใจเหนื่อยเป็นกลิ่นอายที่เหมือนกลับไปเยี่ยมเพื่อนเก่าในโรงพยาบาลนั้นอีกครั้งแค่เปลี่ยนรุ่นเปลี่ยนมุมมอง 🧠 2. ซีรีส์ที่ทำให้คุณเข้าใจว่า "แพทย์" ไม่ใช่คนเก่งที่สุดในห้อง แต่คือคนที่แบกความไม่แน่ใจไว้มากที่สุด หลายคนมองหมอว่าเป็นมนุษย์ที่ตัดสินใจเฉียบขาด ฉลาดหลักแหลม และใจแข็งพอจะไม่สั่นไหวต่อความเป็นความตาย แต่ Resident Playbook พาเราลงลึกไปกว่านั้นให้เราได้เห็นว่า เบื้องหลังหน้ากากของคำว่า “หมอ” คือความเปราะบาง ความลังเล และคำถามมากมายที่ไม่มีใครสอนในตำรา เป็นซีรีส์ที่ไม่ได้บอกว่าหมอเก่งแต่บอกว่าหมอพยายาม พยายามเข้าใจคนไข้ พยายามฝืนไม่ร้องไห้ พยายามทำให้ดีที่สุดทั้งที่ตัวเองก็อาจจะยังไม่พร้อมนั่นแหละคือเสน่ห์ที่ทำให้ดูแล้วจุกตรงอกอย่างไม่รู้ตัว 🩺 3. เปิดโลกชีวิต “แพทย์ประจำบ้าน” ที่ต้องเอาตัวรอดทั้งในห้องผ่าตัดและในใจตัวเอง ในขณะที่ซีรีส์หมอส่วนใหญ่มักจะพาเราไปดูหมอระดับอาจารย์ที่เชี่ยวชาญสุดๆ Resident Playbook เลือกเล่าเรื่องของหมอประจำบ้านซึ่งเป็นเหมือนนักเรียนที่อยู่ในสนามรบจริง ต้องเรียนรู้ทุกอย่างไปพร้อมกับการทำงานจริง เราจะได้เห็นมุมที่หมอนอนในห้องพักจนหลังยึด กินมื้อดึกตอนตีสี่แบบรีบๆ เพราะอีกสิบนาทีต้องไปดูเคสต่อหรือแม้กระทั่งการตัดสินใจที่ผิดพลาดไปแค่หนึ่งจังหวะแต่กลายเป็นเรื่องที่หลอนใจไปตลอดชีวิต เรื่องนี้ไม่ได้โหดเพราะมีเลือดหรือฉากผ่าตัดแบบกราฟิกโหดๆแต่มันโหดที่ความเป็นจริงของการทำงานในโรงพยาบาลถูกถ่ายทอดออกมาแบบไม่แต่งเติมและเราก็อินกับมันโดยไม่รู้ตัว 🥰 4. แคสต์น่ารัก เคมีโคตรดี เหมือนเปิดดูเพื่อนกลุ่มนึงที่เราหลงรักตั้งแต่ EP แรก บอกเลยว่าแก๊ง Resident Playbook เคมีเข้ากันมากกกกกก จนบางฉากเหมือนแอบเปิดกล้องไปถ่ายเพื่อนกลุ่มนึงที่ใช้ชีวิตด้วยกันจริงๆ โดยเฉพาะ โกยุนจอง ที่โดดเด่นทั้งบทบาทและออร่า อบอุ่นแต่เข้มแข็ง นิ่งแต่มีพลัง และ ชเวยองจุน ที่มาแบบเงียบๆ แต่ตกแฟนคลับแบบเงียบๆ เช่นกัน (เชื่อเถอะว่าหลังดูจบชื่อเขาจะติดอยู่ในสมองคุณไปพักใหญ่) เรื่องราวความสัมพันธ์ในเรื่องนี้ไม่ได้เร่ง ไม่เฟค ไม่แอ๊บหวานแต่มีเสน่ห์ในความธรรมชาติที่ค่อยๆก่อตัวจนทำให้เราเผลอรักตัวละครพวกนี้เหมือนเป็นเพื่อนในชีวิตจริง 🎵 5. เพลงประกอบคืออบอุ่นหัวใจแบบที่เปิดวนได้ทั้งวัน ถ้า Hospital Playlist คือราชาแห่งเพลง cover ยุค 90s ที่ฟังแล้วคิดถึงวันเก่าๆ Resident Playbook ก็เดินตามทางนั้นแต่เพิ่มกลิ่นความเหงาและละมุนเข้าไปอีกขั้น เพลงประกอบในเรื่องนี้ไม่ได้มาแค่ประกอบฉาก แต่มาเพื่อขยี้หัวใจคนดูให้ละลาย มีทั้งเพลงช้าๆที่เปิดแล้วเหมือนโดนกอดและเพลงจังหวะนุ่มๆที่ฟังแล้วเหมือนได้พักใจตอนเหนื่อย เหมาะมากกับการเปิดฟังในคืนฝนตกหรือเปิดวนตอนทำงานแบบไม่ต้อง skip สักแทร็ก ในโลกที่เราต่างพยายามทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด Resident Playbook เพลย์บุ๊คชุดกาวน์ พาเราย้อนกลับมาเข้าใจว่า การพยายามแม้จะไม่สมบูรณ์แบบก็ยังมีคุณค่าเสมอ เป็นซีรีส์เบาสบายเพิ่มกำลังใจที่ดูแล้วเหมือนได้กอดตัวเองและได้รับพลังเล็กๆ ในวันที่ชีวิตมันหนักเกินแบก ถ้าคุณกำลังมองหาซีรีส์ที่ไม่เพอร์เฟกต์แต่จริงใจ Resident Playbook คือเพื่อนใหม่ที่คุณควรเปิดใจต้อนรับตอนนี้เลย ปักหมุดรอรับชมพร้อมกัน 12 เมษนี้ค่ะ 💙 ขอขอบคุณ ภาพปก ภาพที่ 1/2/3/4/5 โดย @tvN drama เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !