ปิดซีซั่น 3 ไปด้วยความอิ่มเอมใจ ใจฟูกันไปแล้ว และต้องบอกว่าอนิเมะเรื่องนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากทั้งโซนเอเชีย และโซนอื่นๆ อันที่จริงคงต้องบอกว่าไปทั่วทุกพื้นที่ที่สื่อความบันเทิงสามารถเข้าถึงเลยก็ว่าได้ ถือเป็นอนิเมะที่กู้เศรษฐกิจญี่ปุ่นในช่วงขาลงช่วงปีแรกๆ ที่มีโควิดด้วยนะคะ และฉากจบซีซั่น 3 ล่าสุดนั้นบางเมืองใหญ่อย่างนิวยอร์กถึงขั้นฉายภาพตัวละครต่างๆ ขึ้นบนจอมอนิเตอร์ใหญ่ยักษ์ทั่วมุมเมืองเลย และตอนนี้สตูดิโอก็คอนเฟิร์มแล้วว่ากำลังเตรียมสร้างซีซั่น 4 ภาคการสั่งสอนของเสาหลักให้แฟนๆ ได้เฮกัน เป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นมากๆ หนำซ้ำยังปล่อยภาพโปรโมทเสาหลักเพิ่มจนตอนนี้มีภาพโปรโมทของเสาหลักทั้ง 9 คนครบแล้วด้วย และระหว่างรอภาคใหม่เรามาทวนเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับดาบพิฆาตอสูรกันดีกว่าค่ะ https://twitter.com/kimetsu_off/status/1670239449022701568 EP.01 | ดาบพิฆาตอสูร หมู่บ้านช่างตีดาบ (ดูฟรี)1. เป็นเรื่องราวในยุคไทโช แทนที่จะเป็นเอโดะ ปกติแล้วทั้งอนิเมะและภาพยนตร์ต่างๆ ที่เกี่ยวกับนักดาบในญี่ปุ่นนั้นส่วนมากจะเลือกนำเสนอในช่วงยุคเอโดะซะมากกว่า เพราะในยุคเอโดะนั้นถือเป็นช่วงที่รุ่งเรืองของนักดาบเลย แต่ทว่าเรื่องนี้กลับเรื่องยุคไทโชแทน ซึ่งยุคนี้จัดเป็นยุคที่ดาบแทบจะไม่เป็นที่นิยมแล้ว ในเรื่องเราก็จะเห็นว่าถ้าตัวละครเขาจะต้องเดินไปไหนมาไหนในเมืองใหญ่เขาก็จะพยายามซ่อนดาบ ซึ่งในยุคนี้จัดว่าเป็นยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงอะไรหลายๆ อย่างในญี่ปุ่น และก็จัดเป็นยุคที่สั้นด้วย มีอายุประมาณ 15 ปีได้ เนื่องจากจักรพรรดิมีสุขภาพที่ไม่ค่อยแข็งแรง และมันก็เป็นยุคแห่งการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ความเจริญในยุคใหม่ดังนั้นในเรื่องเราก็จะเห็นทั้งบ้านเรื่อนในแบบดั่งเดิมของญี่ปุ่นและเมืองใหญ่ที่ดูโออ่า ก็ถือเป็นเสน่ห์อีกอย่างของเรื่องนี้เลย2. สาเหตุที่ต้องเป็นดาบนิชิรินเท่านั้นถึงจะสามารถฆ่าอสูรได้จริงๆ ส่วนนี้มีอธิบายสั้นๆ ในซีซั่นแรกแล้วนะ แต่มาทวนกันอีกรอบ ความพิเศษของดาบนิชิรินนั้นคือมันสามารถดูดกลืนแสงอาทิตย์ได้ และพวกอสูรมันก็แพ้แสงแดดไงดังนั้นดาบนิชิรินจึงเป็นอาวุธเพียงอย่างเดียวที่สามารถฆ่าอสูรให้ตายได้อย่างถาวร ซึ่งชื่อดาบก็จะมีตัวคันจิที่แปลว่า "ดวงอาทิตย์" หรือ "แสงอาทิตย์" รวมๆ ตัวคันจิทั้งหมดก็ได้คำแปลเต็มว่า "ใบมีดแสงอาทิตย์"3. ในบรรดาเสาหลักทั้ง 9 คน มีเพียง 4 คนเท่านั้นที่ใช้ดาบนิชิรินแบบมาตรฐาน คือเคียวจูโร่, กิยู, ซาเนมิ และมุอิจิโร่https://twitter.com/kimetsu_off/status/1664829265806802947?s=20รีวิวดาบพิฆาตอสูร Demon Slayer SS3 หมู่บ้านช่างตีดาบ4. เสาหลักที่กินจุที่สุดคือคันโรจิ มิตสึริ5. เสาหลักที่กินน้อยที่สุดและไม่ค่อยมีความอยากอาหารคือโอบาไน อิงุโระ 6. อันดับความแข็งแกร่งของเสาหลักในเรื่องพละกำลังกายในการจัดอันดับความแข็งแกร่งทางพละกำลังกายนั้น ข้อมูลของอนิเมะที่เปิดเผยมานั้นจะใช้เกณฑ์วัดจากการเล่นมวยปล้ำโดยผลที่ออกมาคือ เกียวเม ฮิเมจิมะ อันดับ 1 และ อุซุย เทนเง็น เป็นอันดับ 2 ตามด้วย เคียวจูโร, ซาเนมิ, กิยู, มิตสึรินั้นจัดว่าแข็งแกร่งในระดับปกติ ตามด้วยมุอิจิโร และโอบาไนกับชิโนบุ อยู่ในส่วนของกำลังกายระดับต่ำสุดจากเสาหลักทั้งหมด 8 เรื่องน่ารู้ของ มิตสึริ เสาหลักความรัก7. ความแข็งแกร่งทางด้านพละกำลังกายของทันจิโร่เมื่อเทียบกับเสาหลักทั้ง 9 แล้วเขาถูกจัดให้ในอันดับระหว่างมุอิจิโร่และโอบาไน8. อันดับเสาหลักที่วิ่งเร็วที่สุดข้อมูลอ้างอิงตามเว็บทางการจัดอันดับให้คนที่วิ่งเร็วสุดคือ อุซุย เทนเง็น ตามด้วยซาเนมิ, เกียวเม, ชิโนบุ, เคียวจูโร่, กิยู, โอบาไน, มุอิจิโร และคนที่ช้าสุดจะเป็นใครไปไม่ได้เลยก็คือคันโรจิ มิตสึรินั่นเอง ซึ่งในซีซั่น 3 เธอก็ถูกแฟนๆ แซวไปแล้วว่าใช้เวลาวิ่งนานถึง 4 ตอนเลยกว่าจะมีซีนสู้ ขำๆ กันไป9. อาหารโปรดของกิยูคือปลาแซลมอนต้มกับหัวไชเท้า 10. อีกาของกิยูเป็นอีกาที่มีอายุมากแล้วดังนั้นบ่อยครั้งที่อีกาของเขามักจะส่งข้อความคลาดเคลื่อนและยังเคลื่อนไหวช้าอีกด้วย11. นักพากย์เสียงกิยูทั้งในเวอร์ชันภาษาญี่ปุ่นและอังกฤษเป็นเสียงเดียวกับตัวละครซาโซริจาก นารูโตะ ชิปปุนเดง ไม่น่าเชื่อเลยจริงๆ จากใจแฟนโตะ ถึงซาโซริจะนิ่งเงียบคล้ายกิยูแต่คาแรกเตอร์ต่างกันมากเลย12. กิยูถูกเซนอิทสึมองว่าเป็นคู่แข่งทางความรักเนื่องจากฮาโอริ หรือก็คือเสื้อคลุมที่ใช้สวมทับชุดกิโมโนของกิยูเกือบถูกฉีกขาดจากการต่อสู้อย่างดุเดือดกับมูซัน แต่ด้วยความสามารถทางการเย็บปักถักร้อยของเนซึโกะ ฮาโอริของกิยูจึงถูกซ่อมให้กลับมาดูดีใช้งานได้ แล้วกิยูก็รู้สึกประทับใจมากก็เลยส่งของขวัญมากมายทั้งชุดกิโมโน เครื่องประดับสวยงามมาให้เนซึโกะ ทำให้เซนอิทสึผู้ตกหลุมรักเนซึโกะมองกิยูเป็นคู่แข่งทางความรักไปโดยปริยาย 13. เครื่องแบบหญิงของนักล่าอสูรแบบเดิมออกแบบให้เปิดตรงกลางหน้าอกแต่เนื่องจากชิโนบุไม่ชอบลักษณะการออกแบบนี้เป็นอย่างมากเธอก็เลยเผาเครื่องแบบดั้งเดิมต่อหน้าต่อตาผู้ออกแบบเสื้อมันซะเลย หนำซ้ำเธอยังยื่นไม้ขีดไฟและน้ำมันให้คานาโอะ และอาโออิเผามันด้วยเช่นกัน มีเพียงมิตสึริเท่านั้นที่ไม่กล้าเผา ดังนั้นมิตสึริจึงมีเครื่องแบบที่แปลกไปจากคนอื่นๆ 14. ข้อมูลเรื่องปริมาณพิษในร่างกายของชิโนบุถูกแก้ไขใหม่จากเดิมที่ระบุว่ามีปริมาณ 70 เท่าของปริมาณพิษร้ายแรงเป็น 700 เท่าในภายหลัง15. อาหารโปรดของเคียวจูโร่คือมันเทศ แล้วเวลากินก็ร้องบอกว่า "อุไม" ( อร่อย ) ทุกครั้ง ส่วนเครื่องเคียงที่เขาชอบคือปลาทรายแดงย่างเกลือ16. เคียวจูโร่รู้สึกเคารพนับถือชิโนบุที่สุด เพราะเขารู้สึกทึ่งที่เธอสามารถพัฒนาพิษ และนำมาใช้ในการต่อสู้ได้เป็นอย่างดี ทำให้แม้ว่าร่างกายชิโนบุจะดูเป็นเสาหลักที่เสียเปรียบในการต่อสู้ที่สุดแต่เธอก็แข็งแกร่งไม่แพ้คนอื่นด้วยความรู้และความสามารถที่โดดเด่นของตัวเธอเองทำความรู้จัก "เรนโงคุ เคียวจูโร่" เสาหลักเพลิง 17. มิตสึริชอบอาหารตะวันตกมากเป็นพิเศษ เช่น แพนเค้กและไข่เจียว 18. มีเพียงอิโนะสุเกะและอุซุยเท่านั้นที่ใช้ดาบสองเล่มในการต่อสู้19. มุอิจิโร่มีความสามารถเหนือคนอื่นมาก เขาสามารถเป็นเสาหลักได้หลังจากหยิบดาบขึ้นมาฝึกอย่างหนักเพียงสองเดือนเท่านั้นเอง20. มุอิจิโร่ไม่สามารถมีสัตว์เลี้ยงได้เพราะอีกาของเขาจะอิจฉา21. มุอิจิโร่มักเปรียบเสาหลักคนอื่นๆ เหมือนสัตว์ในแบบต่างๆ เช่น ชิโนบุเหมือนกนางแอ่นที่มีรอยยิ้มที่อ่อนโยน อุซุยเหมือนลิงที่พร้อมขยำหัวเขา เกียวเมเหมือนหมีที่ดูแข็งแกร่ง เคียวจูโจ่เหมือนนกฮูกที่ดูมีชีวิตชีวา โอบาไนเหมือนแมวป่าที่มีตาสวยงาม มิตสึริเหมือนลูกเจี๊ยบสีชมพู ซาเนมิเหมือนหมาป่าแต่ทว่าสำหรับกิยูเขามองเห็นเป็นของประดับตกแต่ง ฮ่าๆ 22. เซนอิทสึเคยมีผมสีดำมาก่อนแต่เพราะถูฟ้าผ่าสีผมจึงได้เปลี่ยนไปเป็นสีเหลืองไล่สีส้มแทน 23. เสื้อคุมลายสามเหลี่ยมของเซนอิทสึมีความหมายถึงสัญลักษณ์แห่งชีวิต ความร้อนและความเร้าร้อนของชีวิต นอกจากนี้ยังเป็นสัญลักษณ์ถึงการตระหนักรู้ เป็นสัญลักษณ์แสดงถึงสติปัญญา 10 เรื่องน่ารู้ของ "อากาสึมะ เซ็นอิทสึ " ปราณอัสนี24. งูของโอบาไน ชื่อคาบุระมารุตา และสำหรับโอบาไนแล้วงูเปรียบเสมือนเพื่อนของเขามากกว่าสัตว์เลี้ยง25. ทันจิโร่ถูกอิโนะสุเกะเรียกชื่อผิดไปทั้งหมด 15 ครั้ง 15 ชื่อ ได้แก่ กอนปาจิโร่ คามาโบโกะ, เกงโกโระ ชาการิกิ, ทอนทาโร่ อิทาดากิ, คันจิโร่ อานาโกะ, แทงโกโระ ฮามาโดะ, จังโกโระ อมาโดะ, มอนจิโร่, เคนทาโร่, โซอิจิโร่, โซอิจิโร่, ซานทาโร่, โซจิโร่, ตันปาชิโระ หรือ ทันปาจิโร่ และคันปาจิโร่ ทั้งนี้ยังไม่นับรวมชื่อในฝัน แม้แต่ในฝันก็ยังเรียกผิด26. อิโนะสึเกะมีมิตรภาพที่แน่นแฟ้นกับเนซึโกะมาก เนื่องจากเนซึโกะมักจะใจดีกับเขาเสมอ ไม่เคยดุว่าเขา และเธอก็ไม่เคยหัวเราะเยาะเขาแม้ว่าพฤติกรรมบางอย่างของเขามันจะแปลกเกินคำอธิบาย อิโนะสึเกะจึงเคารพและปฏิบัติต่อเนซึโกะอย่างดีเหมือนแม่คนหนึ่ง ><" ทุกครั้งที่เนซึโกะแวะไปหาคานาโอะและอาโออิ อิโนะสึเกะก็จะไปอยู่กับเธอจนทำให้เซนอิทสึไม่พอใจอิโนะสึเกะในช่วงเวลานั้น27. อิโนะสุเกะถูกเกลียดชังโดยผู้ทำเครื่องแบบและช่างตีดาบ เพราะเขามักจะฉีกเสื้อส่วนบนของเครื่องแบบทิ้งเสมอ และมักจะใช้หินทุบดาบเพื่อให้บิ่นอีกด้วย 28. แม้ว่าอาโออิจะไม่ค่อยยิ้มแต่หนึ่งคนที่สามารถทำให้อาโออิยิ้มได้ก็คืออิโนะสุเกะ เขาสามารถทำให้เธอหัวเราะได้บ่อยครั้งด้วยการทำสิ่งที่ไม่คาดคิดว่าเขาจะทำ29. อีกาของอิโนะสึเกะจะซ่อนตัวเป็นส่วนใหญ่ เพราะโผล่มาทีไรอิโนะสึเกะก็จ้องจะกินทุกที ไม่รู้น้องไปหิวจากไหนอิโนะสึเกะนั้นเกือบจะกินอีกาของเขาถึง 18 ครั้งเลยทีเดียว30. คานาโอะไม่มีวันเกิดที่แท้จริงเพราะตัวเธอก็ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับตัวเองมากนัก ดังนั้นคานาเอะและชิโนบุเลยกำหนดให้เป็นวันที่ 19 พฤษภาคม ซึ่งเป็นรับที่สองพี่น้องอุปการะคานาโอะเข้ามานั่นเอง31. งานอดิเรกหลักของคานาโอะคือการเป่าฟองสบู่ นอกจากนี้เธอยังสนุกกับการซื้อขนมและเครื่องประดับด้วยเงินค่าขนมของเธอ ไม่ได้ซื้อให้ตัวเองอย่างเดียวแต่ยังซื้อให้ทุกคนที่คฤหาสน์ผีเสื้อด้วย น่ารักไปอีกจ้าาา32. เครื่องดื่มสุดโปรดของคานาโอะคือรามูเนะ ( เครื่องดื่มอัดลมของญี่ปุ่น ) และเธอก็ยังชอบทำอาหารของอาโออิทั้งหมด33. เหตุผลที่เนซึโกะไม่มัดผมหลังจากกลายเป็นอสูรเพราะเธอไม่สามารถมัดผมตัวเองได้และทันจิโร่ก็มัดผมไม่เก่งซะด้วย ก็เลยต้องปล่อยผมไว้แบบนั้น34. อาหารโปรดของเนซึโกะคือคอมเปโต ( konpeito ) ขนมน้ำตาลสี รูปร่างคล้ายลูกกลมๆ เล็กๆ 8 ความน่ารักของเนซึโกะ kamado nezuko 35. สาเหตุที่ซาคอนจิสวมหน้ากากตลอดเวลานั้นเพราะว่าเขามักถูกอสูรล้อเลียนใบหน้าที่อ่อนโยนของเขา36. เก็นยะถนัดการต่อสู้ด้วยปืนมากกว่าดาบ เพราะเขายิงแม่นมาก และไม่เคยพลาดเป้าสักครั้งเลย 37. จริงๆ แล้วเก็นยะเป็นคนขี้อาย และเพราะขี้อายจนไม่รู้จะวางตัวอย่างไรเขาก็เลยแสดงพฤติกรรมหยาบคายและเลือกเมินใส่ทุกคน อย่างที่เขาเมินมิตสึรินั้นจริงๆ ก็เพราะเขินอายอยู่ ซึ่งในภายหลังเขาก็ไปขอโทษอย่างสุภาพกับทุกคนสำหรับการกระทำในอดีตของเขา รวมถึงคานาตะ อุบุยาชิกิ เด็กที่เขาเคยหยาบคายใส่ในช่วงของการคัดเลือกนักล่าอสูรด้วย38. กระเป๋าของโยริอิจิจะพกขลุ่ยของพี่ชายเสมอ และกระเป๋านั้นก็อาจทำมาจากผ้าของกิโมโนของภรรยาผู้ล่วงลับไปแล้ว 39. แม่นางบิวะหรืออสูรบิวะมีชื่อจริงๆ ว่า นาคิเมะ เธอเป็นหนึ่งในอสูรระดับสูงที่มุซันชื่นชอบมากที่สุดเพราะเขาเชื่อว่าความสามารถของเธอมีประโยชน์มากที่สุด40. ตระกูลอุบุยาชิกิเป็นลูกหลานที่มีสายเลือดดั้งเดิมของมุซัน ดังนั้นจึงกลายเป็นตระกูลที่ถูกสาปด้วยโรคทางพันธุกรรมที่ไม่มีวิธีรักษาให้หาย สมาชิกในครอบครัวทุกคนทั้งในอดีตและปัจจุบันมักจะร่างกายอ่อนแอและมีอายุอยู่ได้ประมาณ 30 ปีเท่านั้น และนี่ก็คือ 40 เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่ถือเป็นเรื่องน่ารู้ ที่อาจจะช่วยเพิ่มอรรถรสในการรับชมให้สนุกมากยิ่งขึ้นไปอีก จริงๆ ก็อยากจะเขียนสัก 100 ข้อ เพราะนี่ก็ยังไม่รวมเรื่องน่ารู้อื่นๆ จากฝั่งอสูรและตัวละครอื่นๆ ที่ไม่ใช่ตัวหลักก็จริงแต่มีความน่าสนใจและโผล่ออกมาให้คนดูเห็นบ่อยๆ เช่น มุราตะ แต่แค่ 40 ข้อผู้เขียนก็ตาลายแล้ว เกรงว่าถ้าเยอะกว่านี้การตรวจคำผิดของผู้เขียนก็จะยิ่งบกพร่องมากขึ้น เอาเป็นว่าใครอยากเพิ่มเติมส่วนไหนเป็นพิเศษสามารถเพิ่มได้ที่กล่องคอมเมนต์ด้านล่างได้เลยจ้า สุดท้ายนี้หากใครที่รู้สึกชอบบทความนี้ก็แชร์ออกไปได้เลยค่ะ หรือถ้าอยากติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ของเรา ก็สามารถติดตามได้ที่ twitter ที่ Artinime ได้เลยค่ะhttps://twitter.com/supamas_kpr/status/1668919789279137793 ขอบคุณภาพประกอบจาก @DemonSlayerUSA / @kimetsu_off / Demon Slayer: Kimetsu no Yaiba / @ufotable - ภาพที่ 1,2,3,4,5,6,7,8,9,10,11 และภาพปกขอบคุณ วิดีโอโปรโมทอนิเมะกลางนครนิวยอร์ก / วิดีโอการออกกระบวนท่าของมุอิจิโร่ จาก @kimetsu_off จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !