ตอนผมเลิกงานกำลังเบื่อกลับมาบ้าน ผมว่าจะดูหนังสักเรื่องเล่น ๆ แล้วบังเอิญเปิด Netflix ไปเจอซีรีส์ซอมบี้เรื่องหนึ่งเข้า ด้วยความที่เราก็เคยดูหนังซีรีส์ซอมบี้ไม่กี่เรื่อง เช่น The walking dead เลยทำให้รู้สึกแปลกประหลาดกับหนังซอมบี้เรื่องนี้มากเลยทีเดียว ใช่ครับ ซีรีส์เรื่องนี้มีชื่อว่า Black Summer สร้างสรรค์โดย John Hyams, Karl Schaefer ครับรูปจาก Imdb.comก่อนมาเขียนรีวิวผมไปไล่อ่านฟีดแบ็คของคนอื่นตามเว็บบอร์ดและเฟซบุ๊คมาก่อน และผมก็พบว่า เอ… ทำไมคนอื่นเขาด่าซีรีส์เรื่องนี้กันซะเละเลยนะ แล้วทำไมเรารู้สึกว่ามันสนุกฟะเนี่ย!? ใช่ มันอาจจะมีบางตอนที่คนดูรู้สึกเบื่อบ้างอย่างเช่น ตอนโรงเรียน หรือ ตอนที่พี่อ้วนหัวหยิกวิ่งหนีซอมบี้ (ซึ่งผมฮาจัดตอนนี้ เอ็นจอยดีได้ด่าพี่แกตลอด) แต่ว่าด้วยข้อดีที่ผมเห็นจากซีรีส์เรื่องนี้ทำเอาผมมองข้ามจุดด้อยของมันไปและสนุกลุ้นกับมันไปได้ตลอดเอาล่ะก่อนผมจะรีวิวข้อดีข้อเสีย เรามาเล่าเรื่องย่อคร่าว ๆ ของ Black Summer กันก่อนดีกว่า อืม เรื่องเริ่มต้นเมื่อเชื้อไวรัสซอมบี้แพร่ระบาด ทำให้ประชาชนทุกคนต้องรีบเก็บสัมภาระข้าวของต่าง ๆ แล้วอพยพออกจากพื้นที่หนึ่งในตัวละครหลัก โรส และครอบครัวของเธอ ประกอบด้วยลูกสาวและสามี จึงพากันวิ่งไปขอทหารขึ้นรถ ระหว่างตรวจเอกสาร คนลูกนั้นได้ขึ้นรถไปอย่างปลอดภัย ส่วนคนพ่อถูกทหารจับได้ว่ามีบาดแผลและดูเหมือนจะติดเชื้อ ทหารจึงทิ้งสามีและโรสรวมทั้งคนอื่น ๆ ไว้ให้เอารอดชีวิตกันเอง ก่อนที่ทหารทั้งหมดจะขึ้นรถและขับตรงไปยังสนามกีฬา เธอจึงต้องทำทุกวิธีทางเพื่อไปยังสนามกีฬาและไปหาลูกสาวของเธออีกครั้งให้จงได้!รูปจาก Imdb.comแต่เรื่องราวก็ไม่ได้โฟกัสที่ตัวละครใดตัวละครหนึ่งเป็นหลัก มีหลากหลายตัวละครหลากหลายนิสัยมากให้เราเลือกเชียร์ ทั้งตัวที่เก่ง ไม่เก่ง ตัวถ่วง ตัวใจดี ตัวเลว เรามาดูกันว่าตัวไหนจะไปถึงสนามกีฬาได้บ้าง บ้างก็มีหักหลัง บ้างก็ร่วมมือร่วมใจกันเอาชนะฝ่าฟัน แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้ไปถึงสนามกีฬากันหมดทุกคนรูปจาก Imdb.comรูปจาก Imdb.comข้อเสียที่ผมมองเห็นในเรื่องนี้ แล้วอยากแนะนำเลยว่าหากใครไม่ชอบตัวละครที่ค่อนข้างงี่เง่า (ซึ่งจะมีตัวละครจำพวกสร้างเรื่องเสมอในหนังซอมบี้) ท่านอาจจะอารมณ์เสียแล้วด่าพี่แกได้ตลอด หงุดหงิดเอาได้ และท่านไหนที่หงุดหงิดกับความไม่สมเหตุสมผลบางอย่าง ด้วยความเอาเน้นมันของเรื่องนี้ก็อาจทำให้ท่านร้องว่า เอออย่างนี้ก็ได้เหรอฟะ!ส่วนข้อดี ผมบอกเลยว่าผมชอบวิธีการเล่าเรื่องของเรื่องนี้เอามาก ๆ ด้วยการตั้งชื่อซีนแต่ละซีนเอาไว้ มันทำให้ผมคิดว่าเออ ถ้าตั้งชื่อซีนอย่างนี้มันควรจะเป็นแบบนี้ แต่ที่ไหนได้! บางซีนเล่าได้กวนมาก แถมวิธีการถ่ายวิดิโอแบบ Long Take(ถ่ายฉากยาว ๆ กล้องไม่ตัด), Handheld (ใช้มือถ่าย) บ่อย ๆ ก็เป็นอะไรที่ผมชอบมาก ทำให้อารมณ์ไม่ค่อยสะดุดรู้สึกเหมือนอินและเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์ด้วย มีการถ่ายมุมมองของแต่ละตัวละครว่าคนนี้เห็นอะไรไม่เห็นอะไร ถ่ายจากด้านหลังติดตามตัวละครให้ลุ้นระทึก คือติดตามแม้กระทั่งมุมมองของซอมบี้! ว่าจะไปไล่กัดคนยังไง คือมันดูแปลกและสนุกดี ถ้าเรามองข้ามข้อเสียข้ออื่น ๆ ไปสรุปแล้ว หากคุณกำลังจะหาหนังซอมบี้ที่มีการเล่าเรื่องแปลก ๆ ผมขอแนะนำเรื่องนี้เลย แต่ว่าไม่ควรคาดหวังเรื่องพล็อตอะไรมากนะ คือดูเอามัน ลุ้นเอาใจช่วยตัวละครอย่างเดียว กดข้ามบ้างตอนเนือย ผมก็ว่าสนุกแล้ว อย่างไรก็ตามวันนี้จิราจอมขอลาไปก่อน ขอบคุณครับ.