ในช่วงที่อนิเมะแนวเกมเริ่มกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง ผมเองก็กลับมามองหาเรื่องใหม่ที่ไม่ใช่แค่ดูเอามันส์ แต่ต้องมีอะไรบางอย่างให้รู้สึก “อิน” ไปกับมันด้วย และในบรรดาหลายเรื่องที่ผมลองดู Shangri-La Frontier คือหนึ่งในไม่กี่เรื่องที่ทำให้ผมนั่งดูไปยิ้มไปแบบไม่รู้ตัว มันไม่ใช่อนิเมะแนวเกมที่พาเราเข้าสู่โลกแฟนตาซีเฉยๆ แต่เป็นเรื่องราวของความพยายาม ความสัมพันธ์ และการเติบโตที่เกิดขึ้นผ่านเกมเสมือนจริงที่สมจริงที่สุดเท่าที่เคยเห็นในอนิเมะ รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! 1. พระเอกสาย "Try Hard" ไม่ได้เทพเพราะโชค แต่เทพเพราะขยัน ซันราคุ หรือตัวละครหลักของเรื่องนี้ คือภาพแทนของคนธรรมดาที่ไม่ได้มีพรสวรรค์ แต่มีความพยายามแบบสุดขั้ว เขาไม่ได้เริ่มจากการเก่งเหนือใคร แต่คือผู้เล่นที่เคยผ่านเกมขยะที่ยากสุดในประวัติศาสตร์มาแล้ว พอมาเจอกับเกมที่บาลานซ์ดีอย่าง Shangri-La Frontier เขาจึงสามารถใช้ทักษะและความอดทนที่สั่งสมมา สร้างความได้เปรียบแบบที่ดูแล้วอดรู้สึกไม่ได้ว่า “เราก็ทำแบบนั้นได้นะ ถ้าเราพยายามมากพอ” เป็นพระเอกที่ไม่ได้มีออร่าโกง แต่มีออร่าของคนที่ไม่ยอมแพ้ และนั่นแหละที่ทำให้รู้สึกอยากเอาใจช่วยสุดๆ 2. ระบบเกมละเอียด แต่ดูง่าย ไม่งงแม้ไม่ใช่สายเกม เรื่องนี้วางโครงสร้างของระบบเกมไว้ดีมาก ไม่ว่าจะเป็นระบบคลาส อาวุธ สกิล หรือเควสต์ต่างๆ ทุกอย่างมีตรรกะของมันชัดเจน ใครที่เคยเล่นเกมแนว MMORPG มาก่อนจะอินสุดๆ แต่ที่ผมชอบคือ แม้คุณจะไม่เคยเล่นเกมมาก่อนเลยก็เข้าใจได้ เพราะตัวอนิเมะค่อยๆ พาเราไปรู้จักกับระบบต่างๆ ผ่านการเล่นของตัวละคร ไม่ต้องกลัวว่าจะงงหรือต้องจำศัพท์เกมให้ปวดหัว ที่สำคัญคือการออกแบบโลกเกมดูน่าอยู่และมีความท้าทายแบบไม่เกินจริง เป็นเกมในฝันที่อยากเล่นเองเลย 3. ตัวละครน่าจดจำ ไม่ใช่แค่พระเอกเด่นคนเดียว สิ่งที่ทำให้ Shangri-La Frontier แตกต่างจากหลายเรื่องคือ ตัวละครสมทบแต่ละคนมีเสน่ห์เฉพาะตัว ไม่ใช่แค่ตัวประกอบธรรมดา Emul คู่หูตัวเล็กของซันราคุ มีบุคลิกที่น่ารักมาก จนบางทีทำให้ซีนที่จริงจังกลายเป็นเบาลงแบบอบอุ่นใจ หรืออย่าง Oikatzo เพื่อนสายบ้าพลัง ที่โผล่มาทีไรก็รู้เลยว่าฉากนั้นจะมันส์แน่นอน ทุกคนมีเหตุผลในการกระทำของตัวเอง ไม่ได้แบนหรือมาเพื่อแค่สร้างสีสัน แต่กลายเป็นองค์ประกอบที่ช่วยให้เรื่องราวมีมิติยิ่งขึ้น 4. ฉากแอ็กชันลื่น สะใจ ภาพสวยเหมือนเล่นเกมจริง ในฐานะคนที่ดูอนิเมะแนวเกมมาเยอะ ผมให้คะแนนงานภาพของเรื่องนี้สูงมาก สตูดิโอ C2C ทำฉากต่อสู้ได้ลื่นไหลและมีไดนามิกที่ดีมาก โดยเฉพาะตอนที่ซันราคุต่อสู้กับบอสใหญ่ หรือฉากดันเจี้ยนที่เต็มไปด้วยมอนสเตอร์ บรรยากาศมันให้ความรู้สึกเหมือนนั่งดูใครสักคนไลฟ์สตรีมเกมจริงๆ ทั้งการเคลื่อนไหว มุมกล้อง ไปจนถึงเอฟเฟกต์ที่จัดมาเต็มแต่ไม่เวอร์เกิน ทุกอย่างผสมกันได้อย่างลงตัวมาก 5. สะท้อนมุม “การเติบโต” ของมนุษย์ผ่านโลกเสมือนแม้เนื้อเรื่องจะดำเนินในโลกของเกม แต่สิ่งที่ทำให้ผมประทับใจมากคือ วิธีที่เรื่องนี้พูดถึงการพัฒนาตัวเองอย่างค่อยเป็นค่อยไป ซันราคุค่อยๆ สร้างชื่อเสียง ฝึกฝน และกลายเป็นผู้เล่นที่คนอื่นจับตามอง โดยไม่ได้ใช้ทางลัดหรือพลังพิเศษเลย ทุกก้าวที่เขาเดินไปข้างหน้าคือผลลัพธ์จากความพยายาม และมันทำให้ผมนึกถึงชีวิตจริงว่า บางครั้งการที่เราเคย Shangri-La Frontier คืออนิเมะที่มากกว่าความบันเทิง มันคือการเล่าเรื่องของคนธรรมดาที่ใช้ความพยายามเอาชนะความท้าทายในโลกของเกม และในขณะเดียวกันก็พาเราไปรู้จักกับโลกที่เต็มไปด้วยรายละเอียดที่น่าตื่นเต้น คาแรกเตอร์ที่มีชีวิตชีวา และการต่อสู้ที่ทำให้หัวใจเต้นแรง ผมอยากแนะนำเรื่องนี้ให้กับทุกคน ไม่ว่าคุณจะเป็นสายเกมหรือไม่ก็ตาม เพราะสิ่งที่คุณจะได้รับจากเรื่องนี้คือ “แรงบันดาลใจ” ในแบบที่คุณคาดไม่ถึง Shangri-La Frontier ไม่ได้สอนให้เราหนีไปในโลกเสมือน แต่มันสอนว่า ถ้าเรากล้าลุย และไม่ยอมแพ้ สุดท้ายเราก็จะเก่งขึ้นได้ในโลกจริงเช่นกัน รูปภาพปกทั้งหมดมาจาก x.com เจ้าของภาพ 『シャングリラ・フロンティア(シャンフロ)』公式|アニメ化&ゲーム化決定 :|: ภาพปกที่ 1 | ภาพปกที่ 2 รูปภาพประกอบทั้งหมดมาจาก x.com เจ้าของภาพ 『シャングリラ・フロンティア(シャンフロ)』公式|アニメ化&ゲーム化決定 :|: ภาพประกอบที่ 1 | ภาพประกอบที่ 2 | ภาพประกอบที่ 3 | ภาพประกอบที่ 4 ส่องนักบอลตัวเต็ง ดูสดระเบิดแมทช์สุดมันส์บน App TrueID โหลดฟรี !