โจนาธาน เมเจอร์ส เสียบทสำคัญไปอีกครั้ง หลังเสียบท แคง ใน MCU ไปแล้ว
Variety ได้ยืนยันว่า โจนาธาน เมเจอร์ส (Jonathan Majors) ได้ถูกปลดออกจากการรับบทเป็น เดนนิส ร็อดแมน (Dennis Rodman) นักบาสเก็ตบอลชื่อดังทีมชิคาโก บูลส์ (Chicago Bulls) ในโปรเจกต์ภาพยนตร์ที่ใช้ชื่อย่างไม่เป็นทางการวาง ’48 Hours In Vegas’
สำนักข่าว CNN ได้รายงานว่า โปรเจกต์ดังกล่าวเล่าเรื่องของร็อดแมนที่เดินทางไปลาสเวกัสในระหว่างการแข่งขัน NBA รอบชิงชนะเลิศในปี 1998 ซึ่งเคยถูกกล่าวไว้บ้างแล้วในสารคดี ‘The Last Dance’ ของ ไมเคิล จอร์แดน (Michael Jordan)
โปรเจกต์นี้เคยได้รับการพัฒนาโดยสตูดิโอ Lionsgate ก่อนที่จะส่งกลับมายัง ฟิล ลอร์ด (Phil Lord), คริส มิลเลอร์ (Chris Miller) และ อดิตยา ซูด (Aditya Sood) โดยร็อดแมน, อาริ ลูเบต (Ari Lubet) และ วิล อัลเลกรา (Will Allegra) จะมาเป็นผู้อำนวยการสร้างฝ่ายบริหารด้วย
เมเจอส์ได้กลายเป็นหนึ่งในนักแสดงอนาคตไกลที่อาจต้องหยุดอาชีพการแสดงลงชั่วคราวอย่างไม่คาดฝันด้วยการจับในข้อหาทำร้ายร่างกายเมื่อเดือนมีนาคม 2023 และถูกตัดสินว่ามีความผิดเมื่อเดือนธันวาคม 2023 ที่ผ่านมา หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ถูกปลดออกจากบท Kang ซึ่งเป็นตัวร้ายสำคัญใน MCU เฟสใหม่
โปรเจกต์ ’48 Hours in Vegas’ นี้ ได้รับการประกาศเมื่อเดือนสิงหาคม 2021 โดยในตอนนั้นได้วางตัวให้เมเจอส์ที่เพิ่งมีชื่อเสียงจากการรับบทนำในซีรีส์ ‘Lovecraft Country’ ของ HBO และภาพยนตร์ ‘Da 5 Bloods’ (2020) ของ Netflix ที่กำกับโดย สไปก์ ลี (Spike Lee) และกลายเป็นหนึ่งในนักแสดงคลื่นลูกใหม่ที่ฮอลลีวูดจับตามอง
โปรเจกต์นี้เขียนบทโดย จอร์แดน ฟานดินา (Jordan VanDina) ซึ่งลอร์ดและมิลเลอร์ที่เป็นผู้สร้างนั้นได้กล่าวว่าจะเน้นไปที่ความเป็นคอมเมดี้ในพฤติกรรมสุดโต่งของร็อดแมน
ในตอนนี้ โปรเจกต์ ’48 Hours in Vegas’ ต้องสูญเสียทั้งนักแสดงหลักและสตูดิโอไป ซึ่งต้องรอดูกันว่าทีมงานสร้างจะเดินหน้าโปรเจกต์นี้ต่อไปในทิศทางใด
ที่มา : ScreenRant