สวัสดีครับผู้อ่านทุกท่านวันนี้เรามาคุยกันในหัวข้อสบายๆ ในเรื่องของการที่ว่าทำไมคนถึงชอบการ์ตูนในยุคเก่ามากกว่าการ์ตูนยุคใหม่ส่วนตัวผู้เขียนเนี่ยก็ไม่ใช่ไม่ชอบในการ์ตูนยุคใหม่นะครับแต่ว่าสำหรับผู้เขียนแล้วเนี่ยถ้าจะให้เลือกก็ขอเลือกยุคเก่าดีกว่าครับเพราะว่าส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะผู้เขียนโตมากับการ์ตูนเหล่านั้น แต่สิ่งที่ทำให้ผู้เขียนชอบการ์ตูนในยุคเก่ามากกว่าการ์ตูนในยุคใหม่นั่นก็เพราะว่าการ์ตูนในยุคเก่ามันสื่ออารมณ์ความรู้สึกได้มากกว่าครับ รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! อ่าวแล้วการ์ตูนในยุคใหม่ไม่ดีหรอการ์ตูนยุคนี้ก็สื่ออารมณ์ได้เหมือนกันนี่แถมภาพยังสวยกว่าเทคโนโลยีในการสร้างยังดีกว่าด้วย ใช่ครับผู้เขียนเข้าใจในความรู้สึกของสิ่งที่ผู้อ่านกำลังจะสื่อได้เลยครับแต่ว่าผู้เขียนมีความคิดเห็นในเรื่องของพล็อตเรื่องและการดำเนินเรื่องด้วยครับดูอนิเมชันหรืออย่างการ์ตูนในยุคนี้พวกเขาจะเน้นการสร้างให้สมจริงและยึดในหลักความเป็นจริงเป็นส่วนใหญ่ใช่ไหมครับ แต่ว่าการ์ตูนในยุคเก่าคือมีสิ่งที่เรียกว่า “จินตนาการ” ใช่ครับ การ์ตูนในยุคเก่าเขาใส่จินตนาการเข้าไปในเรื่องด้วยทำให้มันสามารถสื่ออารมณ์ถึงผู้ดูได้ดีมากกว่าการเล่าเรื่องในความเป็นจริงทั้งๆที่คนก็รู้อยู่แล้วว่ามันจะบรรจบมาเป็นยังไง แต่จินตนาการมันไม่ใช่ครับแล้วทำไมจินตนการถึงสำคัญขนาดนั้นล่ะ จินตนการ คือสิ่งที่เราคิดริเริ่มสร้างสรรค์มันขึ้นมาในหัวเราเองไม่มีใครสามารถจำกัดความคิดในหัวของเราได้ก็เหมือนที่ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ได้พูดเอาไว้นั่นแหละครับว่า “จินตนาการสำคัญกว่าความรู้เพราะความรู้มีขอบเขตอยู่เพียงแค่สิ่งที่เรารู้และเราเข้าใจแต่จินตนาการนั้นครอบคลุมได้ทั้งโลกและรวมสิ่งที่เราจะรู้และเข้าใจในอนาคตทั้งหมดด้วย” ดังนั้นการ์ตูนสมัยก่อนจึงมีอะไรที่แปลกแหวกแนวให้ผู้ชมได้ดูอยู่เสมอ (รูปภาพ) การเล่าเรื่องแบบเรียบง่าย แต่ลึกซึ้ง หลายคนอาจจะคิดว่าการ์ตูนเก่าเล่าเรื่องธรรมดาเกินไป ตัวละครมีมิติไม่มาก ไม่มีปมซับซ้อน แต่ความเรียบง่ายนี่แหละคือพลังที่ทำให้เรื่องราว “เข้าถึงใจคนดู” ได้ตรงไปตรงมามากที่สุดเลยครับ ทุกเรื่องราวถูกเล่าอย่างไม่ซับซ้อนแต่กลับทำให้คนดูรู้สึก “อิน” ได้ในแบบที่ไม่ต้องตีความเยอะ ต่างจากการ์ตูนยุคใหม่ที่บางครั้งต้องอาศัยความรู้หรือบริบททางสังคมที่เฉพาะเจาะจงถึงจะเข้าใจ สไตล์งานภาพและเสียงที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว อีกหนึ่งจุดแข็งของการ์ตูนยุคเก่าคือ “ศิลปะที่จับต้องได้”ก่อนที่คอมพิวเตอร์กราฟิกจะเข้ามาแทนที่ การวาดภาพด้วยมือในแต่ละเฟรมคือศิลปะที่ต้องใช้เวลา ความประณีต และแรงใจแม้จะมีความหยาบอยู่บ้างในบางฉากแต่ภาพวาดเหล่านั้นกลับทำให้มันเหมือน “มีชีวิต” บริบททางวัฒนธรรมและสังคมในช่วงเวลานั้น เมื่อย้อนกลับไปดูการ์ตูนยุคเก่า ผู้อ่านจะเห็นว่าเรื่องราวหลายเรื่องสะท้อนสภาพสังคมในยุคนั้นอย่างชัดเจน เช่น การ์ตูนที่พูดถึงการใช้ชีวิตเรียบง่าย ครอบครัวที่กินข้าวเย็นด้วยกัน หรือปัญหาชีวิตที่เกิดจากการเรียน การสอบ การเข้าสังคม มันคือโลกที่ “ผู้ชมในยุคนั้น” เข้าใจและเชื่อมโยงได้ง่ายและเมื่อโตขึ้นมา แม้โลกจะเปลี่ยนความรู้สึกเชื่อมโยงนั้นก็ยังคงอยู่ แต่เมื่อเวลาผ่านไป สังคมเปลี่ยน วัฒนธรรมเปลี่ยน การ์ตูนยุคใหม่ก็เปลี่ยนตาม และกลายเป็นสิ่งที่คนรุ่นใหม่เข้าใจมากกว่าดังนั้นจึงไม่แปลกที่คนรุ่นเก่าจะรู้สึกว่า “การ์ตูนสมัยนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อน” ความรักที่ก่อตัวจาก “เวลา” จุดสำคัญที่สุดอาจไม่ใช่เนื้อหา ภาพ เสียง หรือแม้แต่ความสมจริงของเรื่องแต่คือ เวลา ที่เราได้อยู่กับการ์ตูนยุคเก่านั้นต่างหากเพราะมันไม่ได้เป็นแค่สิ่งบันเทิงแต่มันคือเพื่อนคู่ใจในวัยเยาว์คือครูสอนชีวิตโดยไม่รู้ตัวและบางครั้งมันคือโลกทั้งใบของเด็กคนหนึ่งที่ยังไม่เข้าใจโลกจริงๆ การที่คนเราจะรักบางสิ่งมากขนาดนั้นมันต้องเกิดจากช่วงเวลาที่ยาวนานพอและลึกซึ้งพอซึ่งนั่นคือสิ่งที่การ์ตูนยุคเก่ามีให้เราและการ์ตูนยุคใหม่ยังอาจต้องใช้เวลาเพื่อสร้างขึ้นมาให้ได้เช่นกัน แล้วการ์ตูนยุคใหม่ล่ะ? ไม่มีคุณค่าหรือ? แน่นอนว่ามีครับการ์ตูนยุคใหม่หลายเรื่องสร้างสรรค์ในแบบที่ยุคก่อนทำไม่ได้มีประเด็นที่ลึกขึ้น ซับซ้อนขึ้น และหลากหลายขึ้นการเล่าเรื่องที่อิงสังคมจริงช่วยให้คนดู “โตไปพร้อมกับเนื้อเรื่อง” ล้วนแสดงให้เห็นถึงคุณภาพทางการเล่าเรื่องที่ยอดเยี่ยมแต่สิ่งที่ทำให้ผู้ชมหลายคนยังโหยหาการ์ตูนยุคเก่าไม่ใช่เพราะการ์ตูนใหม่ไม่ดีแต่เพราะการ์ตูนยุคเก่า “เคยเป็นโลกของพวกเขามาก่อน” สรุปส่งท้าย การเปรียบเทียบระหว่างการ์ตูนยุคเก่ากับยุคใหม่ อาจไม่จำเป็นต้องมีผู้ชนะเพราะสุดท้ายแล้ว มันไม่ได้เกี่ยวกับว่าเรื่องไหนดีกว่าแต่มันคือ “ความรู้สึก”และ “ความทรงจำ”ที่แต่ละคนมีต่อเรื่องราวนั้น ๆ ต่างหากหากจะมีข้อสรุปข้อหนึ่งที่ผู้เขียนอยากฝากไว้คงเป็นดังคำพูดของ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ที่กล่าวไว้ตอนต้นว่า: “จินตนาการสำคัญกว่าความรู้ เพราะความรู้มีขอบเขต แต่จินตนาการสามารถครอบคลุมโลก และสิ่งที่ยังไม่รู้ทั้งหมด” และการ์ตูนยุคเก่าก็คือหนึ่งในพื้นที่ที่จินตนาการเคยเติบโตและยังคงงอกงามอยู่ในใจใครหลายคน จนถึงวันนี้ ขอบคุณผู้อ่านที่เลื่อนอ่านบทความของผู้เขียนมาจนจบ เครดิตภาพที่ 1 : Princess Mononoke (もののけ姫 / เจ้าหญิงจิตวิญญาณแห่งพงไพร) เครดิตภาพที่ 2 : My Neighbor Totoro (となりのトトロ / โทโทโร่เพื่อนรัก) เครดิตภาพที่ 3 : Pom Poko (平成狸合戦ぽんぽこ / สงครามทานุกิ) เครดิตภาพที่ 4 : Kiki’s Delivery Service (魔女の宅急便 / แม่มดน้อยกิกิ) โดย Studio Ghibli เครดิตภาพหน้าปก : โดย Studio Ghibli 1.แม่มดน้อยกิกิ 2.Grave of the Fireflies (สุสานหิ่งห้อย) 3.Laputa: Castle in the Sky 4.spirited away จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !