เครดิตภาพ Facebook Official ว่าด้วยเรื่องราวโลกอันมืดมนก่อนโลกจะดับสูญด้วยการล้างบางของพระเจ้า ที่โนอาห์(Russell Crowe) คอยเตือนผู้คนให้หยุดบุกรุกและทำลายธรรมชาติ ก่อนที่โลกจะถึงจุดจบแต่ไม่มีใครเชื่อเขาเลย ทำให้ครอบครัวของเขาถูกรังเกียจและต้องอยู่กันตามลำพัง จนกระทั่งโนอาห์ได้พบกับเทพทั้ง 6 ที่เรียกกันว่า the Watcher มาเป็นผู้นำทางเขาไปสู่คำตอบในการแก้ปัญหา และสร้างเรือลำยักษ์ขึ้นมาเพื่อให้ครอบครัวของเขาพ้นจากการพิพากษาครั้งนี้เครดิตภาพ Facebook Officialหนัง Noah (2014) เน้นไปที่การเล่าเรื่องในส่วนของศาสนา บูชาพระเจ้ารับใช้พระเจ้าอะไรทำนองนั้น แต่หนังแทรกคำถามให้คนดูเกี่ยวกับความศรัทธาต่อพระเจ้าต่อศาสนา โนอาห์มีความเชื่อว่าพระเจ้าบัญชาให้เขาสร้างเรือขนาดใหญ่ ใหญ่มากพอเพื่อที่จะรองรับสัตว์นานาชนิดอย่างละคู่ เพื่อมาสืบพันธุ์เพื่อสร้างโลกใบใหม่ต่อไป เหมือนต้องการที่จะบอกเป็นนัย ๆ ว่า มนุษย์คนใดที่ไม่เชื่อก็จะไม่ได้ขึ้นเรือและต้องจมน้ำตายไปเพราะว่าน้ำกำลังจะท่วมโลกอะไรทำนองนี้ เรียกว่าเป็นหนังที่เล่นกับความเชื่อในพระเจ้า และความเชื่อส่วนบุคคลมากกว่าครับ จู่ ๆ โนอาห์ไปบอกใครต่อใครว่าเค้าคุยกับพระเจ้า มันไม่แปลกเลยที่โนอาห์จะถูกมองว่าบ้าเพราะโลกมนุษย์อยู่รวมกันเป็นสังคมหมู่มาก ใครที่แตกแถวหรือคิดต่าง ก็จะมีปัญหาตามมาอย่างที่เห็นในเรื่อง ถูกรังเกียจ เพราะความเชื่อพวกนี้มันหยิบจับไม่ได้ครับ เป็นความเชื่อและแต่ศรัทธาจริง ๆเครดิตภาพ Facebook Officialปกติผมไม่ค่อยหลับเวลาดูภาพยนตร์นะครับและก็ไม่ใช่คนที่เหยียดศาสนาอะไร ต้องบอกว่าศรัทธาด้วยซ้ำ แต่ว่าการดำเนินเรื่องของหนังแทบจะเน้นไปในเชิงการ ศรัทธา และพยายามจะสื่อว่า พระเจ้าพูดอะไร เรียกว่า 80% ของทั้งเรื่อง ซึ่งผมตั้งใจดูนะแต่ก็ยังหาวได้ ผมแค่อยากจะสื่อว่า การสร้างหนังที่เกี่ยวกับแรงศรัทธาพระเจ้ามันอาจจะฟังดูน่าเบื่อ แต่มันสามารถสื่อออกมาให้น่าดูและน่าสนใจกว่านี้ ถ้าใครที่ไม่ชอบหนังแนวนี้ ก็อาจจะเบื่อ ๆ นิดหน่อยหนังไม่ค่อยมีอะไรน่าตื่นเต้นให้คนดูได้ติดตาม ยกเว้นฉากสุดท้ายที่น้ำกำลังจะท่วมโลก ถ้าจะพูดถึงนักแสดงนำอย่างรัสเซลล์ โครว์ เรื่องฝีมือไม่ต้องพูดถึง เฮียได้ใจคนดูไปเต็ม ๆ โดยเฉพาะอินเนอร์ในการแสดงออกถึงความศรัทธาในพระเจ้า ถ้าคนที่ชอบในหนังไปในเชิงการเชื่อฟังพระเจ้า การแสดงของเขาคือ10/10 เลยเครดิตภาพ Facebook Officialแต่เหตุผลที่ผมไปดูจริง ๆ คือดาราสาวแม่มดน้อยอย่าง เอ็มม่า วัตสันครับ นักแสดงหลายคนที่แสดงภาพยนตร์เรื่องใด แล้วเป็นที่รู้จักจากเรื่องนั้น เมื่อไปแสดงหนังเรื่องอื่น คนดูมักจะไม่อินกับบทบาทอื่นนอกเหนือจากบทบาทที่ติดตา แต่มันกลับไม่เกิดขึ้นกับเอมม่าเท่าไหร่นะครับ ผมว่าผมพอจะสลัดภาพการเป็นแม่มดน้อยไปได้บ้าง แต่สิ่งที่ต้องพูดถึงคือเอมม่าไม่เด่นเลยในเรื่องนี้เพราะผมคาดหวังไปดูเอมม่าโดยเฉพาะ แต่ด้วยความที่ไม่ค่อยมีบทบาทเท่าที่น่าพอใจ ทำให้ผมรู้สึกเฟลในเรื่องของตัวละครคะแนนเนื้อเรื่อง 7/10 เนื้อเรื่องเน้นไปที่ความเชื่อและความศรัทธาทางศาสนามากกว่าเนื้อหาสาระ เรียกว่าเป็นหนังแห่งจินตนาการทางศาสนาก็ว่าได้ ถ้าตัดความเชื่อว่าได้เชื่อมต่อกับพระเจ้า หนังก็ไม่ค่อยมีสาระอะไรที่ควรจำหรือน่าจดจำมากนัก ส่วนซีนสุดท้ายช่วงน้ำท่วมโลก ช่วงกำลังหนีชุลมุน นั่นเรียกว่าเป็นส่วนที่น่าติดตามหรือน่าตื่นเต้นเพียงฉากเดียวเท่านั้นคะแนนเอฟเฟคต์ 6/10 ฉากเอฟเฟคต์ในช่วงท้ายของเรื่องคือเอฟเฟคต์เดียวที่เด่นที่สุด แต่ก็ทำออกมาได้ดีพอสมควรนะครับ แต่ที่ผมชอบจริง ๆ คือส่วนประกอบและโครงสร้างเรือมากกว่า เรือทั้งหมดทำด้วยไม้ ซึ่งเกิดจากฝีมือมนุษย์ ในยุคที่ไม่มีอุปกรณ์หรือเครื่องจักรใดๆ หนังมีให้ลุ้นบ้างในพาร์ทของการสร้างเรือแข่งกับเวลาเครดิตภาพ Facebook Officialข้อคิดที่ได้จากภาพยนตร์1. ความเชื่อในพระเจ้า นี่คือสิ่งที่สุดโต่งของภาพยนตร์เรื่องนี้เลยครับ เพราะหนังบ่งชี้ให้ทุกคนเห็นถึงความศรัทธาต่อพระเจ้า และการที่ไม่เชื่อคำเตือนและคำสอนของพระเจ้า จะเกิดผลอย่างไร2. เรือลำยักษ์ที่สร้างขึ้นมาด้วยความศรัทธา แน่นอนว่าในสมัยก่อน การจะสร้างสิ่งปลูกสร้างขนาดยักษ์ขนาดนั้นต้องใช้แรงงานฝีมือมากมาย แต่เรือลำนี้ถูกสร้างโดยครอบครัวของโนอาห์ซึ่งมีกันอยู่แค่ไม่กี่คน แถมต้องสร้างให้เสร็จก่อนที่วันพิพากษาจะมาถึง (วันที่น้ำท่วมโลก) วันที่พระเจ้าจะชะล้างทุกอย่างให้บริสุทธิ์ความศรัทธาไม่ใช่ความผิดนะครับ คนเราทุกคนย่อมมีศรัทธาและความเชื่อได้ตามเหตุตามผลของแต่ละคน แต่ก็เชื่อโดยยึดหลักเหตุผลและความเป็นจริงนะครับ บางคนบางกลุ่มก็เชื่อกันแบบผิด ๆ จนนำไปสู่การผิดใจและการสูญเสียบางอย่างhttps://www.facebook.com/Noahthailand/photos/a.1398780900339070/1439403639610129/?type=3&theater