Operation Finale เราอาจจะได้ฟังเรื่องราวเกี่ยวกับอาชญากรรมต่างๆ มามากมาย แต่มีเหตุการณ์อาชญากรรมเหตุการณ์หนึ่งที่ขึ้นชื่อว่าโหดร้ายที่สุดในยุคเวลานั้นเลยก็คือ การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่สะเทือนขวัญผู้คนมาจนถึงทุกวันนี้ การกระทำที่ทั้งโลกประนามว่ามันคืออาชญากรรมที่โหดร้ายที่สุดที่มนุษย์จะกระทำกับมนุษย์ได้ ในเรื่องราวของหนังเรื่องนี้จะพาผู้ชมไปพบกับมุมมองและปฏิบัติการตามจับชายผู้ที่เป็นหนึ่งในคนที่ออกคำสั่งอยู่เบื้องหลังโศกนาฏกรรมสุดสะเทือนใจในครั้งนั้น Operation Finale ผลงานจาก Netflix ที่สร้างขึ้นจากเหตุการณ์จริง บอกเล่าเรื่องราวของปฏิบัติการในการนำตัว อดอล์ฟ ไอค์มันน์ อดีตผู้นำ กรมกิจการว่าด้วยชาวยิว (Office of Jewish affairs) ผู้ที่เป็นคนสั่งการฆ่าชาวยิวไปมากมายในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อมาพิพากษาการกระทำที่เขาได้ทำไป โดยคนที่ต้องเข้าไปปฏิบัติการนี้คือ ปีเตอร์ มาลคิน สายลับของประเทศอิสราเอล เขาต้องวางแผนแฝงตัวเข้าไปในประเทศอาเจนติน่าที่ซึ่งเขาได้รับข้อมูลว่า อดอล์ฟ ไอค์มันน์ ได้หลบหนีมาอาศัยอยู่ ในปฏิบัติการ ปีเตอร์ มาลคิน ต้องคอยควบคุมความโกรธแค้นจากจิตใต้สำนึกไม่ให้ทำร้าย อดอล์ฟ ไอค์มันน์ เพราะตัวของ ปีเตอร์ มาลคิน ได้สูญเสียพี่สาวในเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธ์ุนั้นด้วย ปีเตอร์ มาลคิน ได้พยายามทุกรูปแบบเพื่อนำตัว อดอล์ฟ ไอค์มันน์ มาพิพากษาให้ได้ แต่ปฏิบัติการเริ่มมีความยุ่งยากมากขึ้นเมื่อพวกเขาต้องคอยหลบซ่อนการไล่ล่าจาก ลูกชาย อดอล์ฟ ไอค์มันน์ ที่คอยเข้ามาขัดขวาง ผู้ชมจะได้ติดตามเรื่องราวปฏิบัติการไล่ล่าในต่างแดนอันสุดระทึก เขาจะสามารถนำตัวอาชญากรที่ชาวยิวต้องการตัวมากที่สุดมาได้หรือไม่ ตัวหนังถ่ายทอดเรื่องออกมาได้อย่างดีเยี่ยม แสดงถึงความโกรธแค้นความขมขื่นของชาวยิวผ่านทางตัวละครในแง่มุมต่างๆ บวกด้วยความกดดันในการปฏิบัติภารกิจอันแสนซับซ้อนและการควบคุมอารมณ์ต่างๆในการทำภารกิจให้สำเร็จ เป็นหนังที่สร้างมาจากเรื่องจริงที่ถ่ายทอดเรื่องราวได้น่าสนใจมากอีกเรื่องหนึ่งเลย เราจะได้เห็นการเชือดเฉือนคารมของ ปีเตอร์ มาลคิน และ อดอล์ฟ ไอค์มันน์ ที่ทำออกมาได้เฉียบคมและน่าติดตาม ประวัติศาสตร์ที่ต้องได้รับการพิพากษาอย่างถูกต้องจะมีบทสรุปเป็นแบบใด ติดตามรับชมเรื่องราวทั้งหมดได้ทาง Netflix ซึ่งสามารถรับชมผ่านกล่อง True ID TV ได้แล้วขอบคุณภาพจาก Netflix Official Trailer