"วิทย์ ภูธฤทธิ์" ทำศัลยกรรมครั้งแรกในวัย 54 หน้าหวานขึ้น คูลมากพ่อ!
นักแสดงดาราชายตัวพ่อ “วิทย์ ภูธฤทธิ์ พรหมบันดาล” ตั้งโต๊ะแถลงข่าว เปิดหน้าใหม่ เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2567 ณ โรงพยาบาลเลอลักษณ์ พร้อมด้วย คุณปิ่น พิศพรรณ ศรีไชยยันต์ เคลียร์ชัดต่อหน้าสื่อมวลชน ทำศัลยกรรมครั้งแรกในวัย 54 ไม่หวั่นคนมองหน้าหวาน พร้อมเคลียร์ โดนปลดจากละคร หลังอัพหน้า พร้อมเปิดใจกับสื่อมวลชน ลั่นเพราะอยากแก้ไขจุดบกพร่อง จึงตัดสินใจทำศัลยกรรมครั้งแรกในชีวิต
"วิทย์ ภูธฤทธิ์" ทำศัลยกรรมครั้งแรกในวัย 54 หน้าหวานขึ้น คูลมากพ่อ!
“หน้าใหม่ก็แฮปปี้มาก ขอบคุณที่มอบสิ่งดี ๆ ให้กับผม หลังจากที่ดูหน้าตัวเองมานานพอสมควร ก็คิดมานานเหมือนกัน ว่าเอายังไงดี พอได้ปรึกษาแล้วก็เอาวะ ไม่เคยมีความคิดที่จะทำศัลยกรรมเลย มันเหมือนอาจจะยังไม่ถึงเวลา ไม่ว่าจะโบท็อกซ์หรืออะไรไม่เคยทำเลย มีแต่ทาครีม แต่พอดูหน้าตัวเองนานๆ เข้า มันก็มีริ้วรอย ก็บ่งบอกวัยที่เริ่มหย่อนยาน คือตอนแรกที่บอกว่าไม่อยากทำศัลยกรรม เพราะมันไม่เคยอยู่ในหัวเรา เราเป็นผู้ชาย และไม่คิดว่ามันจะต้องทำอะไร แต่ตาเราที่มันมีถุงไขมันใต้ตา มันก็ทำให้เวลาถ่ายรูปหรือออกมาหน้าจอ มันดูมีอายุ ซึ่งพอเราไปดูเพื่อนๆ หลายคนในวันเดียว เขาดูดีกว่าเราเยอะ มันก็เลยเริ่มมีความคิดนิดหนึ่ง ว่าถ้าเราทำมันจะดีขึ้นไหม สุดท้ายก็มาเจอพี่ปิ่น ก็พูดคุยกันกับสักพัก ทำให้เรารู้สึกว่าสมควรแก่เวลาแล้ว ก็เลยลองทำดู เสร็จแล้วมันก็ออกมาเป็นแบบนี้”
คุณปิ่น : “เราปรึกษาเฉพาะปัญหาที่มีจริง ๆ คือเขายังดูดีอยู่ ก็จะมีปัญหาแค่ตาล่างกับตาบน ที่หนังตามันตกและไม่เท่ากัน แล้วคิ้วกับชั้นตาก็ใกล้กัน ก็เลยให้คุณหมอตัดถุงไขมันใต้ตาและยกคิ้ว เพื่อให้สเปซคิ้วกับชั้นตามันห่างกัน จะได้มีความสดใสมากขึ้น ชั้นตาก็จะกลับมาด้วย โดยไม่ต้องกรีดหนังตาบน แต่ไม่ได้มีการดึงหน้า เราแค่ปรับปรุงในส่วนที่ร่วงโรย แค่ฟื้นฟูขึ้นไปเฉยๆ ก็ใช้เวลาทำประมาณ 6 ชั่วโมง รวมทุกสเต็ป เพราะทำหลายพาร์ตอยู่ คุณหมอละเอียดมาก”
ไม่กังวลเรื่องการผ่าตัด แต่กังวลว่าจะทำที่ไหนดี
“ถามว่าก่อนทำเรากังวลอะไรบ้าง เรากังวลว่าจะทำที่ไหน ทำกับใครมากกว่า เพราะมีมันเยอะ ไม่รู้จะทำที่ไหน ก็มีสอบน้องๆ หลายคนในวงการ ก็บอกให้มาคุยกันพี่ปิ่นดู คุณหมอเขาก็แนะนำว่าควรแก้ไขในสิ่งที่เราอยากแก้ไข ในส่วนของตาก็แนะว่าทำแล้วจะเป็นอย่างนี้ๆ เลยตัดสินใจทำ ถามว่ากลัวการผ่าตัดไหม ก็ไม่ได้กลัวมาก เพราะเคยมีประสบการณ์ตรงนั้น ไปส่องกล้องผ่าลำไส้ มันไม่รู้อะไร ตื่นมาก็จบ พอมาทำตรงนี้เข้าไปก็หลับ ตื่นมาก็จบ ไม่รู้สึกอะไรเลย”
บอกรอเข้าที่อีก 4-5 เดือนจะโอเคกว่านี้ ตอนนี้เพิ่งผ่านไปแค่เดือนเดียว
“ตอนนี้ก็ทำมาครบ 1 เดือนแล้ว อันดับแรกคือริ้วรอยและถุงใต้ตามันหายไปหมดเลย ตาก็มีชั้นขึ้น จากที่เมื่อก่อนมันตกไปข้างหนึ่ง ก็แฮปปี้ครับ แต่มันน่าจะโอเคมากกว่า ตอนเข้าที่อีก 4-5 เดือน”
ปัดโดนปลดละครเพราะทำหน้าใหม่ คาแร็กเตอร์อยู่ที่อินเนอร์ ไม่ใช่หน้าตา ลั่นตอนนี้ต้องเป็น “พี่โสมเฝ้าทรัพย์”
“จากเข้ม ๆ ดุ ๆ ตอนนี้มันหวานใช่ไหม (หัวเราะ) ก็คิดว่ามันคงต้องเปลี่ยน ผู้จัดก็คงต้องเปลี่ยนให้เราไปเล่นเป็นพระเอกแทน (หัวเราะ) (จริงไหมที่ผู้จัดเห็นหน้าใหม่แล้วยกเลิกบท?) มันไม่ถึงขนาดนั้นหรอก เพราะหนวดยังมีอยู่ แต่ถ้าโกนหนวดไม่แน่ (กลัวคนจำคาแร็กเตอร์ไม่ได้ไหม?) จริงๆ มันก็ไม่ได้เปลี่ยนมาก แค่ตามันชัดขึ้น แต่พอผ่านไปสัก 4-5 เดือน มันจะชินตาไปเอง ละครเก่าๆ ก็ถ่ายจบไปหมดแล้ว ถ้าจะเริ่มใหม่ก็เริ่มด้วยหน้านี้เลย ไม่ได้กังวลอะไรเลยครับ เพราะคาแร็กเตอร์มาจากอินเนอร์ข้างใน (ไม่ใช่ปู่โสมเฝ้าทรัพย์แล้ว?) ต้องเป็นพี่โสมแล้ว (หัวเราะ)”
ยังไม่คิดทำส่วนไหนเพิ่ม แค่แก้ตรงที่มีปัญหาก่อน แต่ในอนาคตไม่แน่
“คือพี่ปิ่นบอกว่าเพิ่งเลยเอาแค่นี้ก่อน คุณหมอก็บอกว่าเอาปัญหาที่อยากจะแก้ก่อน ในอนาคตค่อยว่ากันอีกทีหนึ่ง เพราะมันยังไม่มีร่องลึกอะไรมาก แต่อีก 4-5 ปีข้างหน้าก็ไม่แน่ ความคิดมันอาจจะเปลี่ยนไป หรืออาจจะเร็วกว่านั้นก็ได้ (หัวเราะ)”
ไม่ซีเรียสกับเสียงวิจารณ์ที่จะเข้ามา เพราะรู้ตัวเองว่าต้องการอะไร
“หน้าเก่าน่ะดี แต่หน้าใหม่ดีกว่า (หัวเราะ) เรื่องคนวิจารณ์มันเป็นสิ่งที่พูดยาก มันแล้วแต่ความคิดของแต่ละคน แต่เรารู้ว่าเราต้องการอะไร ซึ่งมันคุยกับตัวเองมานานแล้ว ว่าสมควรที่จะทำ อย่างน้อยๆ หน้าเรามันยังต้องใช้ไปอีกหลายปี หน้าเก่ามันเห็นถึงความร่วงโรยของวัย เขาอาจจะไม่ชินตา แต่ถ้าผ่านไปสักครึ่งปี เดี๋ยวเขาก็ชินเอง เราก็ไม่ได้ซีเรียสกับแรงกระแทกตรงนี้ เราทำเพราะมีปัญหา มันเป็นการแก้ไข ไม่ได้เป็นการเปลี่ยนให้เป็นอีกหน้าหนึ่ง ซึ่งการแก้ไขตรงนี้มันก็ทำให้เราดูดีขึ้น ที่เห็นได้ชัดคือถุงไขมันใต้ตา”
ยอมรับพอหน้าเด็ก-ตาหวาน แล้วเสน่ห์แรงขึ้น
“ส่วนมากจะมาถามว่าขอดูหน้าหน่อย มันเปลี่ยนไปไหม แต่ก็ยอมรับ ว่าเสน่ห์แรงขึ้นประมาณหนึ่ง (หัวเราะ) ก็อยากฝากถึงคนที่คิดอยากทำศัลยกรรม ตัวเราเราจะรู้ ว่าเราอยากทำอะไร เมื่อวัยมันพร้อม มันไม่ได้เดือดร้อนใคร ทำแล้วมีความสุข ทำแล้วสบายใจ ก็ทำเถอะครับ เพียงแต่ว่าพยายามปรึกษา หาสถานที่ หาหมอที่น่าเชื่อถือ แล้วทำเลยไม่ต้องคิดอะไรมาก”