กระแสในวงการบันเทิงมีเกิดขึ้นและดับไป เป็นเรื่องปกติธรรมดาที่คนในวงการรู้กันดี แต่มีน้อยครั้งที่ศิลปินนักร้องกระแสตกไปแล้ว ด้วยเหตุการณ์บางอย่างกลับฟื้นขึ้นมาเป็นกระแสอีกรอบ อาจจะเรียกว่าเป็นดวงก็ได้หรือเป็นจังหวะชีวิตก็ตามแต่จะเรียก แล้วเหตุใดมันถึงเป็นแบบนั้นไปได้ มันใช่ดวงอย่างที่ว่าจริง หรือเป็นความพยายามตั้งใจของตัวศิลปินกันแน่เรื่องแบบนี้คงจะฟันธงกันได้ยาก ดังนั้นเราลองมาย้อนดูเหตุการณ์ของศิลปินที่ว่ากันดีกว่าครับ เริ่มจากนักร้องหนุ่มขวัญใจสาว ๆ อย่างคุณ เป๊ก ผลิตโชค หากใครที่มีอายุ 20 ปลาย ๆ หรือย่างเข้า 30 แล้ว คงจะรู้จักชายคนนี้ดีกับเจ้าของเพลงฮิต ไม่มีใครรู้, ใจหนึ่งก็รัก อีกใจก็เจ็บ ที่เรียกว่าฮิตมากในช่วงยุคสิบกว่าปีที่ผ่านมา ทว่าหลังจากนั้น เป๊ก ก็หายหน้าหายตาไปเลย อาจก็มีกระแสดราม่าเรื่องหน้าตาบ้าง รวมแล้วเขาถูกลืมไปเลยจนมาในยุคของรายการ The Mask Singer ซีซั่น 1 เรียกว่า เป๊ก ได้ถูกชุบชีวิตใหม่อีกครั้งภายใต้หน้ากากจิงโจ้ หลังจากนั้นชื่อเสียงก็ไหลกลับมาแถมดังยิ่งกว่าเก่า มีทั้งผลงานเพลงหรืองานโฆษณาเข้ามาไม่ขาดสาย จนมีคอนเสิร์ตเอาใจเหล่านุชจนฟิน และในปัจจุบันชื่อของ เป๊ก ผลิตโชค ก็ยังขายได้ ยังอยู่ในกระแสบันเทิงได้อีกนานที่มารูปภาพ: OfficialWhiteMusicหนุ่มร่างหมีอารมณ์ดีอย่างคุณ โอ๊ต ปราโมทย์ ปาทาน ก็มีชะตาพลิกผันคล้าย ๆ กันครับ เราอาจจะคุ้นหูกันในเพลง "คำสาป" ที่เขาได่ร้องไว้เมื่อนานมาแล้วซึ่งเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง A millionaire's first love (รักสุดท้ายของนายไฮโซ) หรืองานเพลง "ที่รัก" ประกอบละคร เกมร้าย เกมรัก หลังจากนั้นชื่อของ โอ๊ต ปราโมทย์ ก็หายไปจากสารบบวงการบันเทิงไปพักใหญ่ ๆ จนคิดว่ากระแสคงดับไปเรียบร้อยอย่างไรก็ตามชื่อของเขาก็ได้เป็นที่รู้จักอีกรอบ ซึ่งคราวนี้เขาถูกรู้จักในนามของความหยาบเสียมากกว่า ผ่านทางคลิปวีดีโอผ่านโซเชียลมีเดียครับ อย่างเช่นการแปลเพลงที่ออกไปในทางใต้สะดือเสียส่วนใหญ่ บวกกับมุกตลกสัปดนและความอารมณ์ดี ทำให้รู้สึกว่าเขาเข้าถึงได้ง่ายและเป็นมิตรกับทุก ๆ คน ส่วนในเรื่องของเสียงร้องก็ไม่ต้องห่วงครับ ความสามารถในการร้องยังคงอยู่ในระดับท็อป ๆ ได้สบายจากการแจ้งเกิดอีกครั้งด้วยความทะลึ่งสัปดน ก็เป็นโอกาสให้เขามีงานจ้างอื่น ๆ เข้ามาอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นงานร้องเพลงที่ร้างลามานาน งานพิธีกร จัดรายการวิทยุและเป็นยูทูปเบอร์เปิดช่องเป็นของตัวเอง เป็นช่วงชีวิตที่ฟื้นคืนอีกครั้งหลังจากห่างหายไม่มีงานจ้างหลายปีที่มารูปภาพ: GMM GRAMMY OFFICIALอีกหนึ่งศิลปินหญิงที่ถูกพูดถึงในตอนนี้คือ ส้ม มารี หลังจากแจ้งเกิดในรายการ LG Starz Talent ในปี 2551 ก็ได้มีผลงานในสังกัด GMM Grammy ระยะหนึ่ง หลังจากนั้นชื่อของเธอก็หายไปจากวงการ จนกระทั่งเธอได้มาเป็นยูทูปเบอร์ทำรายการของตัวเองและ Cover เพลงไปด้วย ล่าสุดผลงานของเธอก็มาดังเปรี้ยงอีกครั้งในเพลง "รางวัลปลอบใจ" ที่มียอดวิวมากกว่า 40 ล้านวิวเข้าให้แล้วอีกศิลปินที่มีความใกล้เคียงกันคือ ทอม อิศรา จากนักแสดงเด็กสู่นักร้อง Cover ในช่อง Youtube จนล่าสุดก็มีชื่อเสียงกับวง Room39 และสุดท้ายเขาก็ได้ออกมาเป็นศืลปินเดี่ยว ศิลปินหญิงอีกคนอย่างคุณ พันช์ วรกาญจน์ โรจนวัชร เจ้าของฉายาผู้หญิงตาดำ ๆ ก็กลับมาปังอีกครั้งในเพลง "เก็บซ่อน" จนมีงานจ้างร้องเพลงอีกครั้ง หรือคุณหนุ่มวง Kala หลังจากที่ชีวิตพลิกผันหลายครั้งก็กลับมาได้ในฐานะศิลปินเดี่ยวนาม NKLที่มารูปภาพ: Khaosan Entertainmentทั้งหมดนี้จะเห็นได้ว่ามันแทบจะไม่มีความจงใจที่ทำให้โด่งดังเลย เหตุการณ์แต่ละอย่างมันอยู่ที่ "จังหวะ" หรือ "การอยู่ถูกที่ถูกเวลา" เสียมากกว่าครับ เป๊ก ผลิตโชค กับหน้ากากจิงโจ้ ที่โด่งดังด้วยจังหวะที่ถูกเวลา มีการขุดค้นหาหลักฐานว่าภายใต้หน้ากากใช่นักร้องคนนี้หรือไม่ รวมถึงการพิสูจน์ตัวเองของคุณ เป๊ก ว่ามีดีจริง ความหยาบโลนของ โอ๊ต ปราโมทย์ อาจทำให้กระแสดับได้หากเป็นยุคก่อน แต่เมื่อเป็นยุคที่มีกระแสโซเชียลเบ่งบานทำให้ศิลปิน ดูจับต้องได้ง่ายเหมือนเพื่อน การมาของเขาในยุคนี้เป็นอะไรที่ลงตัวเหมาะเจาะมาก ๆบางทีจังหวะชีวิตที่ลงตัวบวกกับความทุ่มเทไม่ย่อท้ออย่างคุณ ส้ม มารี ก็เช่นกันหลังจากที่ Cover เพลงคนอื่นมานานและซุ่มทำเพลงของตัวเองอย่างเต็มที่ ประกอบกับการได้แร็ปเปอร์ LAZYLOXY ในยุคที่การแรปโด่งดัง เมื่อเพลงปล่อยออกมาก็ทำให้ได้รับกระแสที่ดีมาก ๆ มีคนติดตามเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวนอกจากนี้ ความสามารถ ก็เป็นอีกสิ่งที่ทำให้พวกเขา/เธอ ยืนหยัดได้อีกครั้งเพราะวงการนี้ ความสามารถเป็นสิ่งสำคัญ บุคลิก-ภาพลักษณ์ก็เหมือนกัน ที่ทำให้เกิดกระแส ความน่าดึงดูด อย่าง โอ๊ต ปราโมทย์ แม้ว่าเขาจะมีบุคลิกหยาบเป็นจุดขาย แต่นอกจอเขาเป็นคนที่สุภาพและรู้กาละเทศะที่ดีคนหนึ่งเลยทีเดียว ดังนั้นแล้วคงบอกไม่ได้ชัดเจนหรอกครับว่าเหล่าศิลปินที่เกือบดับแสงไปแล้ว กลับมารุ่งโรจน์อีกครั้งได้อย่างไร แต่คงบอกได้ว่าการที่พวกเขากลับมามีแสงไฟส่องอีกครั้ง คงมีสามอย่างที่เป็นปัจจัยหลักนั่นคือ "ความสามารถ" "จังหวะเวลาที่เหมาะสม" และสิ่งสุดท้ายที่ขาดไม่ได้เลยคือ "ดวง"ที่มารูปภาพปก: freestocks-photos จาก Pixabay