รีเซต

15 ปี "กระสือวาเลนไทน์" หนึ่งในหนังไทยรักละมุน...ที่ถูกลืมไปตามกาลเวลา

15 ปี "กระสือวาเลนไทน์" หนึ่งในหนังไทยรักละมุน...ที่ถูกลืมไปตามกาลเวลา
Jeaneration
9 กุมภาพันธ์ 2564 ( 10:45 )
3.3K

ข่าวสารวงการหนัง

ย้อนกลับไปในวันนี้ 9 กุมภาพันธ์ เมื่อ 15 ปีที่แล้ว เป็นวันที่มีหนังไทยที่เป็นหนังรักค่อนข้างแปลกแหวกกระแสอยู่สักหน่อยเข้าฉายในโรงหนังทั่วประเทศ เป็นหนึ่งในโปรแกรมหนังที่เตรียมเอาไว้ต้อนรับเทศกาลวันวาเลนไทน์ หนังเรื่องนั้นก็คือ "กระสือวาเลนไทน์" (Ghost of Valentine) ที่เป็นหนึ่งในผลงานที่ชั้นเชิงอีกชิ้นของผู้กำกับฝีมือดี "ต้อม-ยุทธเลิศ สิปปภาค"

กระสือวาเลนไทน์ เป็นหนังรักที่มีสไตล์ความเป็นพีเรียดปะปนอยู่ในบรรยายกาศ แม้ว่าจะมีการนำเสนอและงานออกแบบต่างๆ ที่ค่อนข้างโดดเด่นไม่เหมือนกัน โดยเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในโรงพยาบาลเก่าแห่งหนึ่ง พยาบาลสาวที่เพิ่งย้ายเข้ามาประจำการไม่นาน ก็เกิดสะดุดตาภารโรงหนุ่มคนซื่อตั้งแต่แรกพบ ดอกกุหลาบอกแรกที่สาวได้รับจากภารโรงหนุ่มโดยบังเอิญในวันแห่งความรักนั้น นำไปสู่จุดเริ่มต้นที่ทำให้ทั้งคู่ต้องเผชิญกับเหตุการณ์ประหลาดและความผูกพันกันอย่างคาดไม่ถึง

ต้องยอมรับว่า กระสือวาเลนไทน์ เป็นหนังรักที่มีคอนเซ็ปต์ที่ค่อนข้างน่าสนใจ แต่อาจจะเป็นหนังที่ไม่ได้ดูง่ายๆ เหมือนกับหนังรักย่อยง่ายทั่วไป เพราะโครงเรื่องก็มีความทับซ้อนและปมต่างๆ ไว้ดึงดูดคนดูต้องติดตามไปตลอดทาง จึงทำให้หนังรักเรื่องนี้กลายเป็นหนังที่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จสักเท่าไหร่นัก และยังกลายเป็นหนังที่ถูกกลืนหายไปตามกาลเวลาที่ผ่านมา เพราะผ่านไปแล้ว 15 ปี ก็แทบจะไม่ค่อยมีใครนึกถึงหนังเรื่องนี้ในวันวาเลนไทน์ด้วยซ้ำ

และหนึ่งในจุดแข็งของหนังเรื่องนี้ก็ต้องยกให้นักแสดง "พลอย จินดาโชติ" ที่นี่น่าจะเป็นผลงานเรื่องท้ายๆ ที่เธอฝากเอาไว้ ก่อนจะเฟดตัวออกไปใช้ชีวิตและทุ่มเทเวลาให้กับครอบครัว กระสือวาเลนไทน์ก็น่าจะเป็นอีกผลงานระดับมาสเตอร์พีชของเธอ กับการแสดงที่น้อยแต่มากและทรงเสน่ห์ไปตลอดทั้งเรื่อง ในขณะที่ "เต้ ปิติศักดิ์" ที่ไม่ต้องพูดอะไรมาก เขาเป็นนักแสดงหนุ่มมีอินเนอร์และจังหวะดราม่าที่ถ่ายทอดออกมาได้ดีอยู่เสมอๆ

ต้อม ยุทธเลิศ ที่ทำหน้าที่ทั้งเป็นผู้กำกับและเขียนบทหนังเรื่องนี้ด้วยตัวเอง นี่เป็นงานชิ้นถัดจากหนังตระกูล "บุปผาราตรี" ของเขา ที่เราจะได้สัมผัสถึงกลิ่นอายความรักและความผูกพันที่เขาพยายามใส่เข้ามาภายในหนังเรื่องนี้ เป็นโจทย์ที่เขาอยากเล่าเอาไว้ในหนังรักรูปแบบฉบับของเขา ที่คงเอาไว้ถึงความหลอน ผนวกเข้ากับความคลาสสิก และตรึงใจคนดูด้วยความรักแบบไม่เหมือนใคร

นอกจากนี้ การตีความในประเด็นกระสือ ที่ผีระดับตำนานของไทยมาช้านาน ก็นับว่าเป็นโจทย์ที่ท้าทายมาก เพราะจะทำอย่างไรให้ผีกระแสไม่ได้ออกมาซ้ำซากจำเจแบบเดิม จึงได้หยิบเอาเรื่องความเชื่ออื่นๆ มาผสมผสาน ทั้งเรื่องอดีตชาติ การกลับชาติมาเกิด และความผูกพันในความรัก เมื่อนำมารวมกับตำนานการสืบทอดผีสางในตำนาน จึงออกมาเป็นหนังรักผสมผีที่หลอนละมุนไปทั้งเรื่องอย่างไม่น่าเชื่อ

ยังจำได้อยู่เลยว่า กระสือวาเลนไทน์ เป็นหนังที่นำเอาเพลง "กุหลาบแดง" เพลงคลาสสิกของ "ไก่ พรรณนิภา" หยิบมาใช้เพื่อสื่อแทนหนังเรื่องนี้ และยังทำให้เพลงกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งเช่นกัน แม้ว่า กระสือวาเลนไทน์ จะกลายเป็นหนังดีในความทรงจำที่แทบจะถูกลืมไปในปัจจุบันแล้ว แต่หากหยิบกลับมาเปิดดูอีกครั้งในช่วงบรรยากาศเช่นนี้ ก็พบว่าหนังยังดูไม่ล้าสมัยไปเลยแม้แต่น้อย ทุกองค์ประกอบยังถ่ายทอดออกมาได้พิถีพิถันและเหมาะสม นี่จึงกลายเป็นหนังรักที่ยังอยู่ในใจคอหนังไทยบางคนอยู่ถึงทุกวันนี้...

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก สหมงคลฟิล์ม

-------------------------------------

>> ดูหนังออนไลน์ได้ที่ Movie.TrueID <<

หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับทรูไอดีสามารถเข้าไปได้ที่ TrueID Help Center เป็นช่องทางใหม่ที่ให้ข้อมูลและการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นเกี่ยวกับทรูไอดี คลิกเลย >> https://bit.ly/34057In