ออสการ์ 2025: ทำนายผลรางวัล Oscars กับ 10 สาขาโดดเด่น by MovieTrueID

งานประกาศผลรางวัลออสการ์ 2025 หรือ Academy Awards ครั้งที่ 97 ที่จะจัดขึ้นในช่วงเช้าตรู่วันจันทร์ที่ 3 มีนาคมนี้ ตามเวลาประเทศไทย เวทีรางวัลอันทรงเกียรติสูงสุดในวงการภาพยนตร์ของโลก ในปีนี้ได้พิธีกรคารมดี "โคแนน โอไบรอัน" ก้าวขึ้นมารับหน้าที่เป็นพิธีกร พร้อมกับจะมีโชว์เซอร์ไพรส์อันน่าตื่นตากว่าครั้งไหน ๆ ที่จะถูกเสกสรรขึ้น ณ โรงละครดอลบี้ เธียเตอร์ ฮอลลิวูด นครลอสแองเจลิส เหมือนทุกปี
- ดูหนังเข้าชิง 10 รางวัลออสการ์ Wicked ได้ที่นี่
- ดูหนังเข้าชิง 6 รางวัลออสการ์ Anora ได้ที่นี่
- ดูหนังเข้าชิง 5 รางวัลออสการ์ Dune: Part 2 ได้ที่นี่
- ดูหนังเข้าชิง 3 รางวัลออสการ์ The Wild Robot ได้ที่นี่
สำหรับในปีนี้ภาพรวมของหนังสายรางวัลอาจจะไม่ได้มีเรื่องไหนที่โดดเด้งโดดเด่นนำหน้ามาอย่างเห็นได้ชัด "The Brutalist" หนังดรามาเรื่องยาวกว่า 3 ชั่วโมง ก็มีโอกาสที่จะคว้ารางวัลสาขาใหญ่ ๆ ได้อยู่ เช่นเดียวกับ "Anora", "Conclave" และ "A Complete Unknown" ที่น่าจะเก็บแต้มเก็บรางวัลกลับบ้านไปได้อยู่บ้าง และที่น่าจับตามองก็คือ "Emilia Pérez" ที่มีชื่อเข้าชิงมากที่สุดในปีนี้ กับประเด็นอื้อฉาวต่าง ๆ จะนำพาให้หนังไปสู่เส้นทางที่รุ่งโรจน์บนเวทีนี้ได้หรือไม่
และตอนนี้ก็ได้ถึงแก่เวลาที่ Movie.TrueID จะมาทำการประเมินและคาดการณ์ทำนายผลรางวัลออสการ์ประจำปีนี้ ใน 10 สาขารางวัลที่โดดเด่น จากทั้งหมด 23 สาขา เป็นการเกร็งผลรางวัลในเบื้องต้นว่าผลงานเรื่องไหนเหมาะสมกับรางวัล โดยเป็นการคาดคะแนจากกระแส, คำวิจารณ์ และสถิติรางวัลที่เก็บสะสมมา นำมาสู่การทำนายผลรางวัลออสการ์ในครั้งนี้...
ภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยม (Best International Feature)
นับว่าเป็นปีที่การแข่งขันของสาขานี้ ดุเดือดบนบัลลังก์แห่งศักดิ์ศรีจริง ๆ เพราะกลายเป็นว่าการขับเคี่ยวกันระหว่างหนังที่เข้าชิง 2 เรื่องจาก 2 ชาติ ได้บดบังผู้เข้าชิงที่เหลืออีก 3 เรื่องให้กลายเป็นตัวประกอบไปเลย ถึงแม้ว่าส่วนตัวอยากจะปารางวัลให้ "I'm Still Here" จาก บราซิล แต่เมื่อนำไปประกอบกับกระแสและเทรนด์ต่าง ๆ แล้ว "Emilia Pérez" หนังเข้าชิงสุดฉาวจากฝรั่งเศสปีนี้ ดูจะมีภาษีที่แซงหน้าขึ้นมามากกว่า แม้ว่าอาจจะค้านตาสายผู้ชมไปบ้างก็ตาม แต่เชื่อว่าเอมิเลียน่าจะซิวสาขานี้ไป
- คาดว่าชนะ: Emilia Pérez
- อาจจะชนะ: I'm Still Here
- ตัวแปรสำคัญ: I'm Still Here
นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม (Best Supporting Actor)
เป็นสาขาที่แทบจะไม่ต้องลุ้นอะไรมากเลย เพราะว่าเขาแทบจะเดินสายเก็บเกี่ยวและโกยได้ทุก ๆ เวทีรางวัลในปีนี้ของจริง สำหรับ "คีแรน คัลกิน" อดีตนักแสดงเด็กที่เราคุ้นเคยมาตั้งแต่ Homw Alone บัดนี้เป็นดาราวัยหลักสี่ที่กำลังจะก้าวมาเป็นนักแสดงรางวัลออสการ์ตัวแรกในชีวิตแล้ว กับการแสดงใน A Real Pain ที่เหมาะเจาะคู่ควร แม้ว่าจะมี "เอ็ดเวิร์ด นอร์ตัน" จาก "A Complete Unknown" หรือ"เจเรมี สตรอง" จาก "The Apprentice" เป็นคู่แข่งทรงคุณค่า แต่รัศมีความปังของคีแรนก็โดดเด่นกว่าใคร
- คาดว่าชนะ: คีแรน คัลกิน จาก A Real Pain
- อาจจะชนะ: เอ็ดเวิร์ด นอร์ตัน จาก A Complete Unknown
- ตัวแปรสำคัญ: เจเรมี สตรอง จาก The Apprentice
นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม (Best Supporting Actress)
เช่นเดียวกับสาขานี้เหมือนกัน การแสดงของที่เหมือนกับแบกหนังเอาไว้ทั้งเรื่องขงอ "โซอี้ ซัลดานา" เป็นการเครื่องการันตีว่าลีลาแอคติ้งของดูเป็นของจริง แม้ว่าตัวเนื้อหาภาพรวมของ "Emilia Pérez" มันจะค่อนข้างค้านสายตาคนดูก็ตามที แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการแสดงของเธอดีเด่นในหนังคุณภาพที่อาจจะไม่เลิศเลอเรื่องนี้ แต่ก็อย่าเพิ่งไว้วางใจไป เพราะการแสดงของ "อิซาเบลลา โรสเซลินี" จากหนังอิงศาสนา อย่าง "Conclave" ก็เป็นคู่แข่งที่ยังประมาทไม่ได้เหมือนกัน อาจมีการพลิกล็อกเกิดขึ้นได้เสมอ
- คาดว่าชนะ: โซอี้ ซัลดานา จาก Emilia Pérez
- อาจจะชนะ: อิซาเบลลา โรสเซลินี จาก Conclave
- ตัวแปรสำคัญ: อารีอานา กรานเด จาก Wicked
ภาพยนตร์แอนิเมชันยอดเยี่ยม (Best Animated Feature)
"The Wild Robot" ผลงานล่าสุดของดรีมเวิร์กส์ แอนิเมชัน อาจจะเป็นการหวนคืนความภูมิใจของสตูดิโอแห่งนี้ได้อีกครั้งในรอบเกือบ 25 ปีเต็ม เพราะคุณต้องไม่เชื่อว่านับตั้งแต่ "Shrek" ภาคแรก ได้ออสการ์ไปในปี 2001 ค่ายหนังการ์ตูนแห่งนี้ก็ไม่เคยมีผลงานได้จับรางวัลอีกเลย และผลงานเรื่องนี้ก็โดดเด่นดีเด่นเหมาะเจาะที่จะได้ แต่กระนั้นก็ต้องเจอคู่แข่งสุดหิน อย่าง "Flow" หนังแอนิเมชันไร้บทพูดเรื่องดังจากลัตเวีย ที่ก็ยังมีโอกาสสูงไม่น้อยที่จะมาตัดหน้าโฉบรางวัลนี้ไปครอง หลังจากที่พลาดรางวัลหนังต่างประเทศยอดเยี่ยมไป
- คาดว่าชนะ: The Wild Robot
- อาจจะชนะ: Flow
- ตัวแปรสำคัญ: Flow
ผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Best Director)
เป็นปีที่สาขานี้จะค่อนข้างได้ลุ้นแบบสนุกทีเดียว เพราะเป็นปีนี้กรรมการจะต้องหนักใจไม่น้อย เพราะฝีมือผู้กำกับทั้ง 5 ท่านที่ได้เข้าชิงในปีนี้ ต่างสูสีคู่คี่กันทั้งหมด แต่เราเชื่อว่า "Anora" ฝีมือการกำกับของ "ชอว์น บาเกอร์" จะสามารถเก็บรางวัลนี้ไป เพราะพิจารณาจากสถิติต่าง ๆ จากหลากหลายเวทีในตอนนี้ ค่อนข้างมาในทิศทางเดียวกันไม่น้อย แต่ก็อย่าเพิ่งประมาทฝีมือ "แบรดี คอร์เบ็ต" ที่สรรค์สร้าง "The Brutalist" ออกมาได้สุดจึ้งยิ่งใหญ่ จากทุนสร้างนิดเดียว ฝีมือของเขาก็ไม่ธรรมดาและเพียงพอที่จะโฉบรางวัลได้อยู่เช่นกัน
- คาดว่าชนะ: ชอว์น บาเกอร์ จาก Anora
- อาจจะชนะ: แบรดี คอร์เบ็ต จาก The Brutalist
- ตัวแปรสำคัญ: ฌากส์ โอเดียร์ จาก Emilia Pérez
บทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม (Best Adapted Screenplay)
หนังเข้มข้นปมศาสนา "Conclave" น่าจะเป็นเรื่องที่มีภาษีที่ดีที่สุดในสาขานี้ เพราะหนังก็เก็บรางวัลเวทีใหญ่ ๆ มาไว้ได้แล้ว ไม่ว่าจะเป็น ลูกโลกทองคำ หรือ BAFTA ฝั่งอังกฤษ ถือว่าค่อนข้างมีทิศทางที่ดีที่หนังจะมีโอกาสสูง
- คาดว่าชนะ: Conclave โดย ปีเตอร์ สตราวฮาน
- อาจจะชนะ: ไม่มี
- ตัวแปรสำคัญ: ไม่มี
บทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม (Best Original Screenplay)
แม้ว่าบทหนังอันีมสไตล์และเสน่ห์จากการสร้างสรรค์ครั้งแรกของดาราหนุ่ม "เจสซี ไอเซนเบิร์ก" ใน "A Real Pain" จะค่อนข้างน่าหลงใหลสนใจไม่น้อย แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเขาอาจจะเทียบเคียงความเจิดจรัสในบทหนังของ "ชอว์น บาเกอร์" ใน "Anora" ยังไม่ได้ในตอนนี้ เพราะเป็นคู่แข่งที่โดดเด่นกว่า และมีถ้วยรางวัลมากมายจากหลาย ๆ เวทีในตอนนี้ ในเมื่อน่าจะได้รางวัลผู้กำกับแล้ว ทำไมรางวัลฝั่งบทหนังจะไม่ได้ไปอีกตัวเล่า
- คาดว่าชนะ: Anora โดย ชอว์น บาเกอร์
- อาจจะชนะ: A Real Pain โดย เจสซี ไอเซนเบิร์ก
- ตัวแปรสำคัญ: The Brutalist โดย แบรดี คอร์เบ็ต กับ โมนา ฟาสต์วอลด์
นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม (Best Actor)
นี่น่าจะเป็นการคัมแบ็กกลับมาสู่แถวหน้าของวงการอีกครั้งในรอบ 20 ปีของ "เอเดรียน โบรดี้" หลังจากที่เขาคว้าออสการ์ตัวแรกจาก "The Pianist" ไป ก็ค่อนข้างเฟดหายไปตามกระแสคลื่นลูกใหม่ และปีนี้เขาก็อาจจะมีโอกาสกลับมาคว้าออสการ์ตัวที่ 2 ให้กับตัวเอง กับการแสดงที่อยู่หมัดจริง ๆ ใน "The Brutalist" แต่กระนั้นก็ยังประมาทฝีมือของหนุ่มเจ้าเสน่ห์แห่งยุค "ทิโมธี ชาลาเมต์" ที่ฝีมือของเขายังเจิดจรัสยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ การแสดงใน "A Complete Unknown" ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าจึ้งจริง การเข้าชิงออสการ์ครั้งที่ 2 ของพ่อหนุ่มคนนี้ อาจจะเป็นครั้งที่น่าลุ้นมากกว่าครั้งไหน ๆ
- คาดว่าชนะ: เอเดรียน โบรดี้ จาก The Brutalist
- อาจจะชนะ: ทิโมธี ชาลาเมต์ จาก A Complete Unknown
- ตัวแปรสำคัญ: ทิโมธี ชาลาเมต์ จาก A Complete Unknown
นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม (Best Actress)
นี่จะกลายเป็นหนึ่งในสาขารางวัลที่ชวนลุ้นระทึกกันแบบสนุกลุ้นเกร็งกันแน่ ๆ เพราะปีนี้ดาราหญิงเต็มไปด้วยสายแข็งที่ฟาดฟันแบบกินกันไม่ลงจริง ๆ โดยเฉพาะการประชันกันระหว่าง 2 รุ่น "เดมี มัวร์" กับการระเบิดพลังการแสดงใน "The Substanne" และสาวน้อยคลื่นลูกใหม่ "ไมกี้ แมดิสัน" ที่แบกหนัง "Anora" ด้วยร่างน้อย ๆ ได้อย่างทรงพลังไม่เบา ถือว่าทั้งคู่ผลัดกันโฉบรับรางวัลนี้บนเวทีต่าง ๆ เป็นว่าเล่น แต่เราเชื่อว่าออสการ์จะให้...เดมี เพราะนับว่าเป็นบทบาทที่โดดเด่นและโอกาสแบบนี้อาจจะไม่เกิดขึ้นกับตำนานนักแสดงหญิงผู้นี้แล้วอีกก็ได้
- คาดว่าชนะ: เดมี มัวร์ จาก The Substance
- อาจจะชนะ: ไมกี้ แมดิสัน จาก Anora
- ตัวแปรสำคัญ: เฟอร์แนนดา ทอร์เรส จาก I'm Still Here
ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Best Picture)
ต้องบอกเลยว่าเป็นปีนี้คาดการณ์รางวัลใหญ่ที่สุดของงานออสการ์ได้ยากสุด ๆ เพราะผลงานหนังแต่ละเรื่องในปีนี้ ไม่ได้มีหนังเรื่องนี้ที่เฉิดฉายโดดเด่นกว่าใคร ๆ ออกมาเป็นพิเศษ แต่หากจะต้องทำนายผลแล้วนั้น เราก็ขอจิ้มผลออกมาเป็น "Anora" น่าจะคว้ารางวัลใหญ่ไปครอง พิจารณาจากสถิติที่หนังเก็บเกี่ยวไว้ได้ในตอนนี้ หนังได้รางวัลจากสมาพันธ์ใหญ่ ๆ อย่าง PGA กับ DGA ไว้แล้ว แต่ก็ไม่อาจมองข้าม "The Brutalist" และ "Conclave" ไป โดยเฉพาะเรื่องหลัง ที่มี BAFTA และ SAG มาการันตี หรือถ้ากรรมการออสการ์ปีนี้อยากจะฉีกแนวไปเลย พวกเขาอาจจะสุดโต่งโหวตให้ "Emilia Pérez" ได้รางวัลใหญ่นี้ไปแบบให้ลือลั่นไปเลย
- คาดว่าชนะ: Anora
- อาจจะชนะ: The Brutalist หรือ Conclave
- ตัวแปรสำคัญ: Emilia Pérez
และยังมีรางวัลอื่น ๆ ที่น่าสนใจจะคาดคะเนไว้ ได้แก่...
ภาพยนตร์สารคดียอดเยี่ยม (Best Documentary Fearture)
คาดว่ารางวัลจะเป็นของ No Other Land
การออกแบบโปรดักชันยอดเยี่ยม (Best Production Design)
คาดว่ารางวัลจะเป็นของ Wicked
การถ่ายภาพยอดเยี่ยม (Best Cinematography)
คาดว่ารางวัลจะเป็นของ The Brutalist
การตัดต่อเสียงยอดเยี่ยม (Best Sound)
คาดว่ารางวัลจะเป็นของ Dune: Part 2
การตัดต่อภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Best Film Editing)
คาดว่ารางวัลจะเป็นของ Conclave
การแต่งหน้าและทำผมยอดเยี่ยม (Best Makeup and Hairstyling)
คาดว่ารางวัลจะเป็นของ The Substance
การออกแบบเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยม (Best Costume Design)
คาดว่ารางวัลจะเป็นของ Wicked
เพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Best Original Score)
คาดว่ารางวัลจะเป็นของ Emilia Pérez เพลง El Mal
เพลงบรรเลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Best Original Score)
คาดว่ารางวัลจะเป็นของ The Burtalist
การออกแบบเทคนิคพิเศษยอดเยี่ยม (Best Visual Effects)
คาดว่ารางวัลจะเป็นของ Dune: Part 2
แล้วติดตามลุ้นผลลัพธ์ว่าหนังแอนิเมชันเรื่องไหน จะสามารถคว้ารางวัลภาพยนตร์แอนิเมชันยอดเยี่ยมไปได้ กับ การถ่ายทอดงานประกาศผลรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 97 ในวันจันทร์ที่ 3 มีนาคมนี้ ตามเวลาในประเทศไทย ทางทรูวิชันส์ ช่อง True Film 1 (115, 2222) ด้วยการรับชมผ่านแพ็กเกจ TrueVisions Now Prime ขึ้นไป ห้ามพลาด!
-------------------------------------
>> ดูหนังออนไลน์ได้ที่ Movie.TrueID <<
หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับทรูไอดีสามารถเข้าไปได้ที่ TrueID Help Center เป็นช่องทางใหม่ที่ให้ข้อมูลและการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นเกี่ยวกับทรูไอดี คลิกเลย >> https://bit.ly/3xEgdAa