The Bravest (2019) ผู้กล้าผจญเพลิง หนังจีนแนวแอคชั่น ดราม่า การเสี่ยงชีวิตของหน่วยกู้ภัย ดัดแปลงจากเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง ในบันทึก Balgi's wilderness, "The Deepest Water is Tears." เหตุการณ์ท่อน้ำมันระเบิดในนครต้าเหลียน ของมณฑลเหลียวหนิง ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศจีน เมื่อปี 2010 ตัวหนังขับเน้นเรื่องราวการเสียสละของนักผจญเพลิง ที่บางครั้งความจำเป็นของหน้าที่ก็อาจทำให้ ไม่สามารถอยู่กับครอบครัวได้ในยามที่พวกเขาต้องการ หนังเปิดตัวฉายในประเทศจีนเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2019 และฉายในอเมริกาเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม หลังจากสิ้นสุดโปรแกรมฉาย หนังทำรายได้สูงถึง 1.7 พันล้ายหยวนในประเทศจีน หรือประมาณ 244 ล้านเหรียญสหรัฐเลยที่เดียว เจียงลี่เหว่ย (หวงเสี่ยวหมิง) หัวหน้าทีมหน่วยปฏิบัติการพิเศษตงซาน งานประจำที่เขาและเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยทุกคนต้องออกไปทำคือ การกู้ภัยและดับเพลิง เช่นเดียวกันกับงานในวันนี้ ที่เกิดเหตุไฟไหม้ตึกแห่งหนึ่งที่ชั้นล่างเปิดร้านอาหาร ลี่เหว่ย สั่งการทุกอย่างตามที่ฝึกทุกคนมา จนสามารถช่วยชีวิตทุกคนที่ติดอยู่ในตึกออกมาได้อย่างปลอดภัย แต่แล้วก็เกิดเหตุไม่คาดฝันเมื่อเกิดเหตุระเบิดขึ้นมาซ้ำสอง จนทำให้ลูกทีมของเขาเสียชีวิตและตัวเขาเองได้รับบาดเจ็บสาหัส ทุกคนต่างพุ่งเป้ากล่าวโทษมาที่หัวหน้าอย่าง ลี่เหว่ย ว่าผิดพลาดจนทำให้ลูกทีมเสียชีวิต แม้เวลาผ่านมาหลายเดือน ลี่เหว่ย ก็ยังไม่สามารถลบความทรงจำอันเจ็บปวดนั้นได้ มันทำให้เขาไม่สามารถผ่านการประเมินสภาพจิต จนผู้บังคับบัญชาตัดสินใจจะปลดเขาออกจากทีม ลี่เหว่ย ได้แต่ทำใจและมองโลกในแง่ดีว่า ต่อจากนี้เมื่อไม่ต้องทำงานเสี่ยงตายแล้ว เขาจะได้ใช้เวลาอยู่กับลูกเมียมากขึ้น แต่ยังไม่ทันที่ ลี่เหว่ย จะได้ออกไปใช้เวลากับครอบครัว ก็เกิดเหตุไฟไหม้ครั้งใหญ่ขึ้นที่ศูนย์เก็บน้ำมันชายฝั่ง ถ้าหากพวกเขาระงับเหตุไม่ทันการ จนน้ำมันหลายล้านลิตรและถังสารเคมีที่อยู่ใกล้กันเกิดติดไฟขึ้นมา มันอาจจะกลายเป็นโศกนาฏกรรมของคนทั้งเมือง รวมถึงเหล่าครอบครัวที่พวกเขารักก็อาจหนีจากภัยพิบัตินี้ไม่พ้น หากเป็นคนที่ดูหนังหลากหลายสัญชาติ ทั้งสากล เอเชีย ยุโรป และอื่นๆ เชื่อว่าหลายคนคงเคยดูหนัง Hollywood แนวเชิดชูวีรกรรมของวีรบุรุษผู้เสียสละมาไม่มากก็น้อย The Bravest (2019) เรื่องนี้ก็ไม่ต่างจากหนังเชิดชูฮีโร่อเมริกันเรื่องอื่น เพียงแต่เรื่องนี้เป็นหนังจีนก็เลยกลายเป็นการเชิดชูฮีโร่ไชนีสเท่านั้นเอง เรียกว่ามาหมดทั้งความดราม่า คำคม การพลีชีพ ฉากรวมพลังปลุกใจ อวยกันไม่รู้จะอวยยังไงแล้ว เพียงแต่ด้วยความที่หนังจีน น่าจะเพิ่งหันมาทำหนังแนวเชิดชูวีรกรรมฮีโร่สมัยใหม่ได้ไม่นาน ฉากดราม่าอะไรต่างๆมันเลยรู้สึกเชยเอามากๆ บทหนังช่องโหว่เยอะไปหมด บางฉากแทนที่จะทำให้ฮึกเหิมรู้สึกคล้อยตามตัวละครไปได้ กลับรู้สึกตลกว่ามันใช่เวลาที่พวกพี่จะมาซึ้งอะไรกันตอนนี้ไหม รอบตัวมีแต่ไฟจะระเบิดตายกันหมดอยู่แล้ว ภารกิจบางอย่างต้องทำแข่งกับเวลา แต่ตัวละครอารัมภบทคุยกันเป็นนานสองนาน กว่าจะเริ่มลงมือทำภารกิจกันได้ สถานการณ์เสี่ยงภัยของตัวละครมันเลยดูไม่ค่อยสมจริง ข้อเสียที่เขียนไปด้านบทมันเลยนำมาซึ่งความน่าเสียดาย ที่ขอบอกเลยว่าโปรดักชั่นของหนังอยู่ในขั้นดีเลยนะ ฉากไฟไหม้ฉากระเบิดภาพสวยสมจริง ดูแล้วทำให้คนดูอย่างเราตื่นเต้น รู้สึกถึงความน่ากลัวของเปลวไฟไปด้วยได้ จากทีแรกแอบกังวลว่าเป็นหนังจีนซีจีจะจกตาหรือเปล่า กลายเป็นว่างานเทคนิคพิเศษทำออกมาได้ดีจริงผิดคาดเลย ในแง่มุมบทบาทการแสดงหนังเน้นที่ตัวละคร เจียงลี่เหว่ย เป็นหลัก เขาเองมีปมในใจจากความสูญเสียเพื่อนร่วมทีม ถูกตราหน้าจากคนอื่นว่า การตัดสินใจของเขานี่แหละที่จะพาคนอื่นไปตายอีกครั้ง ลี่เหว่ย เลยต้องพยายามเอาชนะใจตัวเอง และพิสูจน์ให้สมาชิกในทีมเชื่อใจเขาอีกครั้งให้ได้ ส่วนตัวนักแสดงที่รับบทอย่าง หวงเสี่ยวหมิง นั้น ก็ยังคงแสดงเป็น หวงเสี่ยวหมิง นั่นแหละ เป็นพระเอกที่รับบทเป็นใคร คาแรคเตอร์ก็กลายเป็น หวงเสี่ยวหมิง อยู่ดี ฮ่าฮ่า ในมุมดราม่าของหนังก็ดูจะเป็นตัวละครนี้นี่แหละ ที่สัมผัสความรู้สึกคนดูได้มากที่สุด ด้วยความที่ปูเนื้อหามามากกว่าคนอื่น ส่วนตัวละครสมทบมีนักแสดงคุ้นหน้าคุ้นตาอยู่บ้าง อย่าง หวังลู่ ที่รับบทโดย หยางจื่อ นางเอก Go Go Squid! (2019) นายเย็นชากับยัยปลาหมึก สารวัตรฝ่ายสื่อสารที่กำลังจะแต่งงานกับคนรัก (โอวหาว) หัวหน้าทีมจ่ายน้ำ ที่นอกจากเธอจะต้องลุ้นกับภารกิจของตัวเองแล้ว ยังต้องคอยเป็นกังวลความปลอดภัยของคนรัก แต่ถึงจะเห็นว่าผมบ่นแบบนี้ไม่ใช่ว่าไม่บันเทิง ไม่สนุกไปกับหนังนะ หากตัดเรื่องของฉากดราม่าฝืนๆออกไป หนังตอบโจทย์ความบันเทิง ระทึกขวัญ ตื่นเต้น ได้ดีทีเดียว ด้วยความที่ฉากไฟไหม้ ระเบิด อะไรต่างๆมันดูสมจริง คนดูอย่างเรามันก็เลยอดที่จะลุ้นเอาใจช่วยไม่ได้อยู่แล้ว ถ้าหากหนังจีนแนวเดียวกันนี้เรื่องต่อๆไป สามารถปรับลดช่องโหว่ของความดราม่า ไม่ต้องพยายามบิ้วอวยกันมากนัก ไม่ต้องมีฉากรวมพลังอะไรที่มันดูฝืนขัดความจริงจนเกินไป ด้วยโปรดักชั่นที่มีหนังน่าจะเพิ่มความดีงามได้อีกเยอะเลย สรุปแล้ว The Bravest (2019) ผู้กล้าผจญเพลิง เป็นหนังแนวผจญเพลิงที่สนุกบันเทิงใช้ได้นะ แต่ต้องพยายามตัดความอคติเรื่อง Propaganda อวยฮีโร่ ผู้กอบกู้ คำปลุกใจเชยๆอะไรพวกนั้นออกไป เสพเอาเฉพาะความตื่นเต้นเร้าใจจากความวินาศสันตะโรเพียวๆ แล้วคุณจะสนุกไปกับหนังได้แน่นอน สามารถรับชมได้ทาง TrueID เครดิตภาพจาก https://www.imdb.com