รีเซต

รีวิวหนัง "The Wonder" แค่ฉากเปิดเรื่องขึ้นมา ก็ต้องทำให้คุณรู้สึก..เอ๊ะในบัดดล

รีวิวหนัง "The Wonder" แค่ฉากเปิดเรื่องขึ้นมา ก็ต้องทำให้คุณรู้สึก..เอ๊ะในบัดดล
Jeaneration
17 พฤศจิกายน 2565 ( 11:00 )
6.3K

ปีนี้น่าจะเป็นปีที่ลีลาการแสดงของนักแสดงในผลงานต่าง ๆ จะเจิดจรัสอยู่หลายคน และน่าจะเป็นปีที่เวทีรางวัลได้ลุ้นกันสนุก เพราะ "The Wonder" น่าจะเป็นหนังอีกเรื่องหนึ่งที่เป็นผลงานที่มาพร้อมกับการแสดงที่น่าตื่นตาตื่นใจ ด้วยการร้อยเรียงเรื่องได้อย่างลึกลับพิศวงและค่อย ๆ เสาะสืบคลุกวงในเข้าไปทีละเรื่อย ๆ อย่างเต็มไปด้วยคำถาม ผ่านแนวคิดและความเชื่อของตัวละครที่เต็มไปด้วยความซับซ้อน

The Wonder เล่าเรื่องราวที่มีฉากหลังในปี 1862 หรือ 13 ปีในหลังจากทุพภิกขภัยครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นในภูมิภาค ลิบ ไรต์ พยาบาลสาวไนติงเกลจากอังกฤษ ได้ถูกเรียกตัวให้ไปยังชุมชนเคร่งศาสนาแห่งหนึ่งในมิดแลนด์ส ดินแดนไอร์แลนด์ เพื่อทำการตรวจสอบเด็กหญิง วัย 11 ปี แอนนา โอดอนเนลล์ ที่อ้างว่ามีชีวิตอยู่โดยไมได้กินอะไรเลยมาเป็นเวลา 4 เดือนแล้ว

การที่ยังมีชีวิตรอดอยู่ได้อย่างน่าอัศจรรย์ของ แอนนา ที่เปรียบเสมือนเป็นภาวะกระยาทิพย์จากสวรรค์ตามความเชื่อในชาวชุมชนท้องถิ่น แต่กระนั้นพยาบาลสาวก็เริ่มสังเกตเห็นว่าสุขภาพของแอนนาเริ่มทรุดลงอย่างรวดเร็ว และตั้งใจแน่วแน่ว่าจะต้องค้นหาความจริง พร้อมกับท้าทายแนวคิดความเชื่อของชาวชุมชนอย่างเด็ดเดี่ยวที่ค่อนข้างเสี่ยงต่ออุดมการณ์

และนี่คือหนังอีกเรื่องที่หยิบเอาวรรณกรรมขายดีของนักเขียนหญิงชื่อดัง "เอ็มม่า โดโนฮิวจ์" ที่ผลงานชิ้นก่อนของเธอ อย่าง Room กลายเป็นอีกมาสเตอร์พีชที่ได้ขึ้นจอและกลายเป็นหนังระดับแนวหน้าของเวทีรางวัลต่าง ๆ มาแล้ว โดยใน The Wonder นั้น มาพร้อมกับการร้อยเรียงเรื่องที่แตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง แต่ยังโดดเด่นด้วยการนำทางด้วยการใช้ตัวละครผู้หญิงเป็นหลัก

ปมและปริศนาต่าง ๆ ที่ The Wonder ได้ทำการโปรยเอาไว้เหมือนกับเศษขนมปังที่ให้คนดูได้คลำหาไปตามทาง ถือว่าเป็นชิ้นส่วนปริศนาที่น่าค้นหาและชวนติดตาม ท่ามกลางบรรยากาศทางสังคมและวัฒนธรรมในช่วงศตวรรษที่ 19 หยิบนำเอาความเชื่อมาโยงใยเข้ากับสังคมได้อย่างแยบยล นี่คือหนังที่พยายามสื่อสารและตีโจทย์ที่ท้าทาย เพราะเป็นการเล่าประเด็นที่เฉียดเข้าใกล้กกับศาสนาและความเชื่อส่วนบุคคล

The Wonder อาจจะไม่ใช่หนังที่เล่าอย่างตรงไปตรงมาสักเท่าไหร่ เพราะหนังก็ใช้ลูกเล่นต่าง ๆ เข้ามาบิดใช้ในวิธีการเล่าเรื่อง บอกเลยว่าเรื่องนี้สามารถเรียกร้องความสนใจเราได้เป็นอย่างดี ตั้งแต่ฉากเปิดฉากแรกของหนังที่มาพร้อมกับวลีที่ว่า "อย่าเชื่อทุกอย่างที่ได้เห็นและได้ยิน" กับน้ำเสียงที่แสนเยือกเย็นของผู้บรรยาย ที่ได้เกริ่นเอาไว้เข้าสู่เรื่องราวที่ทำให้ผู้ชมเตรียมรับแรงปะทะในหนังเรื่องนี้

ผู้กำกับ "เซบาสเตียน เลลิโอ" ยังคงหยิบเอาไว้ลายเซ็นของเขามาใช้กับหนังเรื่องนี้ได้อย่างมีชั้นเชิง โดยเฉพาะงานออกแบบงานสร้าง และการดีไซน์ภาพและแสงต่าง ๆ ที่ถูกบรรจงจัดองค์ประกอบใส่เข้ามาเพิ่มพูนอารมณ์ของหนังได้เป็นอย่างดี และเป็นอีกครั้งที่เขาสามารถใช้แสงธรรมชาติในเป็นการเล่าเรื่องได้เป็นอย่างดี และเอื้อต่อการนำเสนอฉากต่าง ๆ ที่มีฉากหลังเป็นช่วงศตวรรษก่อน

การเลือกใช้โทนจังหวะของหนังและการสร้างบรรยากาศในเรื่องนี้ถือว่าลึกลับโดนใจ แม้ว่านี่จะไม่ใช่หนังผีหรือหนังฆ่าแกงกันอะไร แต่หนังเลือกใช้ซาวน์เสียงที่ชวนวังเวงและทรงพลังเข้ามาประทับ นับว่าเป็นอีกไฮไลต์ที่ช่วยยกระดับหนังเรื่องนี้ให้ตราตรึงความสนใจได้เป็นอย่างดี วิสัยทัศน์ของเขาได้ถูกนำใช้ในการร้อยเรียงหนังเรื่องนี้ออกมาได้อย่างเติมเต็ม และเกือบจะทำออกมาได้สมบูรณ์แบบ

และแน่นอนว่าความดีงามอยู่ตรงที่ "ฟลอเรนซ์ พิวจ์" ที่หนังเรื่องนี้น่าจะส่งให้เธอได้เฉียดเข้าใกล้เวทีรางวัลได้อีกครั้ง การแสดงของเธอช่างทรงพลัง แม้ว่าจะไม่ได้ออกแรงอะไรมาก แต่การรับบทและดีไซน์คาแรกเตอร์นี้ของเธอนั้น ทำออกมาได้น่าสนใจและน่าจดจำ พลังแอคติ้งที่น้อยแต่มากโดยแท้ ฟลอเรนซ์สามารถแบกรับหนังทั้งเรื่องนี้เอาไว้ได้ค่อยข้างสบายเลย

อีกคนที่อยากจะพูดถึงก็คือนักแสดงเด็กดาวรุ่ง "แคลา ลอร์ด แคสซิดี้" ที่เพิ่งจะมีประสบการณ์ไม่นาน แต่มาเจองานหินอย่างในหนังเรื่องนี้ ที่ตอนแรกก็ไม่คิดว่าจะระเบิดพลังออกมาได้ขนาดนี้ แต่เมื่อเธอต้องมาต่อบทกับฟลอเรนซ์ และช่วยสื่อสารและส่งพลังกันไปมาก การแสดงของเธอนั้นทำออกมาได้น่าทึ่ง โดยเฉพาะซีนดราม่าต่าง ๆ ที่ต้องแบกรับไว้ด้วยตัวเอง เธอก็รับมือกับมันได้ค่อนข้างดี

ภาพรวมแล้วนั้น The Wonder อาจจะไม่ใช่หนังในกระแสทั่วไป หนังมีรูปแบบเฉพาะในตัวเอง ทัั้งจังหวะการเล่าเรื่องและการถ่ายทอดเต็มไปด้วยเอกลักษณ์ ถึงจะเป็นหนังที่ค่อนข้างเงียบและเบา แต่เมื่อผนวกเข้ากับการแสดงอันทรงพลังของนักแสดงนำ อีกทั้งยังมีบทหนังที่ค่อนข้างเข้มแข็งในระดับที่น่าพอใจ นี่จึงเป็นอีกผลงานอันน่าจดจำของ ฟลอเรนซ์ พิวจ์ ที่ต้องจับตาเธอให้ดี ๆ บนเวทีรางวัลต่าง ๆ ในช่วงต้นปีหน้า...  

ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง The Wonder

  • ประเภท: ดราม่า / ลึกลับ
  • ผู้กำกับ: เซบาสเตียน เลลิโอ
  • นำแสดงโดย: ฟลอเรนซ์ พิวจ์, ทอม เบิร์ก, แคล่า ลอร์ด แคสซิดี้
  • ความยาว: 108 นาที
  • กำหนดฉายในไทย: 16 พฤศจิกายน 2022 (ที่ Netflix)

Movie.TrueID METRIC: The Wonder

  • ภาพรวม
    ⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰ (7/10)
  • การเล่าเรื่อง
    ⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰ (7/10)
  • การแสดง
    ⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰ (8/10)
  • เทคนิคงานสร้าง
    ⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰ (7/10)
  • บทภาพยนตร์
    ⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰ (7/10)

คุณสามารถรับชม Netflix ได้ง่าย ๆ จากกล่อง TrueID TV ตอบโจทย์ความบันเทิงได้ครบ!

-------------------------------------

ดูหนังออนไลน์ได้ที่ >> Movie.TrueID <<

หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับทรูไอดีสามารถเข้าไปได้ที่ TrueID Help Center เป็นช่องทางใหม่ที่ให้ข้อมูลและการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นเกี่ยวกับทรูไอดี คลิกเลย https://bit.ly/3xEgdAa