ไหนเล่าซิ? : อนันดา-ฮัท เล่าเบื้องหลัง ศรีอโยธยา๒ ซีรีส์ที่อยากให้คนไทยดู (มีคลิป)
ข่าวบันเทิงวันนี้
ออนแอร์มาได้ครึ่งทาง สำหรับ ภาพยนตร์ซีรีส์เทิดพระเกียรติองค์บูรพมหากษัตราธิราชเจ้า“ศรีอโยธยา ภาค2” กับเรื่องราวที่ ปลุกกระแสในความรัก ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และ ศิลปวัฒนธรรมไทย ความงามขององค์ประกอบในเรื่องทั้งภาพ และบท ถูกถ่ายทอดมาได้อย่างพิถีพิถัน แถมยังได้เป็นการชุมนุม นักแสดงหลัก มากที่สุดในวงการโทรทัศน์ถึง 16 ชีวิต ซึ่งต่างก็มาประชันบทบาทกันอย่างเข้มข้นที่สุดในชีวิตการแสดง เนื่องจากเป็นภาคแห่ง มหาสงครามเสียกรุงฯ พ.ศ.๒๓๑๐ ซึ่งก่อให้เกิด โศกนาฏกรรม ครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ชนชาติไทย ซึ่ง นักแสดง ทุกคนล้วนแล้วแต่เป็น นักแสดงมากฝีมือ ในวงการภาพยนตร์และโทรทัศน์ วันนี้ทีมงาน TrueID มีโอกาสได้พบกับ 2 นักแสดงนำ อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม และ ฮัท จิรวิชญ์ พงษ์ไพจิตร พวกเขาจะมาบอกเรื่องราวึความยิ่งใหญ่อลังการ ของ ศรีอโยธยา๒ ซีรีส์ที่อยากให้คนไทยดู
แนะนำตัวเอง?
อนันดา : ในเรื่องศรีอโยธยา ผมรับบทสองบทบาทนะครับ เป็นดอกเตอร์พิมาน เป็นอาจารย์สอน ประวัติศาสตร์ ในพาร์ทอดีตเป็น พระพิมานสถานมงคล ทหารมหาดเล็ก เจ้าฟ้าสุทัศน์
ฮัท : รับบทเป็นหลายตัวละครครับ ตัวละครปัจจุบันชื่อ วายุครับ ตัวละครในอดีตเป็น เจ้าฟ้าสุทัศขัติยราชกุมาร เป็นพระราชกุมารในสมเด็จพระเจ้าเอกทัศน์
ภาคสองต่อจากภาคแรกยังไง?
อนันดา : ก็มันเป็นเรื่องต่อเนื่องอยู่แล้ว พาร์ทแรกจะหนักไปด้านตัวละคร เพราะตัวละครเยอะมาก
ฮัท : ถ้าพูดถึงเรื่องความรัก โศกนาฏกรรม ต้องพูดถึงเรื่องอดีต ทั้งภาคแรกและภาคสอง ในช่วงของสมเด็จพระเจ้า
อยู่หัวบรมโกษพี่ โดม กรณ์ ลัม เล่นเป็นเจ้าฟ้าธรรมธิเบศไชยเชษฐ์สุริยวงศ์ ส่วนพี่ นุ่น วรนุช เล่นเป็นเจ้าฟ้าสังวาล ซึ่งเป็นโศกนาฏกรรม ความรักจริงๆ ในประวัติศาสตร์ หม่อมได้นำตรงนี้มาให้คนดูได้ชมกันด้วย เป็นตอนที่สะเทือนใจมากๆ เป็นพระองค์จริง เรื่องจริงอิงประวัติศาสตร์ด้วย ฮัทได้ร่วมแสดงกับพี่โดมด้วย เป็นซีนสำคัญมากๆ เป็นซีนสงคราม ศึกนอกศึกภายใน
ภาคนี้เสนอเรื่องความรักชัดเจน?
อนันดา : มันจะมีกลุ่มของผม กับเจ้าฟ้าสุทัศ กับบุษบา เรื่องราวรักสามเส้า จะดีลยังไงกับความรัก ในช่วงเวลาสงครามและกลุ่มทางในวังเจ้าฟ้าเอกทัศน์ อันนั้นเป็นเรื่องของการเมือง
เกร็งมั้ยกับบทที่ได้รับ?
อนันดา : ตอนแรกยอมรับเลยว่าเรากังวลในเรื่องของภาษา ด้วยคาแรคเตอร์ที่ห่างจากตัวเอง เราถึงขั้นไปปรึกษากับหม่อม เพราะในเรื่องต้องเป็นเด็กพม่าที่ถูกเก็บมาเลี้ยง แต่หลังจากละครออน เราไม่เคยได้รับแมสเสจนั้นเลยว่าเด็กพม่าที่ไหน เพราะพอยท์มันไม่ได้อยู่ที่ตรงนั้น มันอยู่ที่เนื้อเรื่อง ไม่ได้อยู่ที่ตัวผมเอง หน้าที่ของผมในฐานะนักแสดงคือต้องถ่ายทอดความเป็นพระพิมานออกมา เริ่มจากแค่เอาความเป็นตัวเองออก คุยกับหม่อมก็บอกว่ามันไม่ได้มีเทคนิคพิเศษอะไร ขยันซ้อมบ่อยๆ ไม่ได้มีเมจิควิเศษอะไร นอกจากตั้งใจซ้อมมากๆ ซ้อมจนชิน จนคำพูดเข้าปาก ตัวละครอยู่ในตัวเรา
ภาคสอง ภาษาคล่องขึ้น?
อนันดา : คือตอนแรกเราคิดว่ามันจะมีเทคนิคพิเศษ แต่ไม่มีอะไรหรอก สุดท้ายก็ท่องราชาศัพท์ตามละคร
ฮัท : คะ ขา ก็จะพูดกับผู้หญิง กับข้าราชสำนักฝ่ายใน ส่วนคำราชาศัพท์พูดกับพระราชบิดา พระราชมารดา ตอนนี้ก็พูด
จนชินแล้ว เราทำการบ้าน เรียน ฝึกพูด ตอนแรกก็กังวลอยู่ จะพูดได้มั้ย ติดขัดมั้ย พอฝึกซ้อมก็พูดได้อย่างเป็นธรรมชาติ
ทำงานกับหม่อมยากมั้ย?
อนันดา : คือถ้าไปคิดให้มันยากมันก็ยาก มันไม่ใช่โฟกัส ความกังวลเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา แต่ความกังวล จะหายไปเมื่อเราซ้อม ก็ไม่คิดถึงความยาก ภาษาที่ออกจากปากก็คือภาษาที่ตัวละครพูด เลยไม่คิดว่า บทไหนยากกว่าบทไหน
ซีนไหนยากบ้าง?
อนันดา : ในมุมของผม พวกการเตรียมตัว โปรดักชั่น เป็นช่วงที่ยากที่สุด ถ้าอยู่หน้าเซ็ตสิ่งที่ยากเป็นเรื่อง อากาศที่ร้อน ชุดที่ไม่ค่อยเหมาะสมกับอากาศ เป็นเรื่องสภาพแวดล้อมมากกว่า องค์ประกอบในซีรีส์ มันประณีตมาก ทุกส่วนผมรู้สึกว่ามันไม่ใช่เรื่องง่าย มีกระทั่งวงออเครสตร้าเอามาเล่นสดในส่วนของโพสต์โปรดักชั่น
ฮัท : จริงๆ มันก็ยากหมด แต่ในเรื่องของภาพที่ออกมาปราณีต ภาพสวยมากๆ หม่อมถ่ายหลายคัดครับ ทั้งภาพแคบภาพกว้าง
ใช้เวลานานมากครับ แต่ละซีนกว่าจะเสร็จ
พัฒนาการของพระพิมาน?
อนันดา : จากที่เค้าเป็นแค่ตัวละครที่เต็มไปด้วยสิ่งบวกๆ ในมุมของผม พระพิมานในพาร์ทอดีตเหมือนผ้าขาว แต่พอมาถึงภาคสอง ตัวละครจะเริ่มสันสบมากขึ้น มีบุษบา มีเรื่องของรักสามเส้าเข้ามา รวมถึงเรื่องการเมือง ที่ลามมาถึงคุณพระเอง เรื่องราวพวกนี้จะเข้ามาเกี่ยวข้องกับวัฎจักรของชีวิตคุณพระ อย่างในพาร์ทแรก คุณพระเป็นผู้ชายอินโนเซนต์คนหนึ่งที่เชื่อและศรัทธาในพระมหากษัตริย์ ชีวิตของเรามันชัดเจน ง่ายก็เท่านั้น พออาร์ทนี้ด้วยสงครามในใจ สงครามที่เราเจอ ตัวละครมีความสับสัน จะมีคำถามเรื่องประเพณี เหมือนกันว่าถึงขั้นจะแหกกฎ
ฉากเลิฟซีนล่ะ?
อนันดา : นี่เป็นหนังเรื่องแรกที่เลิฟซีนเบาสุด (หัวเราะ) แต่ยากมาก ความรู้สึก สายตาที่เรามีให้กัน แค่แตะมือ คือโคตรว้าวแล้ว สุดๆ ถึงตัวกันก็โดนมือเค้า จูมพิตสไบ ประมาณนี้ครับ แต่มันจะเป็นการแสดงอีกชนิดหนึ่ง พอเรามีกรอบของประเพณี มันกลายเป็นว่าทุกลมหายใจทุกสัมผัสมันมีคุณค่า เค้ามองเราๆ ก็คิดว่าได้แค่นี้ จริงๆ ใช่มั้ย
ฮัท : จะไม่เหมือนคนปัจจุบัน ไม่ได้มีเครื่องมือสื่อสารใดๆ ในบทเป็นเพลงยาว แต่พระองค์ท่านไม่มีความรู้ด้านเพลงยาวเท่าไหร่ เลยให้พิมานเขียนส่งให้คนที่เรารักนั่นคือบุษบา ซึ่งผิดพระราชประเพณี เพราะเพลงยาวถูกห้ามเขียนตั้งแต่สมเด็จเจ้าฟ้าธรรมาธิเบศ เจ้าฟ้าสังวาล แต่มันมีความโรแมนติกในสมัยก่อน ความรักบอกผ่านเพลงยาว จดหมาย สายตา ไม่ใช่แค่รักผู้หญิงคนเดียว รักพ่อแม่ ประชาชน มหาดเล็ก เป้าหมายของท่านคือต้องการมอบความรักให้คนทุกคน เพระาประชาชนก็ครึ่งหนึ่งของประเทศแล้ว
บรรยากาศในกองถ่าย?
อนันดา : เป็นเรื่องแรกที่ผมไม่ค่อยเล่นในกอง เรารู้สึกว่าอยากถ่ายทอดตัวละครตัวนี้ให้ได้มาตรฐานที่ เราวางไว้เอง อีกอย่างเป็นเรื่องของประวัติศาสตร์ เป็นเรื่องของความศรัทธา เราต้องมีสติ เป็นเรื่องแรกที่ จะไหว้ขอขมาก่อนทุกเทคที่ถ่าย
ฮัท : ยิ่งมีตัวละครจริง ยิ่งต้องเคารพท่าน เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หม่อมบอกเสมอว่าการแสดงเป็นเรื่องศักดิ์สิทธิ์และยิ่งเป็น
พระองค์จริงด้วย เราต้องไหว้ท่าน ทีมบวงสรวง และทุกๆ ครั้งที่เล่น ทุกคัททุกซีน การที่เราจะแสดงสวมบทบาทเป็นพระองค์ท่าน ต้องไหว้ขอขมา หม่อมกำชับอยู่เสมอ
ถ้าไม่ได้ดูภาคแรก ภาคสองจะดูรู้เรื่องมั้ย?
อนันดา : พูดกันตรงๆ เรารู้อยู่แล้วว่าเรื่องราวเป็นแบบไหน คนที่จะเข้ามาดู รู้สึกว่าไม่ได้จำเป็นต้องดูภาคแรก มันเป็นโอกาสที่คนดูได้เห็นชีวิตของคนที่กำลังเผชิญกับสิ่งที่รู้อยู่แล้วว่าจะเจออะไรบ้าง อะไรจะเกิดขึ้นตอน ท้ายสงคราม
อุปสรรคในกองถ่าย?
ฮัท : ต้องสู้กับดินห้าอากาศเรื่องหนึ่งล่ะ ถ้าฝนตกลมแรง สิ่งต่างๆ ไม่เอื้ออำนวย ร้อนจัดอีกเพราะสมัยก่อนต้องใส่เสื้อผ้าเยอะมากๆ ต้องอดทน บางทีใส่มงกุฏหนักมาก แต่ฝึกให้เราอดทน เหมือนเราแบกรับประชาชนแผ่นดินไว้ หม่อมให้ตีความอย่างนั้น
เอาความรู้สึกลบเปลี่ยนเป็นบวก
ซีรีส์เรื่องนี้เข้าชิงรางวัลมากมาย?
อนันดา : ในมุมส่วนตัวไม่ได้ทำงานเพื่อรางวัล แต่การที่ได้รางวัลก็รู้สึกดี คนเห็นความตั้งใจของเรา เราภูมิใจไม่ใช่เฉพาะรางวัล แต่ภูมิใจกับทุกคน อย่างพี่นก สินจัย ตื้นตันใจ ไม่ได้เป็นจุดประสงค์ในการทำงาน เป็นสิ่งที่เราปลื้ม รางวัลที่ผมไปรับมา ก็ภาคภูมิใจแหละ เป็นรางวัลที่คัดมาแล้ว ไม่มีที่ 1 2 3 รู้สึกว่าเราอยู่ในบริษัทคนเบื้องหลัง ที่ดี
ฮัท : ประทับใจมากๆ ที่ซีรีส์ศรีอโยธยาสู่สากล ได้ถูกเสนอชื่อรางวัลต่างประเทศมากมาย ที่ฮัทได้ไปที่มาเลเซีย เป็นรางวัลเอเชี่ยนเทเลวิชชั่นอวอร์ด พี่นก สินจัย ได้นักแสดงสมทบยอดเยี่ยม ฮัทได้ไปก็เปิดประสบการณ์ใหม่ อย่างล่าสุดก็ได้ที่นิวยอร์ค ได้รับรางวัลคาเมร่าเวิร์ค ดีใจมากๆ ครับ อยากให้เป็นรางวัลของทีมงานทุกคน ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
ความคาดหวัง?
อนันดา : พูดตรงๆ ผมไม่ได้คาดหวังอะไรอยู่แล้ว ทำด้วยเจตนาถ่ายทอดตัวละครนั้นออกมาอย่างละเอียดที่สุด ผมว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือทำให้คนเห็นรากเหง้าความเป็นมาของไทยเรา ตรงนี้ผมรู้สึกว่าอาจจะเป็นสิ่งที่เราคาดหวัง ซะด้วยซ้ำไป
ชวนคนดู?
ฮัท : สำหรับศรีอโยธยา ภาคสอง ถาคนดูภาคแรกคนถามมามากมาย ตอนนี้ภาคสองได้ผลตอบรับดีมากๆ บอกเลยว่าทุกฝ่ายในเรื่องทุ่มเทสุดชีวิต ในการสร้างสรรค์ซีรีส์คู่ประวัติศาสตร์ชาติไทย ไม่ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน ก็ย้อนกลับมาดูได้ ใครสนใจประวัติศาสตร์ดูได้เลยครับ ได้ทั้งความรู้ประวัติศาสตร์ บันเทิง ความรัก เหมือนเป็นครู ไม่ว่าจะเป็นภาพ คอสตูม แอ็คติ้ง ทำการบ้านกันมาค่อนข้างหนัก บอกเลยว่าพลาดไม่ได้จริงๆ ครับ อยากให้คนไทยทุกคนได้ดู ซีรีส์ศรีอโยธยาครับ
ติดตามชม ซีรีส์ ศรีอโยธยา๒ ได้ทุกจันทร์-อังคาร เวลา 20.30 น. ช่อง true4u(ช่อง24) และ true id (แอพทรูไอดี) และ true asian series hd (ช่อง 120 และ 237) เวลา เวลา 22.15 น.
อ่านข่าวอื่นๆ :
>ผู้พันเบิร์ด-แอฟ สวมดวงพระวิญญาณ พระเจ้าตากสิน และ กรมหลวงบาทบริจา ใน ศรีอโยธยา2
>สินจัย นำทีมดาราสุดยอดฝีมือ เข้าฉากศักดิ์สิทธิ์ ใน ศรีอโยธยา
>ศรีอโยธยา ภาค 2 ถ่ายทำฉากใหญ่ สมโภชพระพุทธบาท นุ่น-โดม ถ่ายทอดโศกนาฏกรรมรัก