มินิซีรีส์ฟอร์มยักษ์จากอินเดีย ที่ถ้าอินเดียไม่ทำ ก็คงไม่มีชาติไหน ทำให้ได้ดูอีกแล้วล่ะ เพราะหนังได้ตีแผ่อีกพาร์ทของสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่น้อยคนอาจจะรู้ เป็นเหมือนเรื่องราวกองทัพที่ถูกลืมเหมือนชื่อซีรีส์เลยซีรีส์จะเล่าเรื่องราวของกลุ่มทหารอินเดีย ที่ไปรบอยู่ในสิงคโปร์ เพื่อช่วยอังกฤษ เพราะด้วยความที่เป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ จนกระทั่งญี่ปุ่นได้ยกทัพมาเอาชนะอังกฤษได้ โดยญี่ปุ่น ก็ได้ประกาศให้กองทัพอินเดียกลายเป็นกองทัพอิสระ และมีเป้าหมายคือเดินทางจากสิงคโปร์ ไปยังเดลี ประเทศอินเดีย เพื่อกอบกู้เอกราชของอินเดียกลับมาอีกครั้งโดยซีรีส์จะเล่าเรื่องราวแบ่งออกเป็นสองช่วงเวลาด้วยกัน คือช่วงเวลาในสงครามโลกครั้งที่ 2 และช่วงเวลาปัจจุบัน คือปี 1996 ในเรื่อง โดยหนังจะมาในธีม รำลึกความหลังของตัวละคร ที่ถูกถ่ายทอดผ่านความสัมพันธ์ของปู่กับหลาน ซึ่งตัวคุณปู่นั้น เคยเป็นหนึ่งในหัวหน้าหน่วยรบอินเดียอิสระ และได้เล่าเรื่องราวของตัวเองให้กับหลานฟัง พร้อมทั้งต้องเดินทางกับมายัง พม่า (ที่ตอนนั้นกำลังอยู่ในช่วงปฏิวัติ) ที่ที่กองทัพอินเดียต้องพบกับความสูญเสีย และความทรงจำมากมาย ที่ถูกหลงลืมในหน้าประวัติศาสตร์สงครามโลกครั้งที่ 2หลังจากที่เราได้เห็นทหารอังกฤษ กลายเป็นเหยื่อ และฮีโร่ในหนังสงครามหลาย ๆ เรื่อง ในเรื่องนี้เราจะได้เห็น อังกฤษ กลายเป็นตัวร้ายกันบ้าง โดยซีรีส์นำเสนออีกมุมมองของประวัติศาสตร์ออกมาได้ชวนติดตาม และเต็มไปด้วยความฮึกเหิม เพราะในขณะที่ประเทศอื่น รบกับเยอรมัน เพื่อเอาชนะฝ่ายนาซี แต่ อินเดีย กลับต้องรบเพื่อเรียกร้องเอกราชที่หายไปของตัวเอง ซึ่งซีรีส์ก็สามารถถ่ายทอดอารมณ์ ความรู้สึก ที่ต้องดิ้นรนต่าง ๆ นานา ของชาวอินเดียในยุคนั้นออกมาได้อย่างน่าเห็นใจ โดยเฉพาะการที่ซีรีส์ได้สอดแทรกฟุตเทจจริง ๆ ในประวัติศาสตร์เข้ามาด้วยแล้ว ยิ่งตอกย้ำให้เราได้เห็นอีกหนึ่งประวัติศาสตร์ที่ทรงพลัง และชวนหดหู่มากยิ่งขึ้นแน่นอนว่าด้วยความที่เป็นซีรีส์แนวสงคราม ประเด็นของซีรีส์เรื่องนี้ก็ค่อนข้างเปี่ยมไปด้วยความเป็นชาตินิยมไม่ต่างจากซีรีส์สงครามของแต่ละประเทศ ที่ต้องการสร้างภาพลักษณ์ให้ตัวเอกเป็นพระเอก แต่สำหรับใน The Forgotten Army หนังไม่ได้นำเสนอแค่ในมุมมองของความรักชาติเท่านั้น แต่หนังยังได้นำเสนอสถานะของชาวอินเดีย ที่ในตอนนั้นต้องรบให้กับประเทศอื่น และไร้ซึ่งอิสรภาพ ในขณะเดียวกันพาร์ทหนังที่ว่าด้วยเหตุการณ์ปัจจุบัน ที่พูดถึงการปฏิวัติในประเทศพม่าก็เป็นอีกสิ่งที่สะท้อนให้เราได้เห็นว่า สิ่งที่ซีรีส์ต้องการนำเสนอนั้นไม่ใช่แค่คำว่ารักชาติ แต่ยังเป็นการพูดถึงพลังของคนกลุ่มเล็ก ๆ ที่อาจสามารถสร้างพลังที่ยิ่งใหญ่ให้กับคนในรุ่นต่อ ๆ ไปได้ในด้านงานโปรดักชั่นซีรีส์เรื่องนี้ ถือว่าเปี่ยมคุณภาพ และยิ่งใหญ่มาก ซึ่งอย่างที่หลาย ๆ คนคงพอทราบกันดีว่าอินเดีย ได้มีอุตสาหกรรมภาพยนตร์อย่าง บอลีวูด ที่ทุกวันนี้ยิ่งใหญ่ไม่แพ้ฮอลีวูด และซีรีส์เรื่องนี้ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งข้อพิสูจน์ เพราะซีรีส์สามารถนำเสนอฉากสงครามออกมาได้อย่างเข้มข้น สมจริง แม้ว่าในบางช่วงที่เป็นฉากเครื่องบิน ภาพอาจจะลอยบ้าง แต่ในด้านฉากการรบบนพื้นดิน ซีรีส์ถือว่าทำออกมาได้ยิ่งใหญ่สมกับคำว่าเป็นหนังสงคราม ไม่แพ้กับซีรีส์สงครามฟอร์มยักษ์อย่าง Band of Brothers ของ HBO เลยก็ว่าได้ซีรีส์มีความยาวทั้งสิ้น 5 Ep. เฉลี่ยความยาวตอนละ 30-40 นาที แนะนำว่าหากดูรวดเดียวจบ จะทำให้ได้อรรถรส และความต่อเนื่องมากกว่า ใครที่ชื่นชอบซีรีส์สงคราม งานโปรดักชั่นคุณภาพ ซีรีส์เรื่องนี้ถือว่าเป็นอีกเรื่องที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง Cr. ภาพ https://www.primevideo.com/detail/0J3SVG42BKTLUZEMNYV9S03WOJ/ref=atv_dp_share_cu_r