Special Short Comment : Twenty Five Twenty One (2022)นาฮีโด - โกยูริม เกียรติแห่งคู่แข่งที่รักอาการหนึ่งของดูไปบ่นไปเมื่อได้ดูซีรีส์เยี่ยมๆจบมักจะเป็นเช่นนี้ อาการของการมีอะไรอยู่ในสมองมากมายที่เป็นหลายแง่มุม จนบางครั้งแม้บทความของผู้เขียนเองจะยาวแต่ยังไม่สามารถใส่ความคิดที่ติดอยู่ในสมองลงไปได้ จึงต้องมีงานภาคแยกออกมาและท่านผู้อ่านหลายท่านอาจเคยเจอมาแล้ว ซึ่งหลังจากการดูซีรีส์ที่เรียกว่าท็อปฟอร์มอีกครั้งของเกาหลี กับแง่มุมที่คมคายที่สัมผัสได้ตลอดระยะเวลาสิบหกตอนที่ยาวนาน และสามารถสร้างความประทับใจในเรื่อราวที่ถูกเล่าออกมาในเรื่องย่อยๆ ซึ่งความจริงผู้เขียนเองก็มีมุมมองของความประทับใจในงานเขียนบทของเรื่องนี้ที่กล้าๆจบบริบูรณ์แบบที่เห็น แต่กระนั้นมันก็ยังเป็นตอนจบที่เป็นมนุษย์ ที่ถ้ามองด้วยความเข้าใจชีวิตจะเห็นว่ายอดเยี่ยมและสวยงามแต่กับแง่มุมเรื่องความรักที่ความจริงผู้เขียนก็ประทับใจนะ แต่ก็อาจมีนักเขียนหลายท่านวิเคราะห์ในแง่มุมความรักให้ได้อ่านกันมากมายแล้ว ผู้เขียนจึงขอหยิบยกความประทับใจกับเรื่องราวของสองนักกีฬาระดับท็อปที่มีมิติในความรักกีฬาต่างกัน แต่เป้าหมายคืออยู่บนจุดสูงสุดเหมือนกัน และเมื่อที่หนึ่งมีเพยงที่เดียวบนโพเดียมการต้องหักหาญกันในสนามแข่งจึงเลี่ยงไม่ได้ แม้ว่านอกสนามจะรักกันขนาดไหนก็ตาม นั่นคือเรื่องราวมิตรภาพระหว่างนาฮีโดและโกยูริมสองนักกีฬาฟันดาบที่อาจเก่งพอกันแต่จุดตัดสินมันอาจอยู่ที่มิติในความรักอย่างที่ว่า และมิตินี้จับใจผู้เขียนที่เป็นคนชอบดูกีฬาอย่างยิ่ง เพียงแต่ไม่คิดว่าจะเขียนบทมาเป็นกีฬาฟันดาบที่อาจไม่ใช่กีฬายอดนิยม ซึ่งก็คือวามกล้านาฮีโดคือหนูน้อยนักฟันดาบที่เก่งกาจตั้งแต่เด็ก นาฮีโดได้รับการสนับสนุนจากครอบครัวที่ค่อนข้างมีฐานะ พื้นฐานในการเล่นกีฬาจึงมาจากพรสวรรค์และแรงบันดาลใจจากครอบครัวที่เจาะจงลงไปคือพ่อ แต่เมื่อพ่อจากไปแล้วทิ้งช่องว่างระหว่างแม่กับนาฮีโดไว้ ระยะห่างระหว่างความรักของแม่และนาฮีโดก็คือสิ่งที่เกาะกินแรงบันดาลใจและหยุดพรสวรรค์นั้นไว้จนกลายเป็นนาฮีโดหยุดอยู่กับที่ เพียงแต่เมื่อยุคสมัยแห่งความยากลำบากก้าวเข้ามาพรากสิ่งที่รักนั่นคือการเล่นกีฬาฟันดาบ นาฮีโดจึงรู้สึกเหมือกำลังจะถูกยุคสมัยขโมยสิ่งที่พ่อทิ้งไว้เพียงอย่างเดียวที่เหลือไปการต่อสู้เพื่อแย่งมันกลับมาคือสิ่งที่ต้องทำ และโชคดีที่แม้จะห่างแต่ความรักยังมีและแน่นอนโค้ชที่มองเห็นบางอย่างในตัวเธอโกยูริมคือนักกีฬาพรสวรรค์เช่นกันเพียงแต่ฐานะทางบ้านไม่มั่นคง และยุคสมัยได้ขโมยโอกาสไปเพราะการล้มละลายของผู้สนับสนุนคือครอบครัวของแพ็คอีจิน การเล่นกีฬาฟันดาบของโกยูริมเริ่มจากแรงบันดาลในที่จะเอาชนะหนูน้อยนักฟันดาบที่เธอเคยแพ้คือนาฮีโด ความที่ครอบครัวฐานะไม่ดีการเล่นกีฬาจนติดทีมชาติคว้าเหรียญทองคือการค้ำจุนครอบครัวและอีกทางคือการค้ำจุนความรู้สึก แต่เป้าหมายกลับไม่มาตามนัดซ้ำเมื่อเจอกันอีกครั้งยังกลายมาเป็นตัวป่วนโนเนมที่มองตัวเองเป็นแรงบันดาลใจ แต่ความรู้สึกข้างในก็เต็มไปด้วยความกลัว เพราะโกยูริมอยู่ในฐานะที่จะเสียอะไรไม่ได้และการที่เธอเคยแพ้มาความกลัวก็คือต้องเสียทุดสิ่งไปเพราะนาฮีโด การเริ่มต้นของทั้งคู่จึงกลายเป็นแรงบันดาลใจด้านลบต่อกันและกันแต่เมื่อความจริงปรากฎว่ากำลังใจที่ต่างเคยได้รับคือมาจากกันและกัน เพราะอาจมีเพียงอัจฉริยะเหมือนกันเท่านั้นที่จะเข้าใจกัน จากความไม่ชอบและการปะทะจึงกลายมาเป็นแรงบันดาลใจเชิงบวกให้กัน แล้วก็พิสูจน์ว่าการกระตุ้นด้วยพลังเชิงลบหรือ Negative Motivation ไม่ใช่คำตอบ เพราะสองนักกีฬาฟันดาบระดับสูงทั้งสองคนได้ด้วยกันพยุงกันไปสู่จุดสูงสุดด้วยการกระตุ้นเชิงบวกด้วยมิตรภาพและความรักความเข้าใจ แต่กีฬาประเภทเดี่ยวก็ต้องมีที่หนึ่งเพียงหนึ่งเดียวในทุกการแข่งขัน เส้นทางของสองเพื่อนรักจึงต้องมาฟาดฟันกันเพื่อความเป็นหนึ่ง และอาจเพราะโชคชะตาที่ทำให้โกยูริมต้องถูกตราหน้าว่าขายชาติและเป็นเป้าความรังเกียจ แรงกดดันทั้งหมดของคนในชาติจึงตกมาอยู่ที่นาฮีโดที่ต้องเอาชนะเพื่อนที่รัก แต่แล้ว...ทั้งสองเพื่อนรักที่จำต้องทิ้งระยะห่างก่อนเผชิญหน้ากันด้วยสปิริตและความเป็นมืออาชีพ สุดท้ายผลการแข่งขันจะออกมาเช่นไรความเจ็บปวดความเก็บกดทุกอย่างก็ถูกระเบิดมันเมื่อทั้งสองถอดหน้ากากออกแล้วร่ำไห้กอดกัน ถึงเวลานี้มันคือการทุบทำลายสิ่งที่คนทั้งสองต้องแบกรับเพราะแรงกดดันที่มีแม้จะต่างกันแต่ก็หนักเหมือนกัน แล้วไม่ว่าใครจะรังเกียจโกยูริมยังไงแต่นาฮีโดยังยึดเอาโกยูริมเป็นแรงบันดาลใจเสมอมาและโกยูริมก็ไม่ต่างกัน แต่เมื่อขึ้นเวทีประลองคนที่อยู่เบื้องหน้าก็คือคู่แข่งและต้องใส่สุดฝีมือเพื่อเอาชนะ เพราะสิ่งที่เป็นในคนทั้งสองคือการให้เกียรติซึ่งกันและในฐานะนักกีฬา ต่อให้คนที่อยู่ตรงหน้าจะเป็นที่รักขนาดไหนบนเวทีก็ต้องใส่เต็มที่ เพราะการอ่อนข้อเพียงเศษเสี้ยวอาจเป็นการหมิ่นความรักและมิตรภาพที่มีให้กันเสมอมา แม้จุดเริ่มต้นและแรงบันดาลใจในการเล่นกีฬาฟันดาบอาจมีทั้งจุดร่วมและจุดต่าง แต่สิ่งที่ยึดคนทั้งสองไส้คือกำลังใจที่เมื่ออายุมากข้นประสบการณ์การแข่งขันเพิ่มขึ้นพร้อมสายตาในการมองโลก อาจไม่ต้องเอ่ยถ้อยคำแค่มองตาก็รู้ว่าอีกฝ่ายคิดเช่นไร และสิ่งมหัศจรรย์ของมิตรภาพที่ก่อตัวแนบแน่นจากความขัดแย้งก็คือการสัมผัสมันได้ด้วยใจ เพราะต่างฝ่ายต่างรู้ว่าการที่มาอยู่บนจุดสูงสุดของการเล่นกีฬาของทั้งสองมาจากกันและกัน ความรักในกีฬาฟันดาบได้ถูกเติมเต็ม นาฮีโดได้สัมผัสมิติการทำเพื่อครอบครัวของโกยูริม ในขณะที่โกยูริมก็ได้สัมผัสการสนุกกับกีฬาฟันดาบของนาฮีโด เพียงแต่เส้นทางที่มีผู้ชนะเพียงหนึ่งเดียวก็คือวิถีของกีฬาที่สองเพื่อนรักได้เรียนรู้ ได้เติบโต ได้เข้าใจว่าชีวิตก็เป็นเช่นนี้ กีฬาก็มักเป็นเช่นนี้ แม้จะรักกันมากขนาดไหนสุดท้ายก็ยังต้องเป็นคู่แข่ง และคู่แข่งที่ตึงมือที่สุดก็คือกันและกัน การปลดปล่อยทุกสิ่งในฐานะคู่แข่งที่รักผ่านการให้เกียรติซึ่งกันและกันในการแข่งขัน การให้เกียรติกันในวันเกษียณจากชีวิตนักกีฬาจึงเป็นสิ่งที่งดงาม เพราะแม้จะเป็นคู่แข่งที่แข่งกันทั้งฝีมือและบารมี การคงอยู่ของคนหนึ่งอาจเป็นสิ่งที่ขวางชัยชนะของอีกคนหนึ่งที่อาจต้องผลัดกันแพ้ชนะ แต่เมื่อคนหนึ่งเกษียณไปก่อนจอมยุทธที่ไร้คู่ต่อกรจึงเป็นความเปลี่ยวดายและหมดความท้าทายที่เคยมีให้กันเสมอมา การจับมือกันในวันสุดท้ายของการเป็นนักกีฬาของนาฮีโดจึงกลายเป็นสิ่งที่น่าจดจำสำหรับ "เกียรติแห่งคู่แข่งที่รัก" เป็นเกียรติที่ได้ร่วมรู้สึกไปกับทั้งสองคนโดยดูไปบ่นไปขอบคุณภาพประกอบภาพปก / ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 / ภาพที่ 5 จาก Facebook tvN dramaเกาะติดซีรีส์เรื่องใหม่ ๆ ได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !