สวัสดีค่ะ วันนี้จะมารีวิว "บางกอกคณิกา" ซีรีส์ไทยแนวพีเรียด-ดรามา ที่ว่าด้วยเรื่องของ 3 สาวโสเภณี ในสมัยร.5 ก่อนยกเลิกทาส ที่ต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมายเพื่อพาตัวเองเป็นอิสระ ได้ใช้ชีวิตแบบที่ใจต้องการซีรีส์เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องแรก จากทั้งหมด 5 เรื่อง ที่ทางช่อง one31 ผลิตขึ้นเป็นพิเศษสำหรับฉายในแอปพลิเคชัน oneD ซึ่งภาพรวมจะเป็นอย่างไร น่าสนใจมากน้อยแค่ไหน ไปติดตามรีวิวจาก "อู๊ดสีชมพู" กันค่ะ ชื่อเรื่อง : บางกอกคณิกา (Bangkok Blossom)กำกับการแสดงโดย สันต์ ศรีแก้วหล่อ บทประพันธ์และบทโทรทัศน์โดย พิมพ์มาดา พัฒนอลงกรณ์ และ มิกิ ยามาโตริผลิตโดย เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ควบคุมการผลิตโดยผู้จัด บอย-ถกลเกียรติ วีรวรรณ และ ป้อน-นิพนธ์ ผิวเณรออกอากาศทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.30 น. ทางช่องวัน 31(ฉบับตัดเนื้อหาให้เหมาะสำหรับการออกอากาศทางฟรีทีวี)และออกอากาศแบบคู่ขนานที่แอปพลิเคชัน oneD (ฉบับเต็มไม่ตัดเนื้อหา)จำนวน 8 ตอนจบ เรื่องย่อhttps://youtu.be/_OnDrlGO1D8?si=F-4_t_BSkxd0mitKณ ย่านสำเพ็ง เมื่อปีพ.ศ. 2435 ตรงกับสมัยรัชกาลที่ 5 เป็นช่วงเวลา 13 ปีก่อนสยามยกเลิกทาส ณ หอบุปผชาติ สถานเริงรมย์ที่มีหญิงสาวทำอาชีพโสเภณี คอยบริการบรรดาผู้มีอันจะกิน ที่เข้ามาหาความสำราญ โดยหอแห่งนี้มี"แม่นายราตรี" ควบคุมเป็นหัวเรือใหญ่ สำหรับที่นี่ตัวตึงดาวเด่นฟีลเบอร์ตองก็คือ "กุหลาบ" อีกคนที่ตีคู่กันมาคือ "โบตั๋น" และอีกหนึ่งสาวคือ "เทียนหยด" ที่ทางแม่ราตรีรออีก 3 เดือนจะอายุครบ 18 ปี เธอจะนำมาประมูลเปิดพรหมจรรย์ ซึ่งทั้งสามสาวเป็นเด็กที่แม่ราตรีชุบเลี้ยงมาตั้งแต่เล็กทันทีที่สามสาวรู้ ทุกคนพยายามคัดค้านแต่ไม่เป็นผล ทั้งสาวจึงร่วมมือกันเพื่อหาทางทำเงินเก็บเป็นค่าไถ่ตัวเองแต่หนทางไม่ง่ายขนาดนั้นเพราะแม่ราตรีเพิ่มเงินค่าไถ่ซึ่งเป็นจำนวนที่สูงมาก แต่ก็ยังมีอีกหนึ่งมือเข้ามาช่วยคือ "พระยาจรัล" ขุนนางอาวุโสที่เป็นแขกประจำของกุหลาบ เขาพาทั้งสามสาวไปดูหอนางโลมของพวกฝรั่ง ที่เข้ามาตีตลาดแย่งชิงลูกค้าไป ทั้งสามสาวได้เห็นการแสดงสุดตระการตา จึงแอบครูพักลักจำมา แต่ก็ยังไม่ค่อยลงตัว เพราะเป็นศาสตร์ใหม่ จึงไปขอความช่วยเหลือจาก "ราอัล" เพื่อนชายที่จิตใจเป็นหญิง ให้มาสอนเต้น เพราะเขาพึ่งตามนายกลับมาจากทำงานที่ต่างประเทศหลังเปิดโชว์ครั้งแรก ก็ทำเงินได้เป็นกอบเป็นกำ แต่ผ่านมาได้ไม่กี่วันเงินจำนวนนั้นหายไปทั้งหมดแบบเป็นปริศนา เพราะมีมือมืดที่มองไม่เห็นคอยแตะขัดขา โดยความต้องการของมันคือจองจำทั้งสามสาวให้เป็นโสเภณีไปจนตาย สุดท้ายแล้วพวกเธอจะปลดแอกสำเร็จไหม ลุ้นเอาใจช่วยได้ในซีรีส์นะคะ นักแสดงอิงฟ้า วราหะ รับบทเป็น "กุหลาบ" โสเภณีเบอร์หนึ่งของหอนางโลมบุปผชาติ เธอมีรูปลักษณ์ที่สวย มีเสน่ห์ ผิวกายและโยนีกลิ่นหอมดั่งกุหลาบหลังทราบข่าวว่าแม่ราตรีกำลังจะเปิดประมูลพรหมจรรย์น้องสาว ในอีก 3 เดือนข้างหน้า กุหลาบแอนด์เดอะแก๊งจึงต้องทำทุกทางเพื่อหาเงินไถ่ตัวเองและพวกออกจากวังวนและอาชีพโสเภณีให้ได้นอกจากความสวยแล้ว กุหลาบยังเล่นดนตรีได้ แต่เป็นเพียงการถูกฝึกไว้เอาใจแขก แต่เมื่อเธอได้ออกมาข้างนอก กุหลาบพบว่าตัวเองมีความสนใจในเครื่องสายอื่น ๆ อีกด้วย นอกจากนี้เธอยังมีความฝันคืออยากไปเที่ยวรอบโลก นี่คือแพชชั่นที่กุหลาบใช้ในการต่อสู้ดิ้นรนสำหรับการแสดงของอิงฟ้า ในเรื่องนี้ถือว่าโอเคค่ะ เวลาดีก็ดีใจหายแต่เวลาลุกขึ้นสู้ก็ไฟท์เตอร์ท่านหนึ่ง อย่าล้อเล่นกับแม่นะ พาร์ทดรามาก็สื่ออารมณ์ได้ดีดูแล้วสงสารเห็นใจ ซีนโรแมนติกก็คือน่ารักมากค่ะฉากที่ชอบส่วนใหญ่สาวคนนี้ชอบสร้างไดอะลอคที่ฟังแล้วจึ้งมาก ที่เราชอบนะคะ ฉากพูด "แม้ว่าข้าจะเป็นกะหรี่งั้นรึ" กับ "ฉากพูดว่าแม่ราตรีที่เคยเคารพตายห่าไปแล้วมั้ง" ก้อย-อรัชพร โภคินภากร รับบทเป็น "โบตั๋น" โสเภณีอีกหนึ่งดาวเด่น สุดแซ่บ แห่งหอนางโลมบุปผชาติ ที่ตีคู่มากับกุหลาบนิสัยของโบตั๋นเป็นตรง ๆ แสดงออกชัดเจน มักเป็นตัวเปิดในหลาย ๆ สถานการณ์ ความฝันของเธอคืออยากเป็นอิสระได้ใช้ชีวิตคู่กับคนรักการแสดงของก้อยยังคม มีมิติ และเฉียบขาด จะอารมณ์ไหนนางก็คือเก็บหมด ที่ชอบเป็นพิเศษคือการเปลี่ยนอารมณ์แบบกะทันหัน ในฉากที่สอบสวนเรื่องเงินถูกขโมยคือทำถึงมากฉากร้องไห้ดรามาในวัดกับชาร์เลทก็คือเสียน้ำตาให้อีกละ ก้อยเป็นคนที่ร้องไห้และเราจะร้องตามเลย เธอมีเทคนิคในการสื่ออารมณ์ ส่วนฉากปะทะก็เดือดสุดตามมาตรฐานและสุดท้ายความยั่วยวนมีเสน่ห์ก็คืออินเนอร์มาเต็มจริตการปรายตา และประโยคที่บอกกับเพื่อนสาวว่าขอแยกตัวจากการดูงิ้วไปไหว้พระจันทร์ก่อนนะ คือเผ็ชมากแม่ รู้เลยนะคะว่าจะไปทำอะไร ชาร์เลท-วาศิตา แฮเมเนา รับบทเป็น "เทียนหยด" น้องสาวคนเล็กของกลุ่ม อายุย่างเข้า 18 ปี เป็นคนเดียวในสามสาวที่ครองพรหมจรรย์อยู่ แต่ระเบิดเวลาจากแม่ราตรีกำลังรบกวนชีวิตวัยสาวของเธอ อีก 3 เดือน เธอจะถูกเปิดซิง เทียนหยดนั้นต้องร่วมมือกับพี่ ๆ ทั้งสอง เพื่อทำยังไงก็ได้ให้มีค่าไถ่ ปลดตัวเองจากความเป็นทาสและโสเภณี เพราะเธอมีความฝันใหญ่อยากเรียนหนังสือ เพื่อจะได้เป็นหมอรักษาคนป่วยการแสดงของน้องยังคงทำให้เราเชื่อได้ค่ะ แม้จะเป็นน้องเล็กสุด แต่เธอก็เป็นคนกล้าเช่นเดียวกับพี่ ๆฉากที่ชอบคือตอนที่สงสัยว่าคนรักของโบตั๋นเป็นหัวขโมย น้องแสดงอินเนอร์ได้เป็นธรรมชาติ ทำให้เราว้าวกับตัวละครนี้ได้ อีกฉากคือเคลียใจกับโบตั๋น (ก้อย) ในวัดคือไม่ต้องฟูมฟายเยอะแต่สัมผัสได้ถึงความเสียใจของเด็กคนหนึ่งที่เคยแสดงออกโดยไม่ทันได้ยั้งคิด ว่าจะทำให้พี่เสียใจแค่ไหน อ้อม-พิยดา จุฑารัตนกุล รับบทเป็น "แม่ราตรี" อดีตโสเภณีรุ่นใหญ่ ที่ตัดสินใจเลิกขายบริการ หันมาเป็นแม่เล้าเปิดหอนางโลมบุปผชาติ ตัวแม่ราตรี มีเขี้ยวเล็บเต็มไปหมด ด้วยความกร้านโลก จึงทำให้เธอดูเป็นคนใจร้ายในสายตาทั้งคนในและคนนอก โดยเฉพาะแก๊งสามสาว เพราะพักหลังแม่ราตรีทำรุนแรงกับพวกเธอทั้งทุบตี ด่าทอ ขึ้นเงินค่าไถ่ รวมทั้งอาจเป็นผู้อยู่เบื้องหลังแผนการอันเลวร้ายโปรเจกต์พิเศษทั้งที อย่างไรเสียคุณบอยก็ต้องดึงนางเอกตัวแม่ในตำนานของเอ็กแซ็กท์ ที่เคยสร้างผลงานปัง ๆ ไว้มากมาย มารับบทเด่นนี้ และหวยได้มาออกที่พี่อ้อม นางเอกสาวร่างเล็ก แต่เปี่ยมล้นด้วยพลังและเสน่ห์ทางการแสดงเรื่องนี้พี่อ้อมได้แสดงมิติอารมณ์ที่หลากหลาย เวลาร้ายก็ร้ายถึงใจ ถึงอารมณ์ ร้ายมากนะแม่ราตรี เวลาแสดงดรามาก็คือเห็นหัวอกหัวใจของแม่ราตรีเลย ถือเป็นการคัมแบ็คได้สมศักดิ์ศรีมากค่ะ ปรบมือ นก-ฉัตรชัย เปล่งพานิช รับบทเป็น "พระยาจรัล" ขุนนางหนุ่มใหญ่ เขาคือแขกประจำที่หลงใหลในตัวกุหลาบมาก ๆ เมื่อเห็นว่าคู่นอนของตนดูกังวล มีปัญหาชีวิต พระยาจรัลจึงยืนมือเข้ามาช่วย ตอนพี่นกเข้าฉากกับอิงฟ้าคือ ฟีลอบอุ่นมากค่ะ แต่การเอาพี่นก ฉัตรชัย มาแสดงทั้งทีบทนี้ย่อมไม่ใช่แค่ลูกค้าธรรมดา ๆ แน่นอน ในบทยศเป็นถึงพระน้ำพระยา ไม่พูดเยอะนะคะกลัวสปอยหลุด เอาเป็นว่าพี่นกแสดงมิติทางอารมณ์ได้ดี ถึงใจถึงอารมณ์ ดูแล้วทั้งเกลียดทั้งกลัว สมกับประสบการณ์ทางการแสดง 40 กว่าปีในวงการบันเทิง ก้อง-วิทยา เทพทิพย์ รับบทเป็น "เกื้อ" หนุ่มหล่อ ดีกรีนักเรียนนอก เขาคือลูกชายของคุณพระประดิษฐ์ ครอบครัวทำธุรกิจเกี่ยวกับผ้า ตัวเขาพึ่งเดินทางกลับมาต่างประเทศ ความที่ลูกน้องคนสนิทเป็นเพื่อนกับสามสาวหอบุปผชาติ ทำให้เขาได้รู้จักทั้งสามไปด้วย ทันทีที่เกื้อพบกุหลาบ เขาก็ถูกใจเธอทันที แต่ไม่ใช่ในฐานะลูกค้า แต่เขาอยากเป็นคนรักของเธอ โดยไม่สนว่าเธอคือโสเภณีเกื้อเลือกมองคนที่จิตใจ มาดูกันว่าความหัวสมัยใหม่ของเกื้อจะทำให้ความรักของเขาและเธอ สมหวังได้หรือไม่ เพิร์ล-ศัจกร ฉลาด รับบทเป็น "นาถ" หนุ่มกรรมกร ทำงานลากรถส่งผู้โดยสาร เขาเป็นคนรักของโบตั๋น คอยทำหน้าที่รับ-ส่งโบตั๋นเวลาต้องออกไปบริการแขกนอกสถานที่นาถรักโบตั๋นด้วยใจจริง ไม่หวั่นว่าใครจะตีตราว่าเขาเป็นแมงดา ดังนั้นเขาจึงตั้งใจเรียนเพื่อหวังว่าจะสอบราชการได้และพาคนรักออกจากวังวนที่สังคมรังเกียจ ภูมิ-ณัฏฐ์ เทพหัวดิน ณ อยุธยา รับบทเป็น "ขุนณรงค์" ข้าราชการหนุ่มผู้บ้าตัณหาราคะ เขามีรสนิยมชอบใช้ความรุนแรงเวลามีเซ็กส์ โบตั๋นคือเหยื่อกามารมณ์ที่ต้องคอยรับความรุนแรงนี้ ทุกครั้งที่เธอไปบริการขุนณรงค์ เธอจะกลับหอบุปผชาติด้วยสภาพที่ดูไม่ได้ทุกที เมื่อ แม่ราตรี จะเปิดประมูลพรหมจรรย์ของเทียนหยด ขุนณรงค์พร้อมลงสนามเพื่อหาเครื่องรองรับอารมณ์ใหม่ เงินทุกบาทที่เสียไปเขาต้องเอาคืนให้คุ้ม ต้อม-พลวัฒน์ มนูประเสริฐ รับบทเป็น "คุณพระนเรน" เขารับราชการเป็นตำรวจน้ำดี เปี่ยมด้วยคุณธรรม เวลาที่หอบุปผชาติมีเรื่องราว เขามักจะลงพื้นที่พอเจอแม่ราตรีทีไร ให้ฟีลสวรรค์เบี่ยงตอนคาวีไปง้อนารินเลย เพราะแม่ราตรีปฏิบัติกับคุณพระไม่ดีทั้งกิริยาและวาจา ตัวคุณพระเองก็ไม่ถือสามากมาย เหมือนคนมีชะงักติดหลัง รอลุ้นอดีตของทั้งสองเลยค่ะ ตอง-ภัครมัย โปรตระนันทน์ รับบทเป็น "ทับทิม" แม่เล้าหอนางโลมที่เป็นคู่แข่งของหอนางโลมบุปผชาติ เมื่อเห็นว่าคู่แข่งกระตุ้นยอดขายได้เพราะการแสดงโชว์เต้นรำ แม่ทับทิมจึงก๊อบโชว์มา แล้วดัดแปลงให้แตกต่างด้วยการเปลือยอกโชว์ไปเลยจ้า ทำให้สามสาวบุปผชาติไม่พอใจอย่างมาก ทั้งสองทีมไม่ถูกกันอยู่แล้ว ก็เลยหยุมหัวกันชุดใหญ่เลยค่ะรอดูต่อไปว่าแม่ทับทิมจะมาไม้ไหน ร้ายดาด ๆ ร้ายจิต ๆ หรือ แค่คนสีเทาคนหนึ่ง เอ๋-นรินทร ณ บางช้าง รับบทเป็น "ยี่เข่ง" บ่าวผู้จงรักภักดีของแม่นายราตรี ยี่เข่งเปรียบเสมือนมือขวาและกล้องวงจรปิดของหอบุปผชาติ ใครทำอะไรป้าแกเก็บรายละเอียดหมด แทบไม่มีสิ่งไหนจะเล็ดลอดสายตาที่คมดุจเหยี่ยวของแกได้ ยี่เข่งรักนายมาก คอยร่วมหัวจมท้ายในทุกสถานการณ์ เธอได้กำความลับและอดีตของแม่นายเอาไว้ รัศมีแข รับบทเป็น "ราอัล" ลูกครึ่งแดนภารตะ เขาเป็น LGBTQ รวมทั้งเป็นเพื่อนสาวของสามสาวหอบุปผชาติ อีกบทบาทหนึ่งเขาคือลูกน้องคนสนิทของเกื้อ ตัวละครนี้น่ารัก เฮฮา ช่วยสร้างสีสันให้เรื่อง มีนา-ริณา ฉัตรอมรชัย รับบทเป็น "ไข่มุก" โสเภณีประจำซ่องแม่ทับทิม เธอเป็นคนหน้าสวย แต่ข้างในเปี่ยมไปด้วยดวงจิตที่ริษยา ไม่ต่างจากผู้เป็นนาย รอดูค่ะว่านางจะเป็นตอของสามสาวบุปผชาติ ในทางใดบ้าง ทะเล-นธัท แสง-ชูโต รับบทเป็น "เณรปราบ" เณรหนุ่มผู้มีจิตใจเมตตา มองคนที่จิตใจมากกว่าเปลือกนอก เณรปราบได้ถ่ายทอดวิชาสอนหนังสือให้กับเทียนหยด ประเด็นที่น่าสนใจในซีรีส์นำเสนอชีวิตของโสเภณีในสมัยโบราณ ที่ถูกกดทับและจำกัดสิทธิในหลาย ๆ ด้าน นอกจากถูกสังคมประนามหยามเหยียด แล้วยังถูกกฎหมายตีตราตัดสิน ในเรื่องสอดแทรกไว้ว่าหากชายใดเอาหญิงโสเภณี มาเป็นเมียออกหน้าออกตา จะมีโทษทางอาญากฎหมายสงวนไว้แต่ผู้หญิงเท่านั้นที่ต้องรักเดียวใจเดียว ต้องเป็นสมบัติของสามีไปจนตาย ในขณะที่ผู้ชายจะมีนางเล็ก ๆ กี่คนก็ได้ เพราะกฎหมายให้อิสระมีการสอดแทรกเรื่องภาษีโสเภณี ซึ่งถือว่าแปลกใหม่สำหรับผู้เขียน พึ่งเคยเห็นสื่อบันเทิงไทยนำเสนอเรื่องนี้ค่ะ การมอบทางเลือกให้กับโสเภณีที่มีฐานะต่ำศักดิ์กว่าทาสเสียอีก เป็นเครื่องใหม่นะคะที่คนกลุ่มนี้ในสมัยโบราณ จะหัวก้าวหน้า ลุกขึ้นมาเรียกร้องสิทธิให้ตัวเอง และคิดปลดแอกเพื่อเน้นย้ำให้ทุกคนเห็นว่าโสเภณีเป็นแล้วหายขาดได้ผู้เขียนชอบความเปรียบ ในฉากที่กุหลาบรับดอกกุหลาบสายพันธุ์ต่างประเทศ ที่เกื้อมอบให้ เธอจะนำไปปลูกให้ออกดอกในสยามให้ได้แม้จะมีคนบอกว่าสายพันธุ์นี้โตได้เฉพาะเมืองหนาว ซึ่งสอดคล้องกับสิ่งที่กุหลาบกำลังจะทำคือต้องการปลดแอกจากการเป็นโสเภณี แม้ว่าสังคมจะมองว่าเป็นไปไม่ได้ ภาพรวมของซีรีส์โปรดักชัน งานภาพดี เสริมออร่านักแสดง ฉากหอนางโลมแสงสีสวยเสื้อผ้าหน้าผมสวยงาม ใหม่สะอาด เพราะตัวละครหลักทำอาชีพที่รูปลักษณ์ภายนอกต้องดูดี เสื้อผ้าหน้าผมส่งสุด ๆ ในส่วนของผ้าไทยส่วนฉากที่สามสาวแสดงโชว์ เสื้อผ้ามีความแฟนตาซี มีการใส่รองเท้าส้นสูงแบบสมัยปัจจุบันนิยมด้วย พอ ๆ กับ เพลงที่ใช้แสดง ถูกถ่ายทอดออกมาในรูปของการร้องเต้นประกอบจังหวะ ผู้เขียนคิดว่าอยู่ที่พัทยาเสียอีก ฟีลนางโชว์มาก ๆ ส่วนเพลงที่ใช้ก็ "แสงสุดท้าย" ของ "บอดี้แสลม" มาโคฟเวอร์ใหม่ เต้นนัวมาก มีความแฟนตาซีและแปลกใหม่สำหรับแนวพีเรียด ที่ไม่ได้มีตัวละครข้ามยุคข้ามสมัยมาในอดีตบางฉากในเรื่อง เช่น สามสาวคุยกับราอัล คำพูดการแสดงออก ดูเป็นยุคสมัยใหม่มาก555 อรรถรสและอีกฉากหนึ่งคือตอนนาถและโบตั๋น มาดูแบบชุดแต่งงานที่ร้านขายผ้าของขุนประดิษฐ์ นึกว่าดูคู่รักแต่งชุดแฟนซีย้อนยุคมาเลือกชุดแต่งงานค่ะ สมัยใหม่มาก ๆ เข้าใจว่าทางผู้สร้างอยากสร้างสีสันที่แปลกใหม่ส่วนด้านคติชนวิทยา ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ของแนวพีเรียด ก็สอดแทรกไว้ประมาณหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็น ด้านความเชื่อ การบูชาอีเป๋อมหาเสน่ห์ของโบตั๋น, อาหารอย่างแกงรัญจวน, ขนมไหว้พระจันทร์ และศาสตร์แห่งความงาม ที่ว้าวสำหรับผู้เขียนคือ ขี้นกไนติงเกล ฉากยี่เข่งนำไปเสนอให้แม่นายราตรีลองใช้ ผู้เขียนคิดถึงสาวมิสทีนเลยค่ะ555 ทีมนักแสดง3 สาวตัวละครหลัก อิงฟ้า,ก้อย และ ชาร์เลท เคมีเข้ากันมาก ดูเป็นทั้งเพื่อนเป็นพี่เป็นน้องกัน ผูกผันรักใคร่ โดยไม่ต้องย้อนความเยอะมากมาย ดู 3 ตัวละครนี้แล้วมีความหวัง ให้ฟีลพื่อนหญิงพลังหญิงมาก ๆ หมายเหตุ : ฉากเต้นก็คือ สามสาวแซ่บไฟลุกมาก ไลน์เต้นไลน์ใจก็คือทำถึง3 ตัวละครรุ่นใหญ่ อ้อม พิยดา เคมีแสดงเข้ากับนก ฉัตรชัย และ ต้อม พลวัฒน์มาก ๆ ทุกคนส่งบทให้กันได้ดี ปะทะคารมแต่ละทีผู้เขียนอินมาก ขนลุกแล้ว เคมีคู่พระนางอิงฟ้า&ก้อง เคมีดีมาก หวานฉ่ำ ละมุน น่ารัก ดูแล้วเขินค่ะอิอิก้อย&เพิร์ล ก็เข้ากัน ฉากเลิฟซีนของทั้งคู่คือทำถึงเกินส่วนชาร์เลท น้องจะเข้าคู่กับใครต้องรอลุ้นต่อไปค่ะ การดำเนินเรื่อง สำหรับ 2 ตอนแรกที่ออกอากาศ เดินเรื่องเร็ว ดูเพลินมาก ๆ ไม่มีจุดไหนให้ง่วงนอน สำหรับความยาวตอนละประมาณ 60 นาที ครบทุกอารมณ์นะคะ เขากำกับฉากต่าง ๆ ได้ถึงใจดีค่ะ บทโทรทัศน์มีปมต่าง ๆ ชวนให้ลุ้นติดตาม มีความหักมุม พลิกไปมาอยู่ตลอด รอเฉลยนะคะว่าจะพีคแค่ไหน ให้คะแนนภาพรวม 2 ตอนแรกของซีรีส์ 10/10 คะแนน เครดิตภาพหน้าปกออกแบบใน canvaภาพประกอบหน้าปก one31thailand : ภาพที่ 1ภาพประกอบเนื้อหา one31thailand : ภาพที่ 1 / 2 / 3 / 4 / 5 / 6 / 7 / 8 / 9 / 10 / 11 / 12 / 13 / 14 / 15 onedofficialth : ภาพที่ 16 / 17 / 18 / 19ลิงก์คลิปวิดีโอประกอบเนื้อหา ช่อง one31 : คลิปที่ 1 จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !