สำหรับมนุษย์ ชีวิตก็คือการออกเดินทาง เราเริ่มตั้งต้นการเดินทางตั้งแต่ออกจากท้องแม่ หลังจากนั้นเส้นทางการสำรวจของแต่ละคนก็ดำเนินไปตามแนวของตน แต่ทุกการเดินทางก็ล้วนมีจุดสิ้นสุดเสมอ ชีวิตก็เช่นเดียวกัน หนังเรื่อง Departures จะทำให้คุณเข้าใจการเดินทางสุดท้ายของนมุษย์ หรือ การเดินทางสู่ความตายได้ดีขึ้นหนึ่งในภาพยนตร์แห่งความทรงจำ มันดีงามจนอยากจะพูดถึง เล่าต่ออีกครั้ง และอีกหลาย ๆ ครั้งอย่างเต็มไปด้วยความประทับใจ แม้จะผ่านเวลามาแล้วถึง 10 ปี ...ใช่ ...หนังเรื่องนี้ฉายในปี 2008 และนี่เป็นอีกหนึ่งข้อยืนยันที่ว่า ผลงานที่ดี จะคงอยู่ในใจคนเสมอมาพูดถึงหนังเรื่องนี้กันต่อดีกว่า หนังเล่าเรื่องของ โคบายาชิ อดีตนักเชลโลในเมืองหลวงของญี่ปุ่น ที่ต้องหันหลังให้กับความฝันที่เป็นไปไม่ได้อีกต่อไป และกลับไปใช้ชีวิตที่จังหวัดบ้านเกิดอย่างผู้พ่ายแพ้ แต่ชีวิตก็ยังต้องดิ้นรนต่อ เขาจึงต้องเริ่มหางานทำใหม่อีกครั้ง และในจังหวัดเล็ก ๆ ที่เงียบเหงา เขาได้ค้นพบงาน "ผู้ช่วยนักเดินทาง" ฟังดูแล้วน่าจะเหมือนบริษัททัวร์ แต่จริง ๆ มันคืองานช่วยแต่งตัว แต่งหน้าศพ นั่นเอง โคบายาชิ ทำงานนี้ด้วยความรู้สึกกระอักกระอ่วน และไร้ซึ่งความภาคภูมิใจขอบคุณภาพประกอบจาก pixabayหนังพาเราไปดูการทำงานของโคบายาชิ จากศพแรก ที่เขาหวาดกลัว เงอะงะ ไร้ประสบการณ์ และค่อย ๆ พัฒนาไปเรื่อย ๆ จนทำงานได้ดีขึ้นและเข้าใจถึงแก่นแท้ของอาชีพ ทุกอย่างค่อย ๆ เรียงลำดับ ราวกับว่าหนังไม่ได้แค่พา โคบายาชิ ไปเรียนรู้เท่านั้น แต่หนังพาผู้ชมไปร่วมฝึกงาน ฝึกความรู้สึก และเราก็ค่อย ๆ เข้าใจความสำคัญของอาชีพนี้ไปโดยปริยายพร้อมกับโคบายาชินั่นเองนอกจากนี้หนังยังมีประเด็นอื่น ที่เกี่ยวพันกับตัวพระเอกของเรื่อง นั่นคือปูมหลังเรื่องพ่อ แต่เมื่อนำมาร้อยเรียงเข้ากับเส้นเรื่องหลัก คือเรื่องความตาย ก็กลายเป็นจุดพีค ที่ทำให้หลายคนน้ำตาแตกกันเลยทีเดียวในการเดินทางท่องเที่ยวแต่ละครั้ง ทุกคนอยากเก็บภาพความประทับใจที่สวยงามทั้งนั้น คุณจึงต้องแต่งหน้า ถ่ายรูปสวย ๆ เพื่อให้ความทรงจำของคุณงดงามทั้งในหัวใจและรูปถ่าย แต่สำหรับการเดินทางครั้งสุดท้ายของมนุษย์เพื่อไปสู่ดินแดนหลังความตาย ความทรงจำที่จะเก็บไว้ ก็เพื่อคนข้างหลังที่ยังรักและมีลมหายใจอยู่ พวกเขาอยากมีภาพความทรงจำสุดท้ายต่อคนที่รัก ให้งดงามที่สุดเสมอ และนี่คือเหตุผลที่ บรรดาอาชีพอย่าง "ผู้ช่วยนักเดินทาง" ล้วนมีความสำคัญขอบคุณภาพประกอบจาก pixabayสำหรับเราซึ่งเป็นผู้ชมภาพยนต์เรื่องนี้ก็ได้แง่คิดดี ๆ ที่ว่า เราล้วนแต่อยู่ระหว่างเส้นทางแห่งการเรียนรู้และสำรวจโลก เพราะฉะนั้นควรใช้ช่วงเวลาแห่งการท่องเที่ยวนี้ให้เกิดประโยชน์ที่สุด นั่นคือ เก็บเกี่ยวความงดงามของช่วงเวลาที่เราได้ใช้ชีวิต และควรตระหนักว่าทุกการเดินทางล้วนมีจุดสิ้นสุดเสมอ วันนี้เราใส่ใจผู้คนรอบข้างที่มีความหมายอย่างเพียงพอแล้วหรือยังเพราะในวันหนึ่งเราอาจจะต้องเป็นผู้ส่งนักเดินทาง ซึ่งเป็นคนที่เรารัก หรืออาจจะเป็นเราที่ถึงเวลาสิ้นสุดการเดินทางลง แล้วเมื่อวันนั้นมาถึง...ทุกคนล้วนอยากแค่เสียใจที่หมดเวลาร่วมกัน มิใช่เสียดายที่ไม่เคยมีเวลาให้แก่กันเลยภาพหน้าปกจากผู้เขียน