รีเซต

‘ป๋อ’เก็บออม-ใช้ชีวิตสมถะ พาครอบครัวรอดวิกฤตโควิด

‘ป๋อ’เก็บออม-ใช้ชีวิตสมถะ พาครอบครัวรอดวิกฤตโควิด
ข่าวสด
28 กันยายน 2564 ( 08:54 )
162

‘ป๋อ’เก็บออม-ใช้ชีวิตสมถะ พาครอบครัวรอดวิกฤตโควิด - เป็นอีกครอบครัวหนึ่งที่อบอุ่น สำหรับครอบครัว “สกิดใจ” นำโดยหัวหน้าครอบครัวอารมณ์ดีอย่างพระเอกรุ่นใหญ่ ‘ป๋อ’ ณัฐวุฒิ สกิดใจ กับภรรยาสาวคนสวย ‘เอ๋’ พรทิพย์ วงศ์กิจจานนท์ พร้อมสองลูกชายวัยซน ‘น้องภู’ และ ‘น้องเภา’

ณ วันนี้ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ทุกคนทุกครอบครัวต่างได้รับผลกระทบถ้วนหน้า

แต่ทุกอย่างต้องมีการรับมือและปรับตัว โดย ‘ป๋อ ณัฐวุฒิ’ ได้มาแบ่งปันข้อคิดและวิธีการดำเนินชีวิตในภาวะวิกฤตโควิดให้ฟัง

ชีวิตครอบครัวช่วงนี้เป็นอย่างไรบ้าง?

ป๋อ - “โอเคนะครับ ลูกๆ ก็เรียนออนไลน์ไป คุณพ่อก็ทำงานในส่วนของเขาไป เร็วๆ นี้ก็จะได้รู้โปรเจ็กต์ของภรรยาผม เขากำลังทำ โปรเจ็กต์ธุรกิจส่วนตัว ส่วนผมมีละคร 2 เรื่องครับ ยังมีสัญญากับทางช่อง 3 อยู่จะมีเรื่อง คู่เวร กับ เก็บแผ่นดิน นอกจากนี้ก็มีผลงานโฆษณาด้วยครับ”

ช่วงโควิดเอาเงินเก็บออกมาใช้เยอะ?

ป๋อ - “แน่นอน ต้องบอกก่อนว่าครอบครัวเราค่อนข้างสมถะในระดับหนึ่ง เก็บเงินเก็บทองเราก็เตรียมตัวมาแล้วล่ะว่าถ้าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นมาจะได้มีเงินทุนสำรองในการดูแลตนเอง เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ได้เรียนรู้ว่าสิ่งที่เราอดทนมาทั้งหมด เราได้เอามาใช้ในยามฉุกเฉินแบบนี้จริงๆ ในกรณีที่เราไม่มีงาน มันก็มีผลกระทบ แต่ด้วยเราใช้ชีวิตด้วยความระมัดระวังมาโดยตลอด แม้รายรับเราจะเป็นศูนย์ รายจ่ายเรายังมีเหมือนเดิม เราเอาเงินเก็บมาใช้ ก็โอเคยังอยู่ ในระดับที่ควบคุมได้ ถามว่าเดือดร้อนไหม เดือดร้อนครับ ธุรกิจร้านอาหารก็เดือดร้อน”

อย่างร้านกล่องชา 24 ของเรา นอกจากจะเจอภาวะโควิดที่ล็อกดาวน์เปิดร้านไม่ได้ ล่าสุดสาขาที่เพชรบุรียังโดนโจรยกเค้าด้วย?

ป๋อ – “ครับ ด้วยร้านมันปิดอยู่ เราก็เริ่มเตรียมตัวเปิดร้าน แต่มาเจอเรื่องแบบนี้เสียก่อน เขาพังฝ้าลงมา รื้อร้านเละไปหมด ถอดทีวีไป 2 เครื่องเอาเครื่องบดกาแฟอย่างดีไป 1 เครื่อง พระ 2 องค์แล้วข้าวของเครื่องใช้ในครัวอีกเยอะเลย พอเห็นแบบนี้ทุกคนก็หมดกำลังใจไปนิดนึง พูดตรงๆ หมดแรง คือมันไม่ควรเกิด ร้านอาหารมันมีงบ เราต้องใช้งบตรงนี้ไปเปิดรอบใหม่ กลายเป็นว่าแทนที่จะได้เอาเงินมาเปิดรอบใหม่เยอะๆ กลับต้องเอาเงินมาซ่อมหลายตังค์เลย ค่อนข้างผิดหวัง”

“ช่วงนี้คน คงลำบากจริงๆ ขโมยก็คงลำบาก ยังพูดกับพี่สาวว่า ใจเขาใจเรา คิดว่าถ้าเอาของมาคืน เราก็ไม่ดำเนินคดีอะไร แต่ถ้าไม่เอามาคืนก็ต้องดำเนินตามกฎหมายอย่างถึงที่สุดคือ โควิดมันลำบากกันทุกคน พอมาเจอเหตุการณ์อย่างนี้ ไม่น่ารักครับ”

คาดว่าจะได้เปิดร้านอีกทีนานไหม?

ป๋อ - “ตอนร้านยังไม่พังก็คิดว่า 15 วันก็จะเปิดแล้ว คือทุกอย่างถอยหลัง ร้านเปิดๆ ปิดๆ มาเป็นปี มันไม่ได้มีสภาพคล่องเท่าไหร่ ตอนปิด 6 เดือน ยิ่งไปกันใหญ่ รายรับเป็นศูนย์ เรามีรายจ่ายที่ต้องเตรียมไว้ในอนาคตด้วย ก็อยากเปิด ทุกคนอยากทำงาน จะได้มีรายได้ ตอนนี้ถอยแบบติดลบ พี่สาวไม่มีเรี่ยวแรง เครียด กลัวขโมยจะกลับมาอีก เขารู้วิธีเข้า”

ช่วงโควิดได้มีบทบาทการทำหน้าที่พ่อมากขึ้น มันดีอย่างไร?

ป๋อ - “เหมือนเราได้ใกล้ชิดเขาเกือบฟูลไทม์ร้อยเปอร์เซ็นต์ เราต้องใช้ชีวิตกับเขา รับรู้ในหลายๆ เรื่องที่ไม่เคยรู้มาก่อน เช่น ความคิดของเด็กๆ ที่เป็นตัวของตัวเอง บางทีเด็กๆ สอนเราเยอะ ปกติเราใช้ชีวิตออกไปทำงาน ตกเย็นกลับบ้าน แต่ทีนี้เราไม่ได้ออกไปไหน ตอนเช้าต้องตื่นมาแต่เช้า ดูลูกเรียนหนังสือ ลูกก็สอนให้เราควบคุมจิตใจและอารมณ์ด้วยนะ บางทีอยู่บ้านมันมีความเครียดแฝง มีความไม่สบายอกไม่สบายใจแฝง การลุ้นว่าละครจะได้ออกเมื่อไหร่ เมื่อไหร่จะได้ถ่ายงาน ความกังวลเหล่านี้เป็นความเครียดโดยไม่รู้ตัว ลูกๆ ก็จะสอนให้ เรารู้จักควบคุม เพราะทุกครั้งที่เราพูดอะไรออกไป เด็กๆ เขารู้สึกหมด ฉะนั้นเราต้องควบคุมอารมณ์ดีๆ”

“เขาเคยถามว่า ถ้าพ่อเป็นเด็กแล้วมีคนมาพูดกับพ่อแบบนี้จะรู้สึกยังไง เด็กสมัยนี้เขากล้าครับ ที่บ้านก็สอนให้พูดกันตรงๆ เราไม่ได้อยากให้เด็กอยู่ด้วยความกลัว ไม่กล้า ซึ่งการเลี้ยงในแต่ละเจเนอเรชั่นไม่เหมือนกัน ยุคนี้เราควรจะฟังว่าเด็ก 5 ขวบเขาคิดอย่างนี้ 8 ขวบเขาคิดแบบนี้ เวลาเราดุเขา เขาก็จะบอกว่าพ่อป๋อ ถ้าพ่อของพ่อป๋อมาพูดแบบนี้ พ่อจะรู้สึกยังไง เขาก็พูดแบบดีๆ นะ ไม่ได้ไม่สุภาพ เราก็คิดว่าบางครั้งเราก็มีข้อผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ อยู่บ้าง ก็ปรับปรุงตัวเองครับ”

ชีวิตคู่หวานแหวว ปีนี้ครบรอบกี่ปี?

ป๋อ - “9 ปีครบรอบแค่แต่งงานครับ แต่เรารู้จักกันมาจะ 20 ปีได้แล้ว แฮปปี้ครับ เราสองคนมีช่วงที่ยาก แต่ช่วงนี้เป็นช่วงที่ง่ายสำหรับเรา ตอนนี้เราสองคนจับมือกันลด น้ำหนักครับ โควิดทำให้เราอ้วนขึ้นมาก ไม่รู้คนอื่นเป็นหรือเปล่า วันนี้อยากกินพิซซ่า อยากกินเคเอฟซี ก็อ้วนทั้งผัวทั้งเมีย ตอนนี้เราถึงช่วงที่จะใกล้ทำงานแล้วก็ต้องลด ตอนนี้เลยสามัคคีกันทำกับข้าว เดี๋ยวนี้ผมจะกินในสิ่งที่เหมือนเอ๋แทบทุกอย่าง เราพยายามลดน้ำหนัก”

ออกกำลังกายด้วยกันด้วย?

ป๋อ - “ใช่ เดี๋ยวนี้เอ๋ชอบออกกำลังกาย เมื่อก่อนเขาไม่เคยวิ่งเลย ผมวิ่งคนเดียว เหงามากเลยเดี๋ยวนี้เอ๋จะมารอวิ่งด้วย ยืดกล้ามเนื้อ เต้นตามเบเบ้ เราก็ได้ใช้ชีวิตด้วยกันมากขึ้น เคยลองพูดกันว่าถ้าเอ๋ไม่ชอบในสิ่งที่พี่ทำเลย ไม่เคยทำในสิ่งที่ชอบด้วยกัน ไม่เคยดูหนัง ออกกำลังกายเล่นกีฬาด้วยกัน ชีวิตจะเป็นยังไง มันต่างคน ต่างอยู่หรือเปล่า เดี๋ยวนี้ก็ปรับตัวเข้าหากัน มากขึ้น ผมก็ดูหนังแบบเอ๋มากขึ้น ดูหนังเกาหลีเอ๋ก็ออกกำลังกายกับผมมากขึ้น”

ตั้งเป้าให้หุ่นกลับไปเฟิร์ม?

ป๋อ - “ตั้งเป้าไว้ก่อนอายุ 50 ปีต้องมี ซิกซ์แพ็ก แต่ตอนนี้ 47 ปี ผมมีเวลาอีก 3 ปี เราอยากสุขภาพแข็งแรงครับ เพราะจะได้อยู่กับลูกๆ ไปนานๆ เน้นการมีสุขภาพดี ทานอาหารที่มีประโยชน์”

สุชาวดี อภิสัมภินวงค์