สวัสดีทุกท่านครับ ผมดูซีรีส์เรื่องหนึ่งที่น่าดูและสนุกมาก เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาตามผมมาเลยครับ รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! The Man in the High Castle ผู้สร้าง : Frank Spotnitz ดัดแปลงจากนวนิยาย: The Man in the High Castle (1962) โดย Philip K. Dick จำนวนซีซันและตอน : 4 (2015–2019) มี 10 ตอนต่อซีซัน รวมทั้งหมด 40 ตอน ประเภท : ดิสโทเปีย, ไซไฟ, การเมือง, ระทึกขวัญ, ดราม่า, โลกสมมติ สตรีมมิ่ง : Prime Video เรื่องย่อ The Man in the High Castle วางฉากในโลกสมมติ ซึ่งฝ่ายอักษะ (เยอรมนี–ญี่ปุ่น) ชนะสงครามโลกครั้งที่ 2 สหรัฐอเมริกาถูกแบ่งออกเป็นสองส่วนใหญ่ ๆ คือ ส่วนแรก Greater Nazi Reich (ฝั่งตะวันออกและตอนกลางของอเมริกา) ภายใต้การปกครองของเยอรมนี และส่วนที่สอง Japanese Pacific States (ฝั่งตะวันตก) ภายใต้จักรวรรดิญี่ปุ่น ระหว่างทั้งสองมีเขตกันชน (Neutral Zone) ที่เต็มไปด้วยอิสรชนและกองกำลังต่อต้าน เรื่องราวเริ่มจาก จูเลียนา เครน หญิงสาวจากซานฟรานซิสโก ที่บังเอิญได้พบกับฟิล์มภาพยนตร์ลึกลับที่ดูเหมือนแสดงภาพของ “โลกอีกแบบหนึ่ง” ที่ฝ่ายพันธมิตรชนะสงคราม ซึ่งเป็นสิ่งต้องห้ามอย่างยิ่ง ภาพยนตร์นี้ถูกเชื่อมโยงกับชายลึกลับที่เรียกว่า The Man in the High Castle ผู้ซึ่งรวบรวมและเผยแพร่ฟุตเทจเหล่านี้ เมื่อเธอเข้ามาเกี่ยวพันกับขบวนการต่อต้าน เธอต้องตัดสินใจว่าจะยอมทำตามระบบ หรือจะต่อสู้เพื่อเสรีภาพและความจริงของโลกที่น่าจะเป็น ความรู้สึกหลังดูจบ ซีซั่นแรกดีสุด ส่วนซีซั่นสุดท้าย จบแค่ตรงผู้นำของศัตรูตุยจะไม่ว่าอะไรเลย แต่จบแบบงงและสงสัยทำเพื่ออะไร จะให้เราตีความต่อกันเองเหรอ? มาเข้าประเด็นจุดเด่นของซีรีส์นี้ เริ่มจากโลกสมมติ (Alternate History) ที่สร้างได้สมจริงมาก โดยตัวซีรีส์ทุ่มเทกับรายละเอียดสุดๆ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องแต่งกาย โลโก้ อาคาร เมือง รถไฟ หรือแม้แต่เพลงประกอบในแบบของจักรวรรดิญี่ปุ่นและนาซี แค่ฉากของอาณาจักร Greater Nazi Reich ก็ทำให้รู้สึกขนลุก https://youtu.be/9Je3oQjK17A?si=4_8tvzLwAlqRzldB ต่อมาประเด็นทางปรัชญาและศีลธรรม โดยตัวซีรีส์นำเสนอประเด็น “ถ้าโลกเปลี่ยนไปแบบนี้จริงๆ มนุษย์จะเป็นอย่างไร” จะมีการถกเถียงเรื่อง เจตจำนงเสรี, การโฆษณาเชื่อชวน และ ความเป็นมนุษย์ มียังแตะเรื่องการกดขี่ชาติพันธุ์และโครงสร้างอำนาจแบบสุดโต่ง และสุดท้ายการสร้างอารมณ์ผู้ชมแบบความตึงเครียด โดยตัวซีรีส์จะเต็มไปด้วยการหักมุม, ความลับระดับชาติ, การลอบสังหาร, แผนก่อการกบฏ และอุดมการณ์ที่พร้อมจะปะทะกันตลอดเวลา ซึ่งอารมณ์จะคล้ายช่วงสงครามเย็น ตัวละครหลากหลายมิติ จูเลียนา เครน (Alexa Davalos) นำเสนอหญิงสาวธรรมดาที่ค่อยๆ เติบโตจนกลายเป็นสัญลักษณ์การต่อต้าน โจ เบลค (Luke Kleintank) ทหารหนุ่มฝ่ายนาซีที่ต้องต่อสู้กับศีลธรรมของตัวเอง จอร์จ สมิธ (Rufus Sewell) เป็นตัวละครที่โดดเด่นมาก เพราะเขาไม่ใช่แค่ตัวร้ายแบบธรรมดาๆ แต่เป็นหัวหน้ากองทัพนาซีที่ซับซ้อน มีครอบครัว มีเหตุผลส่วนตัว และหลายครั้งทำให้ดูรู้สึกเห็นใจและโคตรเหลี่ยมในเวลาเดียวกัน https://youtu.be/zzayf9GpXCI?si=95_sMnSrYU-Xq2VH ข้อสังเกต / ข้อวิจารณ์ ความยืดเยื้อในบางช่วง ซีซัน 2-3 บางตอนเดินเรื่องช้าเกินไป และบางพล็อตรองก็ดูไม่ค่อยไปไหน จนทำให้ดูบางส่วนรู้สึกหลุดโฟกัส ปมไซไฟ multiverse อาจซับซ้อนเกิน ในตอนท้ายของซีรีส์ ปมจักรวาลคู่ขนานและทฤษฎีโลกคู่ขนานถูกดึงเข้ามาเยอะมาก ทำให้ดูไปบางส่วนมองว่าสับสนและไม่เคลียร์ด้วย ตอนจบ แม้ซีรีส์จะพยายามปิดฉากให้สมบูรณ์ แต่ต้องมีหลายคนที่รู้สึกเหมือนกันว่าตอนจบยังเปิดกว้างและคลุมเครือเกินไป https://youtu.be/QtGqjxECVe8?si=C3UqTHlBoxL4ecnI บทสรุป The Man in the High Castle คือ ซีรีส์ที่ฉีกแนวด้วยการเล่าเรื่องสงครามโลกครั้งที่ 2 แบบ “สมมติว่าฝ่ายอักษะชนะ” ผสมบรรยากาศไซไฟ ดิสโทเปีย ได้อย่างเฉียบขาด โดยเฉพาะการออกแบบโลกและบรรยากาศที่สมจริงจนชวนขนลุก ถ้าคุณชอบซีรีส์แนวนี้เรื่องนี้ถือว่าควรดูอย่างยิ่ง ส่วนคะแนนให้ 8.5/10 โดยรวมซีซัน 1 ดี เข้มข้นและสนุกที่สุด, ซีซัน 4 จบแบบงงและสงสัยให้ตีความต่อกันเอง อ้อ ลืมไปอย่างหนึ่ง เพลงเปิดซีรีส์ร้องตามอย่างง่ายๆเลย สุดท้ายนี้หากใครที่รู้สึกชอบบทความนี้กดแชร์หรือถ้าอยากจะติดตามเรื่องราวอื่นๆ ของเราก็สามารถติดตามได้ที่ Facebook : WV review บทความ True ID : WV เรียบเรียงโดย WV เครดิตภาพ ภาพปก : ออกแบบ-ผู้เขียน และภาพจาก X : Prime Video ภาพประกอบจาก X : Prime Video : 1 , 2 , 3 , 4 วิดีโอจาก YouTube : Prime Video : 1 , 2 , 3 จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !