สวัสดีค่ะทุกคนเรื่องผีสางบนโลกเรานี้มันก็มีมากมายหลายแบบหลายประเภทจริง ๆ นะคะ ไม่ว่าจะเป็นผีกระสือ ผีปอบ ผีกะ ผีโพง ผีตายโหง ผีตายทั้งกลม ผีพราย แต่ละชื่อนักอ่านคงคุ้นหูกันเป็นอย่างดี วันนี้ผู้เขียนมีเรื่องราวของผีประเภทหนึ่ง ที่ไม่ได้อยู่ในหมวดหมู่ที่พูดไปทั้งหมดเมื่อสักครู่นี้ เพราะมีความแตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิงทั้งในรูปร่างและความน่ากลัว แต่ยังไงผีก็คือผีสำหรับผู้เขียนคิดว่าควรอยู่ห่าง ๆ ไว้เป็นดีที่สุดค่ะเครดิตภาพจาก :pixabayผีที่ผู้เขียนจะกล่าวถึงในวันนี้มันมีชื่อว่า ผีนางเงือกค่ะ แต่หลาย ๆ คนที่ได้อ่านอย่าเข้าใจผิดว่ามันคือนางเงือกนะคะ ไม่ใช่อย่างแน่นอนแต่ผีชนิดนี้ จะอยู่ในประเภทของพรายน้ำ นับย้อนเวลาไปอีกประมาณ 100 กว่าปีได้ เรื่องนี้เป็นเรื่องคุณยายชวดของผู้เขียนได้เคยเล่าให้คุณยายของผู้เขียนฟังไว้ก่อนที่ท่านจะเสียไป พอมาถึงรุ่นคุณยายของผู้เขียน ท่านก็ได้เล่าเรื่องนี้ให้ผู้เขียนฟังอีก เรียกว่าเล่าสืบต่อกันมารุ่นต่อรุ่นเลยก็ว่าได้ สำหรับเรื่องผีนางเงือกที่จะเล่าเดินต่อไปนี้บอกตรง ๆ เลยว่าครั้งแรกที่ผู้เขียนได้ฟัง เรื่องนี้จากปากคุณยาย ตอนนั้นรู้สึกกลัวมากกลัวจนขนาดว่าไม่กล้าลงเล่นน้ำในแม่น้ำอีกเลย เพราะกลัวว่าจะเจอกับผีนางเงือกมาเอาชีวิตไปเป็นบริวารเครดิตภาพจาก :pixabayเรื่องราวของผีนางเงือกที่ผู้เขียนจะเล่าดังต่อไปนี้ เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงในสมัยอดีตนานเป็นร้อยกว่าปีมาแล้วค่ะ ไม่รู้ว่าในสมัยนี้จะยังมีอยู่หรือเปล่าแต่ในยุคนั้นมีแน่นอน เพราะคุณยายชวดของผู้เขียนได้เห็นมากับตาคุณยายของผู้เขียนได้เล่าให้ฟังว่า ในสมัยก่อนคุณยายชวดของผู้เขียนท่านอาศัยอยู่ริมน้ำ การดำรงชีวิตส่วนใหญ่ของท่านในสมัยนั้นต้องใช้น้ำในแม่น้ำแห่งนี้เท่านั้น เพราะสมัยนั้นยังไม่มีน้ำประปาเหมือนปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นกลางวันหรือกลางคืนก็ต้องเดินลงไปตักน้ำที่แม่น้ำแห่งนี้ทั้งนั้น คุณยายเล่าว่าในแม่น้ำแห่งนี้ มีเรื่องแปลก ๆ เกิดขึ้นมากมาย อาจจะเป็นเพราะว่าท่านเป็นคนไม่ค่อยสนใจอะไรกับเรื่องแบบนี้มากนัก ท่านจึงไม่ใส่ใจกับเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเรื่องที่แปลกมาก เช่น ควาญช้างที่เอาช้างมาปล่อยอาบน้ำอยู่ดี ๆ ช้างก็เดินไปออกไปกลางแม่น้ำ แล้วก็เหมือนมีอะไรบางอย่างที่อยู่ใต้น้ำทำให้ช้างหมดแรง จมดิ่งลงก้นแม่น้ำทันที แต่เรื่องแปลกยังไม่จบเพียงแค่นี้เครดิตภาพจาก :pixabayเพราะเมื่อชาวบ้านช่วยกันนำช้างขึ้นมาจากก้นแม่น้ำ ผลปรากฏว่าเลือดในตัวช้างหายไปจนหมดไม่เหลือแม้แต่หยดเดียว เหมือนมีอะไรบางอย่างมาดูดเลือดช้างไป และหลังจากนั้นก็ยังมีเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้นอีก เช่นคนลงไปว่ายน้ำ อาบน้ำในแม่น้ำแห่งนี้ ก็จะต้องมีเหตุการณ์คนจมน้ำตาย โดยไม่ทราบสาเหตุไม่เว้นวัน ที่น่ากลัวที่สุดคือ มีหลายคนที่ไม่สามารถหาศพได้งมยังไงก็หาไม่เจอ หรือที่หลอนยิ่งกว่านั้นอีก โดยเฉพาะในคืนวันพระ ขึ้น 15 ค่ำ ก็จะมีชาวบ้านเห็นเหมือนมี ตัวอะไรกระโดดขึ้นมาจากแม่น้ำสูงประมาณ 3 - 4 ศอกแล้วก็กระโดดลงไป กระโดดขึ้นกระโดดลง อย่างนี้นานประมาณเกือบ 10 นาที แล้วก็หายไป สมัยนั้นคุณยายชวดได้ยิน ข่าวลือต่าง ๆ ที่ชาวบ้านพูดกัน แต่ท่านก็ไม่ได้สนใจเพราะเป็นคนไม่ค่อยเชื่อเรื่องผี จนอยู่มาวันหนึ่งวันนั้นตรงกับวันพระเช่นกันคุณยายชวด รู้สึกปวดปัสสาวะขึ้นมากลางดึก ท่านได้เดินออกมาจากบ้านเพื่อมาปัสสาวะที่ห้องน้ำ ที่อยู่นอกบ้านที่ติดกับริมน้ำ ในระหว่างที่ท่านเดินกำลังจะไปถึงที่ห้องน้ำ ท่านเห็นผู้หญิงรูปร่างสวยงาม แต่ลำตัวท่อนล่างตั้งแต่เอวลงไปจนถึงปลายเท้าเป็นหางปลา แทนที่จะเป็นขามนุษย์นั่งอยู่ใกล้ ๆ กับห้องน้ำที่ติดกับริมแม่น้ำ ที่ท่านกำลังจะไปเข้า ตอนนั้นท่านคิดว่าท่านตาฝาด เพราะเพิ่งตื่นจึงพยายามขยี้ตาอยู่หลายรอบและพยายามเดินเข้าไปใกล้ ๆเครดิตภาพจาก :pixabayและในตอนนั้นท่านก็ได้เห็นว่าสิ่งที่อยู่ด้านหน้าท่านคือมนุษย์ผู้หญิง ลำตัวท่อนล่างเป็นปลากำลังนั่งหวีผมอยู่ ยายชวดบอกว่าผมของผู้หญิงครึ่งปลานั้นยาวจนถึงสะโพก และท่านสังเกตเห็นได้ว่าหวีที่ผีนางเงือกใช้นั้นเป็นทองคำแท้ ๆ ไม่ใช่พลาสติกหรือไม้อย่างที่คนธรรมดาใช้กันในสมัยนั้น แต่ด้วยความที่ท่านเป็นคนไม่กลัวผี ท่านจึงตะโกนทักไปว่าเธอมานั่งหวีผมอะไรอยู่ป่านนี้ไม่กลัวบ้างเหรอ พอท่านพูดไปแค่นั้นเอง ผู้หญิงครึ่งปลานั้นก็ทำท่าทีเหมือนตกใจ รีบพุ่งกระโดดตัวจากที่นั่งลงน้ำไปในทันที คุณยายชวดของผู้เขียน ถึงแม้ว่าจะไม่กลัวแต่ด้วยความที่ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน ก็ได้ยืนนิ่งอยู่พักใหญ่ขยับตัวไม่ได้ด้วยความตกใจ แต่ตอนนั้นคุณยายชวดได้รู้ทันทีว่าได้เจอกับผีเข้าให้แล้ว และเป็นผีที่มีลักษณะประหลาดซะด้วย ในวันรุ่งขึ้น คุณยายชวดก็ได้เล่าเรื่องนี้ ให้กับปู่ย่าตายายและคนในหมู่บ้านฟัง มีหมอทำคนหนึ่งที่เป็นหมอผีที่อยู่ในหมู่บ้าน หลังจากที่ได้ฟังเรื่องที่คุณยายชวดของผู้เขียนได้พูดจบ หมอผีคนนี้ก็ได้พูดขึ้นมาว่าอีหนู เอ็งได้เจอกับผีนางเงือก หรือเจ้าแห่งผีพรายเข้าให้แล้วเครดิตภาพจาก :pixabayหมอผีพูดต่อไปอีกว่า ผีนางเงือกเป็นหัวหน้าผีพรายทั้งหมดที่อยู่ในแม่น้ำแห่งนี้ มีทรัพย์สมบัติมากมาย หมอผีบอกคุณยายชวดของผู้เขียนว่าถ้าเอ็ง เข้าไปใกล้ ๆ อีกหน่อยทำให้เขาตกใจหวีทองคำที่อยู่ในมือเขานั้น เขาจะตกใจจนโยนมันทิ้งไว้ตรงนั้น และนั่นหมายความว่าเอ็งจะได้เป็นเจ้าของหวีทองคำอันนั้นแทนผีนางเงือก หมอผีบอกว่าไม่ว่าจะเป็นสัตว์หรือคนในหมู่บ้าน ที่จมน้ำตายล้วนเป็นฝีมือของผีนางเงือกทั้งสิ้น โดยการล่าเหยื่อของผีนางเงือกเวลาเจอสัตว์หรือคนอยู่ในน้ำ สัตว์หรือคนที่มีเคราะห์เมื่อโดนผมของผีนางเงือกก็จะหมดแรงในทันที แล้วจมดิ่งลงไปใต้น้ำ ไม่ว่าจะตายหรือยังไม่ตายผีนางเงือกและบริวารจะเข้ามาดูดเลือดในทันที จนหมดตัวภายในไม่กี่วินาที ไม่ว่าจะเป็นช้างหรือคน ไม่มีทางหนีรอดไปได้ คุณยายชวดของผู้เขียนได้ยินเช่นนั้น รวมทั้งคนในหมู่บ้านทุก ๆ คนที่อยู่ริมน้ำ ต่างก็หวาดกลัวขวัญเสียใจเป็นอย่างมาก แต่หมอผีได้บอกว่ามีวิธีแก้อยู่ทางเดียวก็คือ ให้คนที่จะลงเล่นน้ำ ไม่ว่าจะเป็นกลางวันหรือกลางคืนก็ตาม ตัดชายผ้าถุงแม่ยิ่งเลือดประจำเดือนด้วยยิ่งดี มัดหัว ผูกข้อมือติดตัวลงไปด้วย บารมีของแม่จะยิ่งใหญ่ และสามารถปกป้องภยันตรายจากสิ่งลี้ลับได้ทุกชนิด เพราะชีวิตของเราเกิดมาจากมารดาและบิดา โดยเฉพาะมารดาเป็นผู้ที่มีความยิ่งใหญ่ บารมี แม่สามารถคุ้มลูกได้เสมอ เมื่อทุกคนได้ยินเช่นนั้นจึงต่างพากันหาชายผ้าถุงของแม่มาตัด คล้องคอบ้าง ผูกข้อมือบ้าง บางคนโพกที่ศีรษะก็มี หลังจากที่แต่ละคนในหมู่บ้านรวมทั้งคุณยายชวดของผู้เขียนได้ทำตามวิธีของหมอผีแล้ว ก็ไม่มีใครต้องตายเพราะโดนผีนางเงือกเอาชีวิตอีกเลย มาจนถึงปัจจุบันนี้ ยกเว้นคนที่อยากลองของหรือไม่เชื่อก็ยังจะต้องตายด้วยผีนางเงือกอยู่ดีนามปากกา : Lucky Girl