"โก้ ธีรศักดิ์" แชร์ประสบการณ์สุดทน 5 ปี ภัยเพื่อนบ้านปาของเสีย-น้ำกรด เตรียมย้ายหนี
ทำเอานักแสดงรุ่นใหญ่ปรี๊ดแตกกันเลยทีเดียว สำหรับ “โก้ ธีรศักดิ์ พันธุจริยา” หลังจากที่อดทนกับพฤติกรรมของเพื่อนบ้านมหาภัยมานาน ล่าสุดเจ้าตัวออกมาแชร์ประสบการณ์ที่ต้องเจอกับเพื่อนบ้าน ทำพฤติกรรมสุดทน ด้วยการปาถุงปัสสาวะใส่หลังคาบ้าน ในรายการโต๊ะหนูแหม่ม กับพิธีกรรับเชิญ “เป็กกี้ ศรีธัญญา” ที่มานั่งโต๊ะแทน "หนูแหม่ม สุริวิภา" พร้อมเผยทางออกที่ตนเองเลือกแล้ว
"โก้ ธีรศักดิ์" แชร์ประสบการณ์สุดทน 5 ปี ภัยเพื่อนบ้านปาของเสีย-น้ำกรด เตรียมย้ายหนี
ถูกเพื่อนบ้านสาดอุจจาระปัสสาวะใส่หลังคาบ้าน?
คือเรื่องนี้เราโพสต์ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ในช่วงนั้นก็เหมือนเค้าสาดน้ำกรดมาใส่ลูกน้องเรา แล้วมันก็รุนแรงมากขึ้นเรื่อยเรื่อย ประมาณ 2-3 สัปดาห์หลังก็จะเป็นน้ำปัสสาวะอุจจาระ แล้วก็เหวี่ยงลงมาบ่อยๆ ในรูปแบบเป็นระเบิดถุงบ้าง หรือว่าเป็นลักษณะที่เป็นแก้วแล้วก็ตักสาด เพราะเค้านั้นก็ไม่ได้ทำกับเราหลังเดียว เค้าทำกับเพื่อนบ้านของเราด้วย
ยิ่งห้ามยิ่งเตือนยิ่งเดือด?
คือคนที่ถ่ายคลิปเขาเป็นร้านทำผม และลูกค้าเขาก็จะน้อยลง พอลูกค้ามาก็เอาหินเขวี้ยงรถเขา หรือบางครั้งก็เอาน้ำปัสสาวะไปสาดเค้า อยู่ ๆ เอาน้ำอุจจาระปาเข้าไปในร้านและมันเหม็นกลิ่นอบอวล ซึ่งปกติเราก็จะเห็นเป็นถุงมาแปะอยู่ที่หน้าบ้านของเรา แต่คลิปที่เราลงก็คือเห็นชัดเจนเลย ว่าเค้ากำลังถือถุงปัสสาวะอุจจาระอยู่ คือเจ้าของบ้านหลังนี้เค้าไม่ได้ทะเลาะกับเราคนเดียว ซึ่งบ้านที่อยู่ในแถวนั้นเริ่มออกมาประกาศขายกันเกือบหมดแล้ว
จุดเริ่มต้นเรื่องนี้มานาน 5 ปีแล้ว?
คือเริ่มแรกเค้าจะเริ่มส่งเสียงก่อน ไม่รู้ว่าทำอาหารหรือทำอะไร แล้วก็ตะโกนด่ากันโวยวาย ซึ่งในบ้านเค้ามีอยู่ 4 คน คนที่ทำมีอยู่ 2 คน และหลังจากนั้นเราก็เริ่มศึกษาเรียนรู้และขอความช่วยเหลือร้องทุกข์ จนแบบตอนนี้ทุกคนเริ่มตระหนักรู้ ว่าเราต้องอยู่กับเขายังไง
5 ปีที่ผ่านมาเราจัดการกับเขายังไง?
คือที่ผ่านมาเราก็อยู่กันปกติสุขไม่ได้มีปัญหาอะไรกันเลย แล้วเหมือนครอบครัวเขาลูกชายจะทำธุรกิจขายรถมือสอง ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมารถมือสองที่เค้าขายก็เอามาจอดในซอยปล่อยให้เน่ายางแตก ก็เลยคาดว่าอาจจะเกิดภาวะไม่ประสบความสำเร็จในเรื่องของการค้าขายหรือเปล่าหรือเครียด แล้วก็มาลงกับเพื่อนบ้าน
ก่อนเรื่องจะถึงตำรวจเคยเจรจากันไหม?
เคยพูดแล้ว และให้พี่สาวคุยกับแม่เขาแล้ว จนกระทั่งตำรวจก็เหมือนได้มีการเรียกคุณแม่เค้าไปแล้ว บอกว่าต้องรับผิดชอบถ้าสมมุติลูกทำความเสียหายอะไรมา คุณแม่ต้องดูแลลูกดี ๆ นะ แต่พอกลับมาทุกอย่างเหมือนเดิม และไม่ใช่มาวันละครั้งมาทุกครั้งหลังอาหาร คือเราก็อยากให้เขาหาย อยากให้เค้าคุยดีๆ เพราะเห็นว่าเป็นเพื่อนบ้านกัน ถ้าไม่ไหวก็ไปรักษาและกลับมาเป็นเพื่อนบ้านกันได้
เคยไปแจ้งความด้วยใช่ไหม?
เคยไปแจ้งความ แล้วเค้าก็ต้องเสียค่าปรับ ซึ่งตอนแรกเราตั้งแต่จะสู้ และหลายคนบอกว่าทำไมต้องย้ายออก แต่เราคิดว่าทำไมต้องออก หรือว่าคนถูกจะต้องเป็นฝั่งที่ยอมแพ้ เราก็คิดว่าเราจะไม่ยอม แต่ตำรวจบอกว่าความผิดที่เค้าทำเวลาขึ้นศาลมันจะถูกปรับแค่ 500 เอง แต่เราก็คิดว่าปรับ 500 มันเข้าเราหรือเข้ารัฐ ซึ่งมันดูเหมือนจะเป็นเรื่องขำ แต่คนที่ไปอยู่ในพื้นที่ จริงอยู่ในภาวะแบบนั้นมันเครียด และล่าสุดคุณแม่เค้าก็ไม่ได้ยอมรับว่าลูกเค้าทำ แถมยังมาโทษเราอีก ว่าบ้านเราทำของใส่เค้า เราก็ยิ่งแบบว่าไปไกลเลยไปถึงดาวอังคารเลย คือถ้ามันเป็นเรื่องที่เราสัมผัสได้มันว่าไปอย่าง มันเป็นเหตุผลที่เหนือจินตนาการ เราไม่รู้ว่ามาถึงจุดนี้ได้ยังไง เราก็คิดว่าจะทำไปเพื่ออะไรเค้าก็ไม่ได้หล่อรวยสวยเก๋ มันไม่ได้มีเหตุจำเป็น ดังนั้นก็ต้องหาใครคนหนึ่งปรับทัศนคติเขา
ล่าสุดมีนักข่าวมาทำข่าว เกิดอะไรขึ้นในตอนนั้น?
มีนักข่าวหลายคนมา พอนักข่าวมาเค้าก็โดนด่าโดนเหวี่ยงโดนเทฉี่ จนเราก็เหนื่อยใจ แถมยังออกมามีปากมีเสียงกับนักข่าวทุกสังกัด
ในเมื่อไม่หนีเราหักห้ามใจยังไง?
เราก็อ่านคอมเม้นต์ที่บอกว่าเขวี้ยงมากเขวี้นงกลับไม่โกง ซึ่งเราก็คิดนะว่าอยากจะตอบโต้ แต่พี่สาวบอกว่าอย่าไปทะเลาะกับเขาเลย และหลานก็กำลังจะเข้าวงการบันเทิงด้วย ไม่อยากจะให้มีปัญหากัน ถ้ามันเกิดมีความรุนแรงมีความสูญเสียมันจะไม่โอเค ซึ่งตอนนี้เราก็พยายามปรับอารมณ์ใหม่ และคิดว่าจะย้ายออกไปอยู่ข้างนอก แต่ยังไม่ขายบ้าน