The Truman show เป็นหนังที่รู้จักเพราะคุณพี่เต๋อ นวพลแนะนำมา สุดยอดจริงๆ ยกให้เป็นอีกหนึ่งความประทับใจในโลกภาพยนตร์อีกเรื่องนึงเลย หนังเล่าถึงชีวิตของ ‘ทรูแมน’ ชายหนุ่มขายประกันในเมืองเล็กๆ เค้าใช้ชีวิตอย่างมีความสุขตั้งแต่เกิดยันโตอายุ 30 ขวบ แต่แล้ววันหนึ่งก็เกิดเรื่องราวน่าสงสัยขึ้นรอบตัวเขา มันทำให้เขารู้สึกว่า หรือชีวิตของตัวเองกำลังถูกหลอกลวงอยู่กันแน่อยากจะบอกว่าพล็อตมันเจ๋งมาก มันอาจเว่อร์ไปนิดแต่คือเจ๋งจริงๆ ใครจะไปคิดว่าจะเอาชีวิตคนๆ นึงตั้งแต่เด็กมาทำเป็นเรียลลิตี้โชว์แบบนี้ แล้วคือทุกอย่างในเรื่องมันโคตรจะเป็นทีวีโชว์เลยพวกคุณ ทั้งการแสดงของตัวทรูแมนและตัวประกอบทั้งหลาย ทั้งมุมกล้องเอย บทพูดเอย การแทรกซีนโฆษณาต่างๆ เอย มันทำให้เรารู้สึกว่านี่มันคือเรียลลิตี้เรื่องนึงจริงๆสิ่งที่ชอบมากๆ คือจิม แครี่ เรื่องนี้คือเล่นดีมากจริงๆ เป็นทรูแมนที่แท้ทรู ด้วยคาแรกเตอร์ที่จะขายความคอเมดี้ของเค้ามันทำให้สิ่งที่ออกมามันใช่ในสิ่งที่คนดูทรูแมนต้องการอ่ะทุกคน ไม่รู้จะพูดยังไงแต่เราชอบมาก อีกสิ่งที่ชอบคือโมเม้นเซ็ตฉาก เซ็ตซีน เซ็ตมุมกล้องต่างๆ จะเรียกว่าพีคดีมั้ยก็ไม่รู้ แต่มันทำให้ความเป็น the Truman show มันเจ๋งขึ่นไปอีกอ่ะ โดยเฉพาะโมเม้นที่บอกให้ทุกคนกลับไปยืนที่จุดแรกของตัวเอง พอสั่งเริ่มปุ๊บก็ฉีกยิ้มเดินตามบทที่เซ็ตไว้ เออเท่ดี55555555ตอนจบแอบมีน้ำตาปริ่มเหมือนกันนะ ซึ่งเรารู้สึกว่าหนังเองก็ทิ้งท้ายอะไรไว้ให้คนดูอย่างเราคิดเยอะเหมือนกัน อย่างเช่นเรื่องของการหลอกลวง การกล้าที่จะหลุดออกจากชีวิตที่ปกติ ออกจากคอมฟอร์ทโซน และความบันเทิงในการเอาใจช่วยทรูแมนน่ะนะ 8/10Just so into everything ติดตามรีวิวภาพยนตร์ได้ ที่นี่ขอบคุณภาพประกอบจาก IMDB ดูจบแล้วมาคุยกัน -จะบอกว่าเป็นหนังคอมเมดี้ก็พูดได้ไม่เต็มปากเนอะ แบบเป็นเราอ่ะ รู้ตัวว่าโดนหลอกมาตลอดชีวิต ทุกอย่างในชีวิตโดนเซ็ตเอาไว้แบบนี้ มันคงอึดอัดจนแทบหายใจไม่ออกแน่ๆ แอบจุกและเจ็บอยู่ระดับนึงเลย -โมเม้นที่พระจันทร์กลายเป็นสปอตไลท์นี่คืออื้อหือเลย จี๊ดมาก แบบขนาดพระจันทร์ดวงโตหรือว่าพระอาทิตย์ยามเช้ามันยังเป็นเรื่องหลอกลวง -ตอนจบคือปริ่มๆ เป็นอารมณ์ที่แบบเราภูมิใจในตัวทรูแมน เค้ากล้าที่จะเผชิญโลกที่เค้าสามารถเลือกทางเดินของตัวเองได้ และเราก็เชื่อว่าคนที่ติดตามดูเค้ามาตลอด 30 ปีอ่ะ ก็คงดีใจที่ทรูแมนเลือกทางนั้น ดีใจมากที่เค้าจะได้หลุดออกจากโลกที่เต็มไปด้วยคำหลอกลวงนี่แล้ว