ถึงแม้ Pride Month ปีนี้กำลังจะผ่านไปแล้ว แต่ความอิน ความฟินใน Equality ยังไม่จบง่ายๆ ใครที่ยังอินกับเดือนแห่งความเท่าเทียมอยู่ อยากให้ลองเปิดใจให้กว้าง แล้วไปสนุกกัน กับ 7 ภาพยนตร์ และซีรีส์น่าดู ที่เรายกมาเสิร์ฟถึงที่นี่แล้ว 1. Heartstopper ซีรีส์จากค่าย Netflix ความยาว 8 ตอน ที่พาเราดำดิ่งไปกับความอบอุ่น ของตัวละครเอก ที่จะทำให้หลงรัก โดยไม่จำกัดแต่คู่รัก LGBTQ+ ถึงจะดูสนุกนะ ใครๆก็ดูสนุก รับประกันเลย เป็นซีรีส์ที่ไม่หนักเกินไป ฟีลอบอุ่นหัวใจ 2.Call Me By Your Name ภาพยนตร์ที่แม้จะเจ็บปวด แต่สวยงาม ดั่งเรื่องเล่าที่ว่าเดิมทีมนุษย์ถูกสร้างให้มีร่างกายติดกัน มนุษย์เราจึงมี 4 แขน 4 ขา และต่อมามนุษย์ได้ทำเรื่องร้าย จึงถูกโดนซุสผ่าร่างออกจากกัน เพื่อลงโทษให้ค้นหาอีกครึ่งหนึ่งที่หาย นอกจากพร็อตเรื่องที่คิดมาเป็นอย่างดีแล้ว เพลงประกอบ และMood&Tone ก็ดีสุดๆ 3. รักแห่งสยาม กลับมาสู่ภาพยนตร์ของบ้านเรากันบ้าง กับภาพยนตร์สุดคลาสสิคอีกเรื่อง อย่าง “รักแห่งสยาม” เนื้อเรื่องดำเนินไปแบบช้าๆ ค่อยๆอธิบายเหตุการณ์และความสัมพันธ์ของตัวเอกในเรื่องไปที่ละนิด เผลออีกทีก็อิน เอาใจช่วยไปซะละ นักแสดงนำในเรื่องแต่ละคนก็ไม่ธรรมดา แถมเพลงก็ยังเพาะมากๆอีกด้วย เรียกว่าใครไม่ดูถือว่าพลาด 4. Love, Simon ภาพยนตร์ที่ถูกสร้างมาจากนิยาย Simon vs the Homo Sapiens Agenda เป็นเรื่องราวของเด็กหนุ่ม ชื่อไซม่อน ถูกต้องปิดบังตัวตนทางเพศของตัวเองจากสังคม ซึ่งความลับนี้มีเพียงเพื่อนลับๆทางออนไลน์เท่านั้นที่รู้ ระหว่างดูก็รู้สึกเหมือนเป็นเพื่อนลับคนนั้นของไซม่อน ไซม่อนจะก้าวข้ามขนบของสังคมยังไงลองไปติดตามดู ไม่ผิดหวังแน่นอน 5. Strange World ภาพยนตร์อนิเมชั่นจากค่าย Disney เป็นเรื่องราวจากผจญภัยของครอบครัวเยเกอร์ ที่แม้ประเด็น LGBTQ+ จะไม่ได้ชัดเจนมากนัก แต่ก็มีแอบสอดแทรกอยู่เล็กๆ ขอบอกว่าเรื่องนี้เนื้อหาสนุก ภาพ โทนสีสวย 6. XO, Kitty ซีรีส์เรื่องใหม่จากค่าย Netflix เป็นซีรีส์ความรัก วัยรุ่น วัยเรียน คราวมีเป็นเรื่องราวของน้องสาวของบ้านจากเรื่อง To all the boys i've loved before ที่เคยเป็นที่ชื่นชอบมาแล้ว ซีรีส์เรื่องนี้สอดแทรกความเท่าเทียมในหลายๆเรื่อง ทั้งสีผิว เชื้อชาติ และเพศ สนับสนุนความเท่าเทียมแบบจัดเต็ม 7. What did You Eat yesterday? ซีรีส์ฟีลกู้ดที่ตอนนี้สามารถชมได้ใน Netflix ที่กระแสดีจนมีถึง 2 ซีซั่นแล้วน้า เป็นเรื่องราวของคู่รักชาย-ชาย จากประเทศญี่ปุ่น จะบอกว่าเรื่องนี้เคยมีแบบมังงะมาก่อน ส่วนตัวเราคิดว่าเรื่องนี้สะท้อนความรักแบบเรียบง่าย ธรรมดาของในชีวิตคู่ได้ดี ดูแล้วรู้สึกอบอุ่นหัวใจสุดๆ เรื่องภาพหากใครชื่นชอบประเทศญี่ปุ่นต้องถูกใจแน่นอน สุดท้ายอยากบอกว่า “ความรักคือความรัก” ไม่มีเพศ ไม่มีถูกผิด ความรักคือความเคารพในกันและกัน และความเท่าเทียม เราเป็นหนึ่งคนที่สนับสนุนความเท่าเทียมอย่างสุดใจเลย "Love is Love" เครดิตภาพทั้งหมด : Mamaunicorn จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !