ย้อนกลับไปเมื่อหลายร้อยล้านปีก่อน โลกของเราเคยเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของ ไดโนเสาร์ (Dinosaur) สิ่งมีชีวิตขนาดมหึมาที่ครองพื้นพิภพในช่วงมหายุค มีโซโซอิก (Mesozoic Era) ที่กินเวลาอย่างยาวนานมาตั้งแต่ ยุคไทรแอสซิก (Triassic), ยุคจูแรสซิก (Jurassic) และจบลงด้วย ยุคครีเทเชียส (Cretaceous) ซึ่งการดำรงอยู่ของพวกมันถือเป็นหนึ่งในความมหัศจรรย์แห่งวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต ก่อนที่โชคชะตาจะนำพาไปสู่เหตุการณ์การสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ของโลกจากการพุ่งชนของอุกกาบาต ส่งผลให้ยุคของไดโนเสาร์ต้องปิดฉากลงอย่างรวดเร็ว และทำให้เราไม่มีวันได้เห็นสิ่งมีชีวิตอันน่ามหัศจรรย์ใจนี้แบบตัวเป็น ๆ เหลือทิ้งไว้แต่เพียงเศษซาก ฟอสซิล (Fossil) ที่กลายมาเป็นหลักฐานในอดีตให้เราได้ศึกษาและรับรู้ว่า "ในช่วงเวลาหนึ่ง พวกมันเคยครองโลก" รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! ด้วยความมหัศจรรย์และความนิยมของเหล่าไดโนเสาร์ที่อยู่เหนือกาลเวลา นักเขียนชื่อดัง Michael Crichton จึงได้ริเริ่มสร้างสรรค์เรื่องราวการผจญภัยสุดเหนือจินตนาการ ที่ต่อมาได้กลายมาเป็นนวนิยายวิทยาศาสตร์ชื่อดังระดับตำนานของเขาอย่าง 'Jurassic Park' ซึ่งตีพิมพ์เป็นครั้งแรกในปี 1990 ผลงานที่สะท้อนให้เห็นถึงความล้ำหน้าของเทคโนโลยีและเป็นสิ่งเตือนใจของผลกระทบอันน่ากลัวที่อาจเกิดขึ้นจากความต้องการของมนุษย์ที่อยากจะควบคุมธรรมชาติ โดยเรื่องราวใน Jurassic Park ได้กล่าวถึง "สวนสนุกยุคใหม่" ที่ใช้เทคโนโลยีการตัดแต่งพันธุกรรมและการเพาะพันธุ์ เพื่อชุบชีวิตเหล่าสิ่งมีชีวิตดึกดำบรรพ์ที่สูญพันธุ์ไปแล้วบนโลกให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง แต่เมื่อมนุษย์พยายามที่จะเล่นบทบาทของพระเจ้า พร้อมทั้งเข้าท้าทายกฎแห่งธรรมชาติ มันอาจนำไปสู่ผลลัพธ์อันร้ายแรงที่เราไม่อาจคาดเดาได้ ซึ่งแรกเริ่มเดิมทีแล้ว ผู้เขียนอย่าง Michael Crichton ตั้งใจให้ Jurassic Park เป็นบทภาพยนตร์เรื่องใหม่ของเขา แต่เมื่อพิจารณาแล้ว เขากลับเลือกนำเสนอในรูปแบบนวนิยายแทน เพราะ เขามองว่าเรื่องราวใน Jurassic Park มีราคาที่สูงเกินกว่าจะดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ได้ในช่วงเวลานั้น จนเมื่อนวนิยาย Jurassic Park ได้รับรู้มาถึงพ่อมดแห่งโลกภาพยนตร์อย่าง Steven Spielberg ผู้กำกับมากความสามารถและวิสัยทัศน์ เจ้าของผลงานระดับตำนานในหลากหลายแนว ตั้งแต่หนังฉลามขวัญประสาท Jaws (1975), ภาพยนตร์ผจญภัยล่าขุมทรัพย์สุดขอบฟ้า Raiders of the Lost Ark (1981), เรื่องราวแห่งมิตรภาพระหว่างเด็กชายกับมนุษย์ต่างดาว E.T. the Extra-Terrestrial (1982), ภาพยนตร์อิงประวัติศาสตร์สุดดราม่า Schindler's List (1993) และล่าสุดกับภาพยนตร์เพลงสุดคลาสสิก West Side Story (2021) ซึ่งด้วยศักยภาพของเรื่องราวการผจญภัยสุดทรงพลัง พร้อมกับเทคโนโลยีที่ล้ำหน้ามากขึ้นในขณะนั้น Steven Spielberg จึงตัดสินใจนำ Jurassic Park มาสร้างเป็นภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์จนกลายเป็นปรากฏการณ์ที่เปลี่ยนโฉมวงการหนังไซไฟไปตลอดกาล และขยายวงกว้างสู่แฟรนไชส์ผจญภัยโลกไดโนเสาร์ที่เรารู้จักกันมาจนถึงทุกวันนี้ เพื่อเป็นการต้อนรับการกลับมาครั้งใหม่ของแฟรนไชส์ไดโนเสาร์สุดทะเยอทะยาน ทางผู้เขียนจึงขอหยิบยกเรื่องราวการผจญภัยสุดคาดคิดบนเกาะสุดห่างไกลของไตรภาค Jurassic Park มาแนะนำให้รู้กันกับ JURASSIC PARK TRILOGY: การผจญภัยสุดยิ่งใหญ่จากโลกดึกดำบรรพ์ Jurassic Park จูราสสิค พาร์ค กำเนิดใหม่ไดโนเสาร์ (1993) "Welcome to Jurassic Park!" (ขอต้อนรับสู่จูราสสิค พาร์ค!) - John Hammond - Jurassic Park จูราสสิค พาร์ค กำเนิดใหม่ไดโนเสาร์ ภาพยนตร์แนวผจญภัยวิทยาศาสตร์จากผู้กำกับพ่อมดแห่งฮอลลีวูด Steven Spielberg ดัดแปลงมาจากนวนิยายชื่อก้องโลกของ Michael Crichton เล่าเรื่องราวการผจญภัยสุดยิ่งใหญ่ที่ต้องใช้เวลาถึง 65 ล้านปีกว่าจะเกิดขึ้นจริง! เมื่อมหาเศรษฐี John Hammond (Richard Attenborough) ได้สร้าง "สวนสนุกยุคใหม่" ที่เต็มไปด้วยเหล่าไดโนเสาร์ที่ถูกโคลนนิ่งขึ้นมาผ่านเทคโนโลยีอันล้ำสมัยของมนุษย์บนเกาะสมมติ Isla Nublar อันห่างไกล นอกชายฝั่งคอสตาริกา เพื่อให้มั่นใจว่าทุกอย่างปลอดภัยก่อนเปิดให้บริการสวนสนุกแห่งนี้ เขาจึงได้เชิญผู้เชี่ยวชาญมาร่วมตรวจสอบ ซึ่งรวมไปถึงนักบรรพชีวินวิทยา Dr. Alan Grant (Sam Neill), นักบรรพฤษศาสตร์ Dr. Ellie Sattler (Laura Dern) และนักคณิตศาสตร์และทฤษฏีความโกลาหล Dr. Ian Malcolm (Jeff Goldblum) แต่แล้วทุกอย่างกลับพลิกผัน เมื่อระบบความปลอดภัยของสวนสนุกหยุดทำงาน ทำให้เหล่าไดโนเสาร์หลุดออกมาอย่างอิสระ จากการท่องเที่ยวชมสวนสนุกแสนตื่นตา ต้องมากลายเป็นฝันร้ายแห่งการเอาชีวิตรอดในโลกยุคดึกดำบรรพ์ที่ไม่เคยมีมนุษย์คนใดคาดคิดมาก่อน กำเนิดใหม่ของยุคไดโนเสาร์ | 'Jurassic Park' Delivers An Adventure Like You've Never Seen Before การมาถึงของ Jurassic Park ถือเป็นก้าวสำคัญของวงการภาพยนตร์ที่สามารถรังสรรค์ความมหัศจรรย์ของเหล่าไดโนเสาร์ในรูปแบบที่สมเหตุสมผลและน่าตื่นตาตื่นใจที่สุด ซึ่งหนึ่งในองค์ประกอบที่ทำให้ Jurassic Park ประสบความสำเร็จและได้รับคำชื่นชมทั่วโลก ก็คือ แนวคิดทางวิทยาศาสตร์ที่เต็มไปด้วยจินตนาการ โดยเฉพาะการโคลนนิ่งไดโนเสาร์จาก DNA ที่สกัดได้จากยุงยุคดึกดำบรรพ์ในอำพัน ซึ่งนับเป็นไอเดียที่น่าทึ่ง และแสดงให้เห็นถึงความล้ำหน้าของเทคโนโลยีที่กำลังพัฒนาต่อไปอย่างเรื่อย ๆ รวมไปถึงการนำเสนอแง่คิดทางจริยธรรม อันว่าด้วย การแทรกแซงของมนุษย์ในธรรมชาติ และหายนะที่เกิดขึ้นจากความทะเยอทะยานในการควบคุมสิ่งที่มนุษย์ยังไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ ด้วยเรื่องราวที่ผสมผสานระหว่างการผจญภัยแนวไซไฟที่น่าตื่นเต้น กับการเอาชีวิตรอดที่ลุ้นระทึกและน่ากลัว ทำให้ Jurassic Park ไม่เพียงแค่สร้างประสบการณ์ที่ตรึงผู้ชมให้ลุ้นไปกับทุกฉาก แต่ยังกลายเป็นผลงานชิ้นเอกด้านภาพยนตร์ที่สร้างปรากฎการณ์ต่อวัฒนธรรมไปแล้วมากมายทั่วโลก เหล่า 'ไดโนเสาร์' มีชีวิต | Magic Brings Dinosaurs To Life นอกเหนือจากเนื้อเรื่องที่เข้มข้น พร้อมกับวิสัยทัศน์อันก้าวไกลของ Steven Spielberg อีกหนึ่งองค์ประกอบที่ทำให้ Jurassic Park โดดเด่นอย่างยิ่งในสมัยนั้น คือ การใช้เทคนิคพิเศษและอนิเมโทรนิกส์ล้ำสมัย โดยทีมงานมือฉมังอย่าง Industrial Light & Magic (ILM) และ Stan Winston Studio ที่ทั้งสองช่วยสร้างสรรค์เหล่าไดโนเสาร์จากนวนิยายของ Michael Crichton ให้ออกมาดูสมจริงราวกับมีชีวิต ซึ่งหนึ่งในฉากระทึกขวัญที่โดดเด่นของ Jurassic Park ก็คงหนีไม่พ้นฉากอาละวาดของ Tyrannosaurus rex (T. Rex) นักล่าผู้ยิ่งใหญ่และทรงพลังจากยุคดึกดำบรรพ์ ที่ถ่ายทอดทั้งความดุร้ายและความอันตรายได้อย่างน่าทึ่งและสมจริงเป็นอย่างมาก ในขณะที่อีกฉากหนึ่งที่มีความระทึกใจไม่แพ้กัน คือ ฉากไล่ล่าของ Velociraptors นักล่าผู้ว่องไวและฉลาดล้ำ การเคลื่อนไหวของเหล่าแรปเตอร์ที่ดูมีชีวิตจิตใจ และเปี่ยมไปด้วยความน่ากลัวนั้น ทำให้ฉากไล่ล่าหลบหนีจากพวกมันเป็นอะไรที่ดูแล้วรู้สึกตึงเครียดและกดดันแทบตลอดเวลา ตัวละครนำจากหน้าหนังสือ | The Characters From The Novel Begins Their Journey In Live-Action ตัวละครที่โดดเด่นจากหน้านวนิยายของ Michael Crichton ก็ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Jurassic Park เป็นที่น่าจดจำ โดยที่บางตัวละครก็ถูกปรับให้มีมิติที่แตกต่างจากหน้าหนังสือ เริ่มกันที่นักแสดงหนุ่ม Sam Neill (จาก Sleeping Dogs) ในบทบาท Dr. Alan Grant นักบรรพชีวินวิทยาผู้เชี่ยวชาญด้านไดโนเสาร์ การแสดงของเขาสามารถถ่ายทอดความเป็นนักวิทยาศาสตร์ผู้จริงจัง แต่ในขณะเดียวกันก็เผยให้เห็นถึงพัฒนาการที่ละเอียดอ่อน จากที่ตอนแรกไม่ชอบเด็ก ๆ สู่ความสัมพันธ์อันอบอุ่นที่ค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นระหว่างเขากับเด็กเล็กทั้งสองอย่าง Lex (Ariana Richards) และ Tim (Joseph Mazzello) ซึ่งเป็นอะไรที่น่าประทับใจและสวยงามเอามาก ๆ ถัดมาคือ นักแสดงสาว Laura Dern (จาก Wild at Heart) กับบทบาท Dr. Ellie Sattler นักบรรพฤษศาสตร์ผู้กล้าหาญ ตัวละครของเธอแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งภายใน และไหวพริบที่ดี นอกจากนี้ เคมีระหว่าง Laura Dern และ Sam Neill ที่ออกมาเบา ๆ แต่ชวนอมยิ้มไม่เบา ทำให้ความสัมพันธ์ของสองตัวละครนำนี้มีมิติที่อบอุ่นและเพิ่มเสน่ห์ให้กับเนื้อเรื่อง อีกหนึ่งตัวละครที่มีเอกลักษณ์เป็นอย่างมาก คือ Jeff Goldblum (จาก Independence Day) ในบทบาท Dr. Ian Malcolm นักคณิตศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญด้านทฤษฎีความโกลาหล ซึ่งมาพร้อมเสน่ห์และอารมณ์ขันที่โดดเด่น ด้วยคำพูดที่เฉียบคมและแฝงปรัชญาทางจริยธรรมของเขาไม่เพียงแค่เพิ่มมิติให้กับเรื่องราว แต่ยังทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในตัวละครที่น่าจดจำที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย ในขณะที่นักแสดงรุ่นใหญ่ Richard Attenborough (จาก Miracle on 34th Street) มารับบทเป็นตัวละครสำคัญ John Hammond มหาเศรษฐีผู้สร้างสวนสนุก Jurassic Park ตัวละครของเขามีความกระตือรือร้นเป็นอย่างมากต่อการสร้างสรรค์สิ่งมหัศจรรย์ แต่นั่นก็ทำให้เขาไม่อาจได้ทันระวังถึงหายนะที่ไม่คาดคิดจากการกระทำของตน การแสดงของ Richard Attenborough ทำให้ Hammond ดูเป็นนักสร้างฝันที่เต็มไปด้วยความหลงใหลมากมาย แต่ก็ไม่วาย ต้องเผชิญหน้ากับความจริงอันโหดร้ายของสิ่งที่เขาได้สร้างขึ้นมา https://www.youtube.com/watch?v=Wfv5jdW__N0 โดยสรุป Jurassic Park จูราสสิค พาร์ค กำเนิดใหม่ไดโนเสาร์ คือ จุดเริ่มต้นแห่งตำนานภาพยนตร์ไดโนเสาร์ สร้างสรรค์โดยผู้กำกับ Steven Spielberg ผู้ตัดสินใจนำนวนิยายที่สุดของการผจญภัยของ Michael Crichton มาดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ ด้วยการผสมผสานการผจญภัยที่น่าตื่นเต้น ตัวละครสุดโดดเด่น และเหล่าไดโนเสาร์ที่โคตรสมจริง จึงทำให้ Jurassic Park เป็นผลงานสำคัญที่สามารถนำพาผู้ชมไปสัมผัสกับความมหัศจรรย์จากโลก 65 ล้านปีก่อนได้อย่างน่าทึ่ง The Lost World: Jurassic Park เดอะ ลอสต์ เวิล์ด จูราสสิค พาร์ค (1997) "Now, it's only a matter of time before this lost world is found and pillaged." (ตอนนี้ เหลือเพียงเวลาเท่านั้นก่อนที่โลกอันสาบสูญนี้จะถูกค้นพบและปล้นสะดม) - John Hammond - The Lost World: Jurassic Park ภาคต่อภาพยนตร์การผจญภัยสุดยิ่งใหญ่ในโลกดึกดำบรรพ์จากผู้กำกับ Steven Spielberg ดัดแปลงมาจากนวนิยายเล่มต่อจาก 'Jurassic Park' อย่าง 'The Lost World' ของ Michael Crichton เล่าเรื่องราว 4 ปีให้หลังจากเหตุการณ์ในภาคแรก เมื่อมีการค้นพบว่าไดโนเสาร์ยังคงมีชีวิตอยู่บนเกาะ Isla Sorna ที่ถูกปล่อยทิ้งร้าง ซึ่งเป็นสถานที่ทดลองของบริษัท InGen ใช้ทำการโคลนนิ่งไดโนเสาร์ ก่อนที่จะเคลื่อนย้ายพวกมันไปยังสวนสนุก ด้วยความตั้งใจที่จะปกป้องสิ่งมีชีวิตเหล่านี้จากการถูกนำไปใช้ประโยชน์ John Hammond (Richard Attenborough) จึงได้ส่งทีมสำรวจไปยังเกาะเพื่อศึกษาพวกมัน นำโดย Dr. Ian Malcolm (Jeff Goldblum) นักคณิตศาสตร์และทฤษฏีความโกลาหล และ Dr. Sarah Harding (Julianne Moore) นักบรรพชีวินวิทยาด้านพฤติกรรม ในขณะเดียวกัน InGen ภายใต้การนำของผู้คุมคนใหม่ก็ได้ส่งทีมปฏิบัติการชุดใหม่เพื่อวางแผนจับไดโนเสาร์ไปจัดแสดงในสวนสนุกแห่งใหม่ที่ซานดิเอโก นำไปสู่การเผชิญหน้าระหว่างสองกลุ่มที่ต้องร่วมมือกันเอาชีวิตรอดจากไดโนเสาร์สุดดุร้ายบนเกาะที่เป็นดั่งโลกดึกดำบรรพ์ที่สูญหายไปกว่า 65 ล้านปี เอาชีวิตรอดบนเกาะโลกล้านปี | The Lost World Is About To Be Revealed หลังจากที่ Jurassic Park (1993) ประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลายพร้อมสร้างปรากฎการณ์ระดับโลก ผู้กำกับ Steven Spielberg ตัดสินใจกลับมาสานต่อเรื่องราวการผจญภัยในโลกดึกดำบรรพ์อีกครั้งใน The Lost World: Jurassic Park โดยอิงมาจากนวนิยายอีกเล่มของ Michael Crichton ซึ่งในขณะที่ภาพยนตร์ภาคแรกนำเสนอความมหัศจรรย์และความน่ากลัวของไดโนเสาร์ภายใต้ขอบรั้วสวนสนุกที่มนุษย์สร้างขึ้นบนเกาะห่างไกล Isla Nublar การกลับมาใน The Lost World: Jurassic Park ได้พาผู้ชมไปสัมผัสกับดินแดนที่ไม่มีรั้วกั้นบนเกาะแห่งใหม่อย่าง Isla Sorna แหล่งโคลนนิ่งและเพาะพันธ์ุไดโนเสาร์ก่อนที่จะถูกปล่อยทิ้งร้างเอาไว้ จนเมื่อเวลาผ่านไป ทั้งเกาะก็ได้กลายเป็นอาณาจักรโลกดึกดำบรรพ์ของเหล่าไดโนเสาร์ เมื่อมนุษย์ต้องเผชิญหน้ากับสิ่งมีชีวิตขนาดยักษ์ในธรรมชาติที่ไร้การควบคุม นั่นจึงทำให้เรื่องราวใน The Lost World: Jurassic Park เป็นภารกิจการเอาชีวิตรอดที่เต็มไปด้วยอันตรายและมีโทนอันมืดมนและเข้มข้นมากกว่าเดิม ซึ่งส่วนหนึ่งเห็นได้จากการนำเสนอฉากแอ็กชั่นที่ยิ่งใหญ่และระทึกใจ โดยเฉพาะฉากที่ T. Rex อาละวาด ซึ่งถือเป็นหนึ่งในฉากสำคัญที่สร้างความระทึกขวัญต่อเรื่องราวได้เป็นอย่างมากเลยทีเดียว นอกจากนี้ The Lost World: Jurassic Park ยังเป็นครั้งแรกที่ไดโนเสาร์มีชีวิตได้บุกเข้าสู่แผ่นดินใหญ่ของมนุษย์ นำไปสู่แนวคิดใหม่ที่ผลักดันให้แฟรนไชส์ขยายโลกที่ไร้ขอบเขตอย่างแท้จริง กับการตั้งคำถามว่า "จะเป็นอย่างไรเมื่อมนุษย์และไดโนเสาร์ต้องมาอาศัยอยู่ร่วมกัน" ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นแรงบันดาลใจสำคัญที่ถูกนำมาใช้ต่อยอดในไตรภาคใหม่ของแฟรนไชส์ นำทีมใหม่โดยนักคณิตศาสตร์ | Chaos Is Right! แม้ว่าจะไม่มีสองตัวละครนำจากภาคแรกอย่าง Dr. Alan Grant และ Dr. Ellie Sattler แต่หนึ่งในตัวละครที่เป็นที่โดดเด่นที่สุดจาก Jurassic Park อย่าง Dr. Ian Malcolm นักคณิตศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญด้านทฤษฎีความโกลาหล ก็ได้กลับมาอีกครั้งในภาคต่อ The Lost World: Jurassic Park พร้อมได้นักแสดง Jeff Goldblum กลับมารับบทเดิมอีกครั้ง การแสดงของเขายังคงเป็นจุดเด่นและเสน่ห์ของเรื่องด้วยบทบาทที่จริงจังมากขึ้น และอารมณ์ขันที่มาพร้อมกับคำคมที่เฉียบขาดและเสียดสีเหมือนเคย กับความพยายามที่คอยบอกเพื่อนร่วมทีมคนอื่น ๆ ตลอดเวลาว่า "ทำไมการเดินทางมายังเกาะดึกดำบรรพ์นี้ถึงเป็นเรื่องที่แย่" และถึงแม้ว่าการพัฒนาตัวละครสมทบใน The Lost World: Jurassic Park จะไม่ได้น่าจดจำหรือดึงดูดใจมากเท่าภาคแรก แต่เคมีระหว่าง Dr. Ian Malcolm และ Dr. Sarah Harding ตัวละครนักบรรพชีวินวิทยา ผู้ที่มีความมุ่งมั่นและกล้าหาญ ซึ่งรับบทโดย Julianne Moore (จาก Nine Months) ก็เป็นหนึ่งสิ่งที่ทำให้ภายใต้เรื่องราวการเอาชีวิตรอดก็ยังคงมีบรรยากาศอันน่าติดตาม https://www.youtube.com/watch?v=vtfwgaHD5_w โดยสรุป The Lost World: Jurassic Park เดอะ ลอสต์ เวิล์ด จูราสสิค พาร์ค คือ ภาคต่อของภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์สุดยิ่งใหญ่กับการผจญภัยครั้งใหม่บนโลกดึกดำบรรพ์ที่ยังคงมอบความตื่นเต้นและความมหัศจรรย์ของเหล่าไดโนเสาร์ได้อยู่หมัด แม้ว่าอาจจะไม่ได้ถึงขั้นดีเยี่ยมเท่าภาคแรก แต่ด้วยฉากแอ็กชั่นที่เข้มข้นและโทนอันมืดมน พร้อมเผชิญหน้ากับไดโนเสาร์ที่ดุร้าย ก็ทำให้ The Lost World: Jurassic Park เป็นภาคต่อที่มีเอกลักษณ์และเสน่ห์ที่น่าสนใจในแบบของตัวเอง Jurassic Park III จูราสสิค พาร์ค 3 (2001) "You probably won't get off this island alive." (คุณคงไม่สามารถออกจากเกาะนี้ได้แบบยังมีชีวิตอยู่) - Alan Grant - หวนคืนสู่โลกของไดโนเสาร์ดึกดำบรรพ์อันน่าทึ่งและดุร้ายใน Jurassic Park III ภาคต่อของการผจญภัยสุดยิ่งใหญ่ อ้างอิงจากแนวคิดและตัวละครของ Michael Crichton นักเขียนนวนิยายผู้บุกเบิก Jurassic Park และ The Lost World สู่เรื่องราวอันระทึกขวัญที่จะพาผู้ชมเข้าสู่การเผชิญหน้ากับสิ่งมีชีวิตยุคดึกดำบรรพ์อย่างใกล้ชิด เมื่อนักบรรพชีวินวิทยาผู้เชี่ยวชาญด้านไดโนเสาร์ Dr. Alan Grant (Sam Neill) ได้ถูกว่าจ้างโดยสองสามีภรรยามหาเศรษฐีให้เป็นไกด์พาบินสำรวจ Isla Sorna เกาะร้างซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ไดโนเสาร์ของบริษัท InGen แต่สิ่งที่ควรเป็นการเดินทางธรรมดากลับกลายเป็นฝันร้าย เมื่อจุดประสงค์ที่แท้จริงของการเดินทางในครั้งนี้ คือ การตามหาลูกชายของพวกเขาที่หายตัวไป และพวกเขาทั้งหมดดันติดอยู่บนเกาะที่เต็มไปด้วยไดโนเสาร์แสนดุร้ายที่ทำให้การเอาชีวิตรอดในครั้งนี้อันตรายมากกว่าครั้งไหน ๆ แอ็กชั่นสุดตื่นตาและไดโนเสาร์ที่ดุร้ายมากกว่าเดิม | New 'Jurassic Park' Is The Most Thriller Action-packed Adventure หลังจากพอใจกับสองภาคแรก ผู้กำกับผู้เบิกทางของแฟรนไชส์อย่าง Steven Spielberg ตัดสินใจส่งไม้ต่อให้กับผู้กำกับคนใหม่เพื่อสร้างสรรค์เรื่องราวบทใหม่ของแฟรนไชส์ โดยหน้าที่นี้ตกเป็นของ Joe Johnston ผู้กำกับจากภาพยนตร์ Jumanji (1995) ที่เข้ามาเติมเต็มการผจญภัยครั้งใหม่บนเกาะดึกดำบรรพ์ใน Jurassic Park III ซึ่งยังมีรสชาติการผจญภัยอันเข้มข้นที่ไม่แพ้สองภาคแรก ในแง่ของการดำเนินเรื่อง Jurassic Park III ใช้แนวทางที่เรียบง่ายและตรงไปตรงมา เมื่อกลุ่มตัวละครหลักได้ถูกส่งไปยังเกาะ Isla Sorna เพื่อตามหาผู้สูญหาย ซึ่งนำไปสู่การต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดจากไดโนเสาร์สุดดุร้าย นั่นจึงทำให้องค์ประกอบที่โดดเด่นที่สุดของ Jurassic Park III คือ ฉากแอ็กชั่นที่เข้มข้นและเร้าใจ พร้อมกับการเผชิญหน้ากับไดโนเสาร์สายพันธุ์ใหม่อย่าง Spinosaurus ไดโนเสาร์กินเนื้อที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยค้นพบมา และ Pteranodon ไดโนเสาร์บินได้อันแสนดุร้ายที่ทำให้ภาพยนตร์ภาคนี้เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความอันตรายที่ชวนลุ้นทุกวินาที อย่างไรก็ตาม หลายเสียงวิจารณ์กลับมองว่า Jurassic Park III ยังขาดเสน่ห์และความลึกซึ้งในด้านเนื้อเรื่องเมื่อเทียบกับภาพยนตร์ภาคแรกที่ทำให้ Jurassic Park กลายเป็นที่น่าจดจำ การกลับมาของตัวละครนำจากภาคแรก | 'Dr. Alan Grant' Is Back, And He's Heading To The Second Island แม้ว่า Jurassic Park III จะไม่ได้ดัดแปลงมาจากนวนิยายเล่มไหนของ Michael Crichton โดยตรง แต่ในเรื่องราวก็ยังคงอ้างอิงมาจากผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ในสองภาคแรกของ Jurassic Park หนึ่งในนั้น คือ การกลับมาของตัวละครเอกจากนวนิยายอย่าง Dr. Alan Grant นักบรรพชีวินวิทยาผู้เชี่ยวชาญด้านไดโนเสาร์ พร้อมได้นักแสดง Sam Neill กลับมารับบทเดิมอีกครั้งจาก Jurassic Park (1993) หลังจากที่ตัวละครนี้ไม่ได้ปรากฎตัวในภาคต่อ The Lost World: Jurassic Park (1997) ซึ่งด้วยบุคลิกที่เฉียบแหลมและความฉลาดในการเอาตัวรอดจากสถานการณ์อันตรายที่เขาถูกดึงเข้ามาอย่างไม่ได้ตั้งใจ ทำให้ตัวละคร Dr. Grant กลายเป็นแรงขับเคลื่อนที่ทำให้การผจญภัยนี้เต็มไปด้วยความระทึกขวัญ แต่ก็แฝงไปด้วยความน่าติดตามและความเพลิดเพลินอย่างไม่คาดคิด และแม้ว่าใน Jurassic Park III ตัวละครสมทบจะไม่ได้รับการพัฒนามากนัก แต่ก็ยังมีตัวละครที่โดดเด่นอย่าง Billy Brennan ผู้ช่วยของ Dr. Grant ซึ่งรับบทโดย Alessandro Nivola (จาก Kraven the Hunter) ตัวละครของเขาเริ่มต้นด้วยความมั่นใจและความกระตือรือร้นอย่างสูง ก่อนที่การเผชิญหน้ากับผลกระทบจากการตัดสินใจของเขา จะทำให้เขากลายเป็นตัวละครที่มีบทบาทสำคัญในการเสริมมิติของเรื่องราวให้มีความน่าสนใจ https://www.youtube.com/watch?v=FBRWNdXpG1g โดยสรุป Jurassic Park III จูราสสิค พาร์ค 3 คือ ภาคต่อการผจญภัยครั้งใหม่ของแฟรนไชส์ Jurassic Park ที่นำพาผู้ชมกลับไปเผชิญหน้ากับการเอาชีวิตรอดบนเกาะดึกดำบรรพ์อีกครั้ง ซึ่งแม้ว่าในแง่ของเนื้อเรื่องและการพัฒนาตัวละครอาจไม่สามารถเทียบเคียงกับความยอดเยี่ยมของสองภาคก่อนหน้าได้ แต่ Jurassic Park III ก็ยังคงเป็นภาพยนตร์ที่มอบความบันเทิงในรูปแบบของฉากแอ็กชันอันเข้มข้นจากเหล่าไดโนเสาร์ชนิดใหม่ที่ดุร้ายมากกว่าเดิม จนนำไปสู่การผจญภัยที่ดูสนุกสนานและเต็มไปด้วยความน่าตื่นเต้น ท้ายที่สุด Jurassic Park คือ ไตรภาคแรกที่เปิดประตูสู่ยุคไดโนเสาร์ในแฟรนไชส์แอ็กชั่นระทึกขวัญระดับตำนานจากโลกล้านปี 'Jurassic Park' ดัดแปลงจากนวนิยายสุดคลาสสิคของ Michael Crichton พร้อมกับวิสัยทัศน์ริเริ่มอันก้าวล้ำจากผู้กำกับ Steven Spielberg ซึ่งไม่เพียงสร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญในโลกภาพยนตร์ไซไฟ-วิทยาศาสตร์ แต่ยังกลายเป็นกระแสทางวัฒนธรรมที่แพร่หลายไปทั่วโลก จนทำให้เรื่องราวการผจญภัยของโลกไดโนเสาร์นี้ยังคงเป็นที่จดจำมาจนถึงทุกวันนี้ และในปีนี้ การผจญภัยในโลกใหม่ของไดโนเสาร์จะกลับมาอีกครั้งใน 'Jurassic World Rebirth จูราสสิค เวิลด์: กำเนิดชีวิตใหม่' จุดเริ่มต้นของยุคใหม่แห่งความมันส์ ความตื่นเต้น และความน่ากลัวที่จะยกระดับไดโนเสาร์สายพันธุ์ใหม่ให้โหดและอันตรายมากขึ้นเป็นเท่าตัว Jurassic Park จูราสสิค พาร์ค กำเนิดใหม่ไดโนเสาร์, The Lost World: Jurassic Park เดอะ ลอสต์ เวิล์ด จูราสสิค พาร์ค และ Jurassic Park III จูราสสิค พาร์ค 3 สามารถรับชมได้แล้ววันนี้ และเตรียมตัวรับชม Jurassic World Rebirth จูราสสิค เวิลด์: กำเนิดชีวิตใหม่ นำแสดงโดย Scarlett Johansson, Mahershala Ali และ Jonathan Bailey กำกับโดย Gareth Edwards วันที่ 2 กรกฎาคมนี้ เตรียมพบกับการผจญภัยสุดเร้าใจที่พร้อมพาผู้ชมดำดิ่งสู่โลกดึกดำบรรพ์อีกครั้ง! บทความที่เกี่ยวข้อง REVIEW! Jurassic World: Dominion (2022) ภาคจบของไดโนเสาร์ที่ดูยิ่งใหญ่ แต่พูดได้ไม่เต็มปาก ขอบคุณข้อมูล รูปภาพและวิดีโอ ภาพปก | ภาพประกอบที่ 1 | ภาพประกอบที่ 3 | ภาพประกอบที่ 4 | ภาพประกอบที่ 5 | ภาพประกอบที่ 6 | ภาพประกอบที่ 7 | ภาพประกอบที่ 8 | ภาพประกอบที่ 9 | ภาพประกอบที่ 10 | ภาพประกอบที่ 11 | ภาพประกอบที่ 12 | ภาพประกอบที่ 13 | ภาพประกอบที่ 14 | ภาพประกอบที่ 15 (ซ้าย, กลาง, ขวา) จาก Official X Jurassic World ภาพประกอบที่ 2 (ซ้าย, ขวา) จาก Official Facebook Michael Crichton คลิป วิดีโอที่ 1 จาก YouTube: Universal Pictures คลิป วิดีโอที่ 2 | วิดีโอที่ 3 จาก YouTube: Universal Pictures All-Access เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !