รีเซต

“ชมพู่” สอนลูกๆ ให้เรียนรู้ชีวิตจากสังคมนอกบ้าน  ชม “แอบิเกล” จำเก่งรักสวยรักงามเป็นพักๆ

“ชมพู่” สอนลูกๆ ให้เรียนรู้ชีวิตจากสังคมนอกบ้าน  ชม “แอบิเกล” จำเก่งรักสวยรักงามเป็นพักๆ
ดาราเดลี่บันเทิง
7 ธันวาคม 2568 ( 22:34 )
1.5K

“ชมพู่” สอนลูกๆ ให้เรียนรู้ชีวิตจากสังคมนอกบ้าน  ชม “แอบิเกล” จำเก่งรักสวยรักงามเป็นพักๆ

             นาทีนี้คู่แม่ลูกซุปตาร์ต้องยกให้กับ “ชมพู่ อารยา” และลูก สาว “แอบิเกล” เพราะออกงานแต่ละทีห้างแตกแฟนๆ ให้การต้อนรับอย่างเหนียวแน่น งานนี้ “แม่ชม” ยังได้อัปเดตเรื่องราวของลูกสาวให้แฟนๆ ได้ฟังกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเลียนแบบแม่ หรือแม้กระทั้งเรื่องที่ต้องเจอที่โรงเรียน

 

            “รักสวยรักงามเป็นแล้วเป็นพักๆ เขามีหลายโหมด บางทีก็หญิงๆ ลุกขึ้นมาทำเหมือนแต่งหน้า คือเขาเลียนแบบเก่งมาก เลียนแบบเหมือนเวลาเขาทำท่าอะไรอย่างนี้มันคือมาก แต่ว่าบางทีก็อยากเหมือนพี่ชาย อยากบอยๆ เราจะทึ่งในการเก็บรายละเอียดของเด็กมากกว่า เขาเห็นพู่กันอันนี้เขารู้ว่าพู่กันทาตา อันนี้ปัดคิ้ว อันนี้อายแชโดว์ ทั้งๆ ที่ไม่เคยพูดไม่เคยสอน เวลาชมทำงานส่วนมากจะแต่งหน้า ที่บ้าน ช่างก็จะมาที่บ้านกัน เขาก็คงสังเกตเก็บรายละเอียด ชมว่าอันนี้เขาจะคล้ายๆ พายุ เขาทำท่าอะไรเหมือน เขาเป็นคนสังเกตท่าทางแล้วเวลาเขาทำแล้วมันคือ

            กังวลเวลาไปโรงเรียนแล้วเขาจะจำอะไรจากข้างนอกมาก็จะมีบ้างว่าอะไรที่ไม่น่ารักแล้วก็เราทำกับคนอื่นไม่ได้ คนอื่นเขาก็เป็นลูกมีพ่อมีแม่เหมือนกัน อย่างนี้ไม่น่ารักนะ ทำแบบนี้คุณแม่จะโดนว่านะ เขาจะมาว่าแม่ได้นะ นี่ก็เป็นเหตุผลที่เราส่งลูกต้องไปโรงเรียน เราก็ต้องให้เขาไปเจอสังคมอื่นที่ไม่ใช่แค่พวกเราครอบครัว ไม่ได้อยู่แค่โลกของเรา ไม่ว่าจะยังไงก็ให้อภัยกัน บางทีไปเจอเด็กด้วยกันมีเล่นกันมีตอบโต้กัน แกแรงมาฉันแรงกลับ อันนี้มันคือชีวิตจริง มันก็ต้องไปเจอแบบนี้บ้าง เขาจะได้เรียนรู้ว่าเวลาการเข้าสังคมมันต่างจากเวลาอยู่ที่บ้านยังไงคือเราไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ แล้วบางทีเด็กเล่าเรื่อง เราก็จะไม่รู้หรอก เขาก็จะมาเล่าในมุมของเขา เราก็แค่บอกว่าถ้ายูไม่แฮปปี้กับพฤติกรรมแบบนี้ ยูก็บอกเขา หรือว่ายูก็ไม่ต้องเล่นกับเขาสิ แต่ส่วนมากก็เล่นด้วยกันทุกวัน

            แต่ว่าเด็กมันก็คือเด็ก บางทีเขาบอกว่าคนนี้พูดอย่างนี้ใส่เขา เราจะไปห้ามคำพูดคนมันเป็นไปไม่ได้ อันนี้มันก็เป็นภูมิคุ้มกันที่เขาต้องเจอเพราะในชีวิตจริงเราจะไปห้ามปากคนไม่ให้ โตไปมันก็ต้องเจอคนแบบ…ชมก็ไม่ได้แบบ ว้าย ทำไมมาบูลลี่ลูกฉัน มันเด็ก ถูกมั้ย ชีวิตจริงยิ่งกว่านี้อีก ถ้าเราไม่ชอบที่เขาพูดแบบนี้ ก็บอกเขาไปว่าไม่ชอบ ถ้ารู้สึกว่ามันนอกเหนือการควบคุม ยูก็ไปบอกครู ถึงแม้ว่าโรงเรียนจะสนุก จะชอบ แต่ตอนนี้ก็เริ่มมีแล้วที่แบบ อยากอยู่กับแม่กับป้าเจี๊ยบมากกว่า มีต่อรอง บางทีเช้ามาวันนี้วันหยุด ไม่ใช่ วันนี้ไม่ใช่วันหยุด วันนี้เธอต้องไปเรียน แต่ว่าถ้าวันไหนมาทำงาน เขาจะรู้ว่าอย่างวันนี้ได้หยุดเรียน เขาจะดีใจนิดนึง วันที่เขาทำงานคือวันที่เขาได้อยู่กับแม่กับป้าทั้งวัน คือไม่ใช่ว่าโรงเรียนไม่สนุก ชมว่ามันก็สนุกก็สมวัยสำหรับเขา มันก็เป็นสังคมที่เขาต้องเรียนรู้การเข้าสังคมจากคนที่มาจากหลากหลายที่มา แต่เราก็เข้าใจว่าการที่เราเอาลูกเรามาทำงาน เขาก็เจอคนเยอะก็สนุกแบบของเขา

            ชมว่าบางทีเข้าใจมันเป็นเรื่องของการจำ คือชมเข้าใจแหละว่าบางเรื่องมันอาจจะต้องพูดซ้ำ ซึ่งเราไม่ใช่คนชอบพูดซ้ำ แต่ว่าเด็กพอมันไม่ได้อยู่ในสถานการณ์แบบเรามาพูดไปยังไงมันก็ไม่เข้าใจหรอก เหมือนเราไม่มีวันเข้าใจว่าเพื่อนเราที่อยู่อีกครอบครัวหนึ่งเขาเป็นยังไงเพราะว่ามันไม่ใช่ประสบการณ์ตรง แต่ว่ามันก็ต้องพูด เชื่อว่าถ้าให้เวลาแล้วก็ใกล้ชิดกัน ยังไงกลับมาบ้าน เขาก็ยังเป็นลูกของเรา เชื่อแบบนั้น ทุกวันนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ชมให้เวลามากที่สุดก็คือเรื่องนี้แล้วก็เรื่องครอบครัวหลังจากนั้นก็ต้องดูแลตัวเองให้ดีเพื่อที่จะได้อยู่ในสภาพที่ดีที่สุดที่จะอยู่ดูแลเขาได้ เป็นเพื่อนไปกับเขาได้”....