วันนี้แม่กีวี่ได้มีโอกาสได้รับชมสามเณรปลูกปัญญา ปี 11 กับการเรียนรู้ในช่วง เรียนธรรมนำใจ ก็รู้สึกประทับใจ และได้ฟังคำสอนของพระอาจารย์แบบง่ายๆ ซึ่งทำให้ธรรมะ เป็นเรื่องที่ฟังง่ายขึ้น ไม่น่าเบื่อ ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ก็สามารถเรียนรู้ไปพร้อมกันและนำไปใช้ได้จริง กับหัวข้อ รับชมรายการสามเณรปลูกปัญญา ปี 11 ออนไลน์ทางTrueID “อย่าทำผิด อย่าทำร้ายกัน” – เรียนรู้ คารวะ 6 / นิทานชาดก 500 ชาติ / การอยู่ร่วมกันอย่างสันติ กับสามเณรน้อย : ออกอากาศสดเมื่อวันเสาร์ที่ 3 พฤษภาคม 2568 ช่วงเวลา 09.00-10.30 น ก่อนเข้าเรียนวันนี้ พระอาจารย์นำสติสามเณร ด้วยการท่องคาถาบทหนึ่ง ใช่แล้วจ้ะ...นี่ไม่ใช่คาถาปัดเป่าวิญญาณ แต่เป็น “คาถาอย่า” ที่พระอาจารย์ ตั้งใจสอนให้เณรจำให้ขึ้นใจ อยากให้เณรจำ 1 คำคาถา คือภาวนา ว่าอย่าเข้าไว้ เณรจ๋าอย่าทำ อย่าทำผิดศีล อย่ากินผิดเวลา อย่าด่าพระอาจารย์ อย่าหลบการทำวัตร อย่าหัดหนีเรียน อย่าเพียรเล่นๆ อย่าเป็นเณรชั่ว อย่ามั่วการคุย อย่าชุ่ยการงาน อย่าผลาญเงินพ่อกับแม่ เริ่มต้นด้วย “ธรรมนำใจ” – คำว่า คารวะ คืออะไร? ที่พระอาจารย์ใจดีอย่าง พระครูปลัดบัณฑิต อิทเมธี หรือที่เด็กๆ เรียกว่า พระธรรมะอารมณ์ดี มาสอนหัวข้อวันนี้ว่าด้วยเรื่อง “คารวะ 6” หรือการแสดงความเคารพ 6 ประการ ที่จะทำให้การอยู่ร่วมกันมีสันติสุข ไม่ทะเลาะ ไม่เบียดเบียนกัน ซึ่งสามเณรน้อยแต่ละรูปก็ตอบกันได้น่าเอ็นดูเหลือเกิน พุทธคารวตา – สามเณร เทมส์ ตอบว่าการเคารพพระพุทธเจ้าคือการ บูชาด้วยอามิสและการปฏิบัติ ซึ่งการปฏิบัตินั้นสูงสุดเลยนะจ๊ะ ธัมมคารวตา – สามเณร สตางค์ ตอบไวมากว่า คือการนำคำสอนมาใช้ในชีวิต สังฆคารวตา – เณร ฟินิกซ์ กับ อั่งเปา พูดตรงกันว่า คือการเคารพพระสงฆ์และพระอาจารย์ สิกขาคารวตา – การเคารพในการศึกษา ที่เณรอั่งเปายกตัวอย่างว่า “ตั้งใจเรียน” อัปปมาทคารวตา – ไม่ประมาท มีสติ ปฏิสันถารคารวตา – รู้จักการต้อนรับ ให้เกียรติกัน ไม่คับแคบทางจิตใจ สามเณรตอบกันครบถ้วน ไม่ใช่แค่ท่องจำ แต่เห็นได้เลยว่าเขาซึมซับความหมาย และพยายามนำไปใช้จริงๆ นิทานชาดกวันนี้: สาลิตตกชาดก – บุรุษเปลี้ยดีดขี้แพะ แม่กีวี่ต้องยกนิ้วให้กับนิทานที่พระอาจารย์เลือกมาเล่าวันนี้ เพราะทั้งฮา ทั้งคม และมีข้อคิดลึกซึ้ง เรื่องมีอยู่ว่า... กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว พระโพธิสัตว์เกิดเป็นอำมาตย์ในเมืองพาราณสี มีพราหมณ์ปุโรหิตผู้พูดมากคนหนึ่งประจำราชสำนัก ถ้าเขาได้พูดแล้วคนอื่นจะไม่มีโอกาสได้พูดเลย สร้างความรำคาญให้แก่ผู้คนเป็นอย่างมาก แม้กระทั่งพระราชา พระองค์จึงคิดหาวิธีสกัดคำพูดของปุโรหิตนั้น วันหนึ่ง พระองค์เสด็จไปพระอุทยานด้วยพระราชรถ ถึงต้นไทรทอดพระเนตรเห็นพวกเด็กกลุ่มหนึ่งกำลังยืนมุงดูชายง่อยเปลี้ยผู้หนึ่งมีความสามารถในการดีดก้อนกรวดเป็นรูปร่างต่างๆได้ เด็กพวกนั้นก็ท้าทายบุรุษเปลี้ย ให้ดีดก้อนกรวดซัดใส่ใบไม้เจาะรูเป็นรูปสัตว์ต่าง ๆ ถ้าทำได้จะให้เงินชายคนนั้น ซึ่งบุรุษก็ทำได้ จึงเสด็จเข้าไปทอดพระเนตรดู เด็กกลุ่มนั้นตกใจก็วิ่งหนีไปหมด เหลือเพียงบุรุษ พระราชาทรงคิดได้วิธีสกัดคำพูดของปุโรหิต รับสั่งให้ชายง่อยเปลี้ยเข้าเฝ้า แล้วตรัสถามว่า " ในราชสำนักของเรา มีคนพูดมากอยู่คนหนึ่ง เจ้าสามารถทำให้เขาหยุดพูดได้ไหม ? " เขากราบทูลว่า พระอาจารย์สอบถาม สามเณรฟิสิกส์ สามารถตอบได้ทันทีว่า บุรุษ ขอขี้แพะ 1 ทะนาน " ถ้าได้ขี้แพะ 1 ทะนาน อาจทำให้เขาหยุดพูดได้ พระเจ้าค่ะ " จึงรับสั่งให้นำชายง่อยเปลี้ยเข้าวังด้วย ให้เขานั่งภายในม่านเจาะรูตรงข้ามกับที่นั่งของพราหมณ์ปุโรหิตผู้พูดมากนั้น พร้อมให้วางขี้แพะแห้งไว้ใกล้ ๆชายง่อยเปลี้ยนั้น พอได้เวลาพราหมณ์ปุโรหิตเข้าเฝ้า เขาก็เริ่มกราบทูลพูดโดยไม่เปิดโอกาสให้ผู้อื่น เมื่อเขาอ้าปากพูดคำไหน บุรุษง่อยเปลี้ยก็ดีดขี้แพะที่ทำเป็นก้อนเล็กๆ ผ่านม่านเข้าปากเขาทุกคำพูด พราหมณ์ปุโรหิตจึงได้กลืนกินขี้แพะโดยไม่รู้ตัว กลัวไม่ได้พูดก็กลืนลงท้องไปอีก พระราชาทรงทราบว่าขี้แพะหมดแล้ว จึงตรัสว่า " ท่านอาจารย์ ท่านกลืนกินขี้แพะไปตั้งถังหนึ่งแล้ว ยังไม่รู้อีกหรือ? ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา พราหมณ์ปุโรหิตปิดปากสนิท แม้ใครจะพูดด้วย ก็ไม่ค่อยจะพูด พระราชาทรงสบายพระทัยแล้วรับสั่งให้พระราชทานที่ดิน 4 ตำบล อยู่ในทิศทั้ง 4 ทิศ บุรุษเปลี้ย เก็บค่าเช่าได้ เดือนละ 100000 กหาปะนะแก่ชายง่อยเปลี้ยนั้น ฝ่ายอำมาตย์ ได้เข้าเฝ้าพระราชาแล้วกราบทูลว่า "ธรรมดาศิลปะในโลก บัณฑิตทั้งหลาย พึงเรียน แม้เพียงดีดก้อนกรวด ก็ยังช่วยให้ชายง่อยได้สมบัตินี้ " แล้วกล่าวคาถานี้ว่า " ขึ้นชื่อว่าศิลปะ แม้ชนิดใดชนิดหนึ่ง ก็สามารถให้สำเร็จประโยชน์ได้โดยแท้ ขอพระองค์ทรงทอดพระเนตรบุรุษง่อย ได้ที่ดินทั้ง ๔ ทิศ ก็ด้วยการดีดขี้แพะ " ข้อคิดธรรมะจากนิทาน อย่าดูถูกคนจากภายนอก แม้เขาจะเป็นคนง่อย แต่กลับมีความสามารถที่เปลี่ยนชีวิตได้ ศิลปะหนึ่งอย่างก็เปลี่ยนชีวิตได้ เหมือนการดีดขี้แพะ ก็กลายเป็นวิชาชีพเลี้ยงตัว พูดให้ถูกกาลเทศะ รู้จักกาละเทศะ พูดในเวลาที่ควรพูด อย่าพูดมากแบบพราหมณ์ เพราะจะมีภัยมาถึงตัว พระอาจารย์ยังให้สามเณรลองดีดลูกปิงปองใส่ใบไม้เลียนแบบชายเปลี้ย แต่ไม่มีใครทำได้เลยจ้ะ (น่าเอ็นดูมาก) สุดท้ายให้โยนแทน เณร กอกล้า โยนได้แม่นสุด แม่กีวี่เชียร์สุดเสียงเลยตอนนั้น! แม้แต่สามาเณรก็ลุ้นกันสุดใจ แต่พระอาจารย์ก็ให้เณรสำรวมด้วยการกล่าวแค่สาธุก็เพียงพอแล้ว เกมธรรมะ “เดินหน้า-ถอยหลัง” กับพฤติกรรมสร้างสันติ ช่วงท้ายรายการ เป็นกิจกรรมให้สามเณรยืนเรียงแถวที่หน้าอาสนะของตนเองแล้วตอบคำถามจากภาพ เช่น เห็นคนทำไม่ดี – ถอยหลัง 1 ก้าว เห็นคนทำดี – เดินหน้า 1 ก้าว แต่บางข้อก็สามารถเป็นได้ทั้ง 2แบบ สามเณรตอบกันตามความคิดเห็น บางคนเดินหน้า บางคนถอยหลัง ซึ่งพระอาจารย์ก็ไม่ตัดสิน แต่สรุปว่า ทุกคนมีมุมมองที่ต่างกัน สิ่งสำคัญคือเราต้องเคารพซึ่งกันและกัน เณรแต่ละรูปทั้งน่ารัก ขี้เล่น และมีแววเป็นผู้นำธรรมะในอนาคต เด็กๆ ตอบได้ลึกซึ้งมากกว่าที่ผู้ใหญ่บางคนตอบได้อีกนะบอกเลย! คติธรรมวันนี้ “ความเคารพคือการให้เกียรติ ไม่ใช่เพียงแค่ไหว้ แต่คือการเปิดใจรับฟังและอยู่ร่วมกันอย่างสันติ” แม่กีวี่สรุปได้ว่า... “อย่า” ทั้งหลายที่พระอาจารย์สอนนั้น ไม่ใช่เพื่อห้าม แต่เพื่อปกป้องหัวใจเณรจากการกระทำที่อาจพาให้หลงผิด และ การเคารพซึ่งกันและกัน คือหัวใจของการอยู่ร่วมอย่างมีสันติสุข แล้วเจอกันตอนหน้า แม่กีวี่จะตามเณรไปทุกซอกทุกมุมค่ะ ชวนทุกคนมาดูสามเณรไปด้วยกัน ถ่ายทอดสด ผ่าน ทรูวิชั่นส์ HD 119, 333 | TrueID | TruevisionsNow | แอปสามเณรปลูกปัญญาธรรม | ช่องทรูปลูกปัญญา PSI 230 ตั้งแต่วันที่ วันนี้ – 18 พฤษภาคม อย่าพลาดเลยสักตอน เพราะทุกตอนมีเรื่องราวอบอุ่นใจและข้อคิดดีๆ ที่ทำให้เรารู้สึก “สบายใจ” ขึ้นได้อย่างน่าอัศจรรย์ รับชมรายการสามเณรปลูกปัญญา ปี 11 ออนไลน์ทางTrueID ชวนพูดคุยธรรมะดี ๆ ได้ที่ห้อง TrueID Community > พูดคุยธรรมะ สาระธรรมดี ๆ ที่ห้องสามเณรปลูกปัญญาธรรม คลิปย้อนกลังสามารถดูได้จาก App TrueID ภาพประกอบ/ภาพปก 1,4,5,7,9-10 แคปจากมือถือ ครีเอเตอร์ WCKIWI ภาพประกอบ 2 3 6 8 จาก Facebook สามเณรปลูกปัญญาธรรม ภาพปก 1 2 3 4 จาก Facebook สามเณรปลูกปัญญาธรรม พูดคุยธรรมะ สาระธรรมดี ๆ ที่ห้องสามเณรปลูกปัญญาธรรม