Movie ReviewJohn Wick: Chapter 4 จอห์น วิค แรงกว่านรก 4 (2023)ระห่ำเดือดอะดรีนาลีนหลั่งตามสไตล์ที่ไม่เหมือนใคร แม้อาจดูไปก็เดิมๆแต่ยังมันส์เพราะมันคือหนัง John Wickหนังแอ็คชันก็คือหนังที่ถูกสร้างมาเพื่อความบันเทิงและเป็นหนังที่ไม่มีวันตายจากโลกภาพยนตร์ ซึ่งในชีวิตที่ผ่านมาของผู้เขียนที่ได้ดูหนังมานานครึ่งค่อนชีวิตที่เข้าใกล้วัยชราก็คือผ่านตาหนังแอ็คชันมาตั้งแต่ยุคพระเอกกล้ามโตลุยใส่เดียวกับผู้ร้ายเป็นกองทัพตั้งแต่นู่นยุค 80-90 ซึ่งหนังแอ็คชันจะมีพัฒนาการตามความสำเร็จเพราะถ้าฉากแอ็คชันที่เอามาขายแล้วทำให้หนังประสบความสำเร็จเหมือนอย่างที่ The Matrix (1999) พาหนังแอ็คชั่นเป็นกังฟูไปช่วงหนึ่ง หลังจากนั้นโลกแห่งหนังแอ็คชันก็มากลายเป็นความดุเดือดสมจริงลุ่มลึกตามแนวของ The Bourne Identity (2002) แล้วก็สอดแทรกมาด้วยฉากแอ็คชันสโลว์โมชั่น Stop and go สไตล์ Zack Snyder จากหนัง 300 (2006) จนล่าสุดถ้าท่านผู้อ่านลองสังเกตดูหนังแอ็คชันในปัจจุบันส่วนใหญ่จะเป็นฉากแอ็กชันที่หวือหวาเร้าใจและดุเดือดในสไตล์ John Wick (2014) ที่ยังไม่มีการดีไซน์ฉากต่อสู้ใหม่ๆมาลบล้างได้ และนั่นก็กลายมาเป็นว่าหนังเรื่องนี้เป็นแฟรนไชส์ทรงคุณค่ามาจนวันนี้ที่เดินทางมาถึงภาคที่สี่แม้เนื้อหาในเรื่องจะกินเวลาไม่กี่สัปดาห์ก็ตามหลังจากตามล้างแค้นให้น้องหมาเรียบร้อยที่น่าจะสมใจไปแล้วแต่วิบากกรรมในโลกไต้ดินของนักฆ่าของ John Wick (Keanu Reeves) ก็ไม่จบไม่สิ้นทั้งที่ตระเวนไปครึ่งค่อนโลกเพื่อสะสาง จนคราวนี้สภาสูงส่ง Marquis (Bill Skarsgård) มาตามจองเวรเขาโดยใช้ทรัพยากรทุกอย่างของสภาสูงได้รวมถึงสั่งนักฆ่ามือฉกาจนามว่า Caine (Donnie Yen) มาจัดการพี่จ้อน และ Caine ที่รู้ว่า John Wick มีที่เพียงน้อยนิดที่จะฝากชีวิตไว้เพราะเขาคือเพื่อรักของ John Wick เขาจึงตามไปถึงนครโอซาก้าถิ่นของ Koji (Hiroyuki Sanada) แล้ว Koji ที่ยึดถือมิตรภาพของพี่น้องก็ปกป้อง John Wick จนตัวตายทำให้ John Wick หนีมาได้แต่เรื่องจะไม่จบถ้าเขาไม่ได้ฆ่า Marquis แต่คำแนะนำจาก Winston (Ian McShane) ว่าการฆ่า Marquis ก็ไม่จบเพราะสภาสูงก็จะส่งคนใหม่มาอยู่ดี ทางที่จะจบเรื่องคือการชนะในการประลองตัวต่อตัวตามกฎของสภาสูงที่ถ้าเขาชนะจะได้รับการอนุญาตตามคำขอ ดังนั้น John Wick จึงต้องเดินหน้าเข้าสู่การประลองโดยมีนักล่าค่าหัวอีกเป็นพันมาขัดขวางไม่ให้เขาเข้าประลองทันเวลาง่ายๆเดินหน้าต่อไปอย่างเร็วแรงตามครรลองเมื่อถึงเวลาปะทะก็จัดมาไม่ยั้งแต่กลับไม่รู้สึกเหนื่อยเพราะมันคือสไตล์ หลังจากการเป็นหนังนักฆ่าตามล่าแค้นให้หมาอย่างสุดมันส์ในภาคแรกหนังชุดนี้ก็เดินหน้าไปหาโลกอีกใบได้อย่างมีพัฒนาการไม่ใช่เข้ารกเข้าพงแม้จะจะมีเส้นบางๆกันไว้แต่ก็ไม่ขาด จนมาภาคนี้เส้นแบ่งบางๆนั้นก็ยังแข็งแรงดีเมื่อหนังเดินหน้าลงลึกไปสู่โลกของนักฆ่าไต้ดินเต็มที่ที่มีโครงข่ายลึกล้ำขึ้นเรื่อยๆจนถึงตอนนี้เหลือล้ำที่จะจินตนาการแล้ว แล้วเมื่อเป็นการเดินทางของ John Wick ที่จะสะสางก็ต้องปูกันเล็กน้อยเพื่อให้การปะฉะดะคนเหนือคนได้มีความชอบธรรมซึ่งส่วนนี้ไม่มีขาดตกบกพร่องเพราะมันเป็นสไตล์แหละ เพราะเมื่อถึงเวลาก็เดินหน้าพันตูกันแบบไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยไม่รู้ว่าไปแวะกินน้ำกินข้าวกันที่ไหนซึ่งในหนังบางเรื่องที่อัดมาแบบ Non-stop แอ็คชันแบบนี้บ่อยครั้งที่คนดูจะรู้สึกเหนื่อยลุกลามไปจนหน่าย แต่นี่คือหนัง John Wick ความรู้สึกนั้นจะไม่มีมาเพราะเหมือนว่าจังหวะมันใช่และคนดูก็คุ้นเคยเหมือนความทรงจำของร่างกายที่จะไม่เหนื่อยหากออกกำลังกายเป็นประจำอุดมไปด้วยความมันส์แบบมหึมาเพราะว่าพี่จ้อนได้เข้าไปนั่งในใจคนดูไปแล้วทุกอย่างจึงเข้าทางความสะใจก็มา เพราหนังชุดนี้คือมหึมามหามันส์เพราะใส่ฉากแอ็คชันทุกรูปแบบเข้ามาเต็มที่ที่มีความเป็นตัวเองสูง เอาง่ายๆคือดูหนังเรื่องนี้หรือย้อนไปถึงหนังชุดนี้ทุกเรื่องจะไม่มีความคิดวอกแวกไปหาหนังเรื่องไหนหรือคิดว่าฉากนี้เห็นมาจากไหนต่อให้คลับคล้ายคลับคลาก็ยังไม่มีเวลามาคิด นั่นเพราะการดีไซน์ตัวละครออกมาดีก่อนซึ่งความจริงก็ไม่หนีไปจากนักฆ่าที่มีหัวใจทีตัวละครแบบนี้มักได้ใจอยู่เป็นเรื่องปกติ แล้วเมื่อมาพร้อมกับการดีไซน์ฉากแอ็คชันที่มีรูปแบบของตัวเองทำให้ตัวละครที่ได้ใจที่คนดูจะลุ้นตามมาอยู่ในฉากแอ็กชันที่ระห่ำเดือดอะดรีนาลีนหลั่งจนไม่รู้สึกหิวน้ำแบบนี้มันก็คือความมันส์ที่มหึมาอย่างว่า ด้วยฉากแอ็กชันที่ค่อนข้างอยู่ระยะประชิดตลอดต่อให้ถือดาบถือมีดหรือยิงปืนและมุมกล้องที่ค่อนข้างหวือหวา ดังนั้นเมื่อสิ่งเหล่านี้ที่มีความเป็นตัวเองได้ผสานกับสิ่งที่เคยผ่านตามาก็จะเหมือนว่าดูแปลกตาและพาความสะใจมาให้แม้กระทั่งฉากสุดท้ายของการดวลที่ยังคิดเลยว่าเออคิดได้ยังไงกรุณาอย่าคิดมากเพราะนี่คือหนัง John Wick ที่อย่าไปคิดถึงเหตุผลให้เกินควรไม่งั้นก็ไม่ใช่หนัง John Wick และสำหรับภาคนี้ก็ยังคงคอนเซปต์ที่ว่าไม่เอาน่าอย่าคิดมากเพราะหนังมีทิศทางที่ชัดอยู่แล้วแม้จะบานปลายออกมาจากเดิมมากมายขนาดนั้น แต่หนัง John Wick ก็คือหนัง John Wick ที่จะมาเพื่อขายความบันเทิงด้วยฉากแอ็คชันตามสไตล์ด้วยการสรรหาอะไรหรือใครก็ได้มาให้พี่จ้อนของเราได้สู้แบบลุยเดี่ยวบ้างมีผู้ช่วยบ้างก็ตาม ทั้งยังต้องมีตัวร้ายที่น่าหมั่นไส้รอให้ถามหาความสะใจในตอนท้ายที่ภาคนี้ก็ยังสะใจแม้จะมาแบบโป้งเดียวจอดโดยที่ก่อนหน้านั้นพี่จ้อนก็จะสะบักสะบอมโดนรถชนตกตึกตกบันไดเป็นสองร้อยขั้นที่เรื่องแค่นั้นก็ทำให้ลุ้นได้ แล้วสิ่งที่มีเสมอมาคือเรื่องเชิงลึกที่อาจไม่ถึงกับลึกล้ำแต่ก็มีเพราะมันคือของมันต้องมีเพราะหนังแบบนี้ถ้าจะให้สนุกเต็มที่คนดูจะต้องเห็นแรงจูงใจ ส่วนอะไรที่เหนือธรรมชาติไปบ้างหรือดูย้อนแย้งไปในความเป็นมนุษย์ก็ไม่ต้องคิดมากเพราะนี่คือโลกอีกใบที่ไม่ใช่โลกของเรา และหนัง John Wick ก็เป็นแบบนี้ถ้าไม่เป็นแบบนี้ก็ไม่ใช่หนัง John Wickแล้วเมื่อนี่คือหนัง John Wick ที่เป็นหนังแอ็คชันแบบจัดๆการแสดงก็เป็นในแบบหนัง John Wick เพราะหนัง John Wick จะมาขายฉากแอ็คชันมันส์ๆเท่ๆนักแสดงที่มาจะต้องเท่และดูดีในฉากแอ็คชันแต่มันไม่ได้มีแค่นั้นเพราะการดีไซน์ตัวละครที่ชัดตั้งแต่แรกและทำได้ดีอยู่แล้วในส่วนของตัวละครเก่า สำหรับ Keanu Reeves นั้นไม่ต้องพูดถึงเพราะตัวเขาแทบจะเป็น John Wick ทั้งตัวทั้งวิญญาณไปแล้วเพราะแสดงเรื่องไหนก็ยังมาในมาด John Wick เพียงแต่เปลี่ยนบุคลิกเท่านั้น ในส่วนของนักแสดงชุดเดิมที่มาด้วยกันตั้งแต่ต้นก็ยังทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีเพราะมีพื้นฐานมาตั้งแต่ภาคแรก แต่นักแสดงใหม่ที่มาเสริมก็กลายเป็นส่วนเสริมชั้นดีคือ Donnie Yen ที่สร้างมิติให้ตัวละครได้อย่างยอดเยี่ยมอย่างที่ควรเป็น หรือ Hiroyuki Sanada ที่มาน้อยแต่กลับมีเวลาที่ดีบนจอจนน่าจดจำและความน่าหมั่นไส้อยากให้พบจุดจบที่สาสมใจแล้วก็สมใจจริงๆของ Bill Skarsgård แต่ที่ชอบคือ Scott Adkins ที่เล่นเรื่องนี้ได้แสบแบบเนียนดีทั้งที่ห่วยแตกจากหนังของตัวเองมาทุกเรื่องโดยมาในลุคที่เกือบจำไม่ได้ซะงั้นถ้าว่ากันที่ความเป็นหนัง John Wick ภาคนี้คือความลงตัวที่สุดหลังจากจุดประกายอย่างยอดเยี่ยมในภาคแรก ท่านผู้อ่านไม่ต้องสงสัยว่าเหตุใดผู้เขียนถึงย้ำคำว่าหนัง John Wick ตั้งแต่บันทัดแรกจนย่อหน้าสุดท้ายนี้ นั่นเพราะหนังชุดนี้มีความเป็นตัวเองและสามารถสถาปนาตัวเองไปเป็นแนวหนังของตัวเองเช่นเดียวกับหนัง James Bond 007 หนังชุด Jason Bourne หนังชุด Fast & Furious หรือกระทั่งหนัง Marvel ที่มีแนวทางทิศทางของตัวเอง ซึ่งด้วยการเดินทางที่ยังไม่นานมากเท่าไหร่แค่สี่ภาคยังทำให้มาตรฐานยังไม่ตกลงไปอาจมีไม่เท่ากันบ้างแต่ไม่ถึงกับทำให้หนังกลายเป็นความซ้ำซากจนคนดูปล่อยจอย นั่นหมายความว่าคนดูที่ดูหนังชุดนี้ยังรอคอยการมาของภาคนี้หลังจากจบภาคสามแถมยังมีซีรีส์แยกและจะมีภาคแยกออกมาเพราะการดีไซน์ตัวละครให้ขายได้อย่างที่ว่า ซึ่งในความเห็นส่วนตัวผู้เขียนมองว่าถ้าไม่นับภาคแรกที่มันคือความลงตัวที่สุดเป็นหนังแอ็คชันชั้นดีที่มาเขย่าโลกได้ภาคสี่นี้ก็คือความลงตัวที่อาจกลายเป็นบทสุดท้ายของ John Wick และก็เป็นความบันเทิงที่สมการรอคอยดูไปบ่นไปขอบคุณภาพประกอบภาพปก / ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3,4,5,6 / ภาพที่ 7,8 จาก Instagram johnwickmovie ถ้าคุณชอบเรื่องนี้ คุณจะชอบเรื่องเหล่านี้https://entertainment.trueid.net/detail/LVeLN9exreqQhttps://entertainment.trueid.net/detail/NONxLdlE5lxWhttps://entertainment.trueid.net/detail/a9XV8veN2E1khttps://entertainment.trueid.net/detail/0o7jAdV9wmEGเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !