ถ้าไม่ทำอย่างนั้น ชีวิตก็คงไม่เป็นอย่างนี้ นี่เป็นคำนิยามที่เหมาะสมสำหรับหนังเรื่องนี้ หลังจากที่ผมได้ดูจบเป็นที่เรียบร้อย ภาพจาก https://www.imdb.com/title/tt1817273/mediaviewer/rm3501762048The Place Beyond The Pines เล่าเรื่องเริ่มต้นที่ชีวิตของ ลูค (Ryan Gosling) นักขี่มอเตอร์ไซค์ผาดโผน ได้ไปเจอกับ โรมิน่า (Eva Mendes) อดีตผู้หญิงที่เขามีความสัมพันธ์ด้วย และรู้ว่าเธอได้คลอดบุตรชาย เมื่อลุคได้รับรู้ว่าตนเองมีลูกทำให้ลูค ตัดสินใจหยุดชีวิตพเนจรของตนเอง และตั้งหน้าตั้งตาทำมาหาเงินเพื่อลูกและเมีย แต่เมื่อเงินที่เขาหามาได้นั้นไม่เพียงพอที่จะประคองครอบครัวได้ ลูคเลยถูกเพื่อนร่วมงานชักชวนเข้าสู่โลกอาชญากรรม โดยได้ถูกชวนให้ไปปล้นธนาคาร และจุดนั้นทำให้เขาพบกับ อาเวอรี่ ครอส (Bradley Cooper) ตำรวจหนุ่มไฟแรงซื่อตรงต่อวิชาชีพ ถึงแม้ว่าเพื่อนร่วมงานชองเขาจะเกี่ยวข้องกับเงินสกปรก แต่ตัวเขาก็ตีตัวออกห่างมาโดยตลอด ทุ่มเทกับงานหนักจนไม่มีเวลาให้กับครอบครัว และคิดไม่ออกว่าจะหาจุดสมดุลระหว่าง ครอบครัวและหน้าที่การงาน จนกระทั่งอาเวอรี่ได้เจอกับลูค ฝ่ายหนึ่งคือตำรวจ อีกฝ่ายคือโจร จุดนั้นเองคือจุดที่จะเปลี่ยนชะตาชีวิตของเขาและครอบครัวภาพจาก https://www.imdb.com/title/tt1817273/mediaviewer/rm3753420288The Place Beyond The Pines ได้รับการกำกับโดย Derek Cianfrance ผู้กำกับที่เคยเล่นกับเรื่องราวของอดีตและปัจจุบัน ใน Blue Valentine ซึ่งเรื่องนี้ก็มีการเล่าเรื่องแบบเดียวกับ Blue Valentine แต่เรื่องนี้ได้เล่าเรื่องเหตุการณ์ในอนาคตเพื่มมาด้วย ซึ่งทำให้หนังเรื่องนี้ น่าติดตามมากขึ้นภาพจาก https://www.imdb.com/title/tt1817273/mediaviewer/rm2789161216สำหรับหนังเรื่องนี้ต้องยอมรับตามตรงว่าการเล่าเรื่องนั้นถือว่าธรรมดา เพราะเล่าเรื่องเป็นเส้นตรง ไม่หวือหวาอะไรมาก แต่จุดเด่นของหนังเรื่องนี้คือการแสดงของตัวละคร และเนื้อหาที่ตัวหนังได้นำเสนอ ซึ่งเล่นกับความรู้สึกของคนดูได้เป็นอย่างดี และทำให้เรามีความรู้สึกร่วมกับตัวละคร และตามเอาใจช่วยตัวละครให้ผ่านสถานการณ์นั้นไปได้และหนังได้ให้แง่คิดที่ดีอยู่เรื่องนึง คือเรื่องการตัดสินใจ ที่จะส่งผลต่อชีวิตของเราไปตลอด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเลือกเข้าเรียนมหาวิทยาลัย การเลือกงาน รวมไปถึงการตัดสินใจต่างๆ ที่ส่งผลกระทบต่อชีวิต เราต้องรอบคอบและคิดอย่างถี่ถ้วนในการตัดสินใจนั้นๆส่วนการแสดงของนักแสดงหลักนั้น ถือว่าทำออกมาในระดับที่ดี เข้าถึงบทบาทกันทุกคน และอีกสิ่งหนึ่งที่ขอชื่นชมเลยคือการเมคอัพหน้าตาของนักแสดง เพราะเมคอัพได้เหมือนจริงมากในแต่ละช่วงวัย ซึ่งทำให้เราสามารถเชื่อได้ว่าตัวละครที่อยู่ในช่วงเวลานั้น ว่ายังดูเป็นวัยรุ่นอยู่ หรือมีอายุเท่าไหร่ และการจัดภาพทำให้เราเหมือนอยู่ในสถานการณ์จริงๆ เพราะมุมกล้องอยู่ในระดับไหล่ ทำให้เรารู้สึกเหมือนกำลังเดินตามตัวละครอยู่ภาพจาก https://www.imdb.com/title/tt1817273/mediaviewer/rm640524800ส่วนตัวแล้วหนังเรื่องนี้เป็นหนังที่ไม่ได้ดูแล้วสนุก ดูแล้วรู้สึกเครียด กดดัน และอึดอัด แต่หนังมีจุดอื่นที่ดีคือตัวละครที่มีมิติ และเนื้อหาของตัวหนังที่เล่าเรื่องที่ทุกคนต้องเคยเจอ ทำให้รู้สึกอินได้ไม่ยากภาพจาก https://www.imdb.com/title/tt1817273/สรุปได้ว่าหนังเรื่องนี้ถ้าใครอยากจะดูต้องทำให้สมองโล่งก่อน เพราะหนังไม่เหมาะกับการดูฆ่าเวลา และเนื้อหาที่หนักแน่น แต่ดูจบแล้วบางคนอาจประทับใจในตัวหนัง บางคนอาจเกลียดเรื่องนี้ เพราะฉะนั้นหนังเรื่องนี้ไม่เหมาะสำหรับทุกคนครับโดยรวมผมให้หนังเรื่องนี้ 9/10 ครับ