หลังจาก มุอิจิโร่ โทคิโท เสาหลักหมอกถูกอสูรข้างขึ้นที่ 5 เกียกโกะ โจมตีโดยใช้มนตร์อสูรโลหิต จนติดอยู่ในไหนรกวารีถึง 3 ตอนเต็ม ๆ ในที่สุด มุอิจิโร่ โทคิโท ก็สามารถออกมาจากไหนรกวารีได้สำเร็จในดาบพิฆาตอสูรภาคหมู่บ้านช่างตีดาบตอนที่ 8 “อักษร มุ ของ มุอิจิโร่” ที่บอกเล่าที่มาที่ไปและอดีตของมุอิจิโร่ โทคิโท กันแบบเต็ม ๆ ตลอดทั้งตอน ซึ่งวันนี้นอกจากเนื้อเรื่องในส่วนอดีตของมุอิจิโร่ โทคิโทแล้ว เรามาทำความรู้จักของตัวละครตัวนี้ผ่านการบอกใบ้จากเนื้อเรื่องในอนิเมะตอนอื่น ๆ กันค่ะสำหรับ มุอิจิโร่ โทคิโท หรือ น้องมุย ชื่อเรียกที่แฟนอนิเมะเรียกกันนั้นไม่ได้เรียกเพราะว่าเอ็นดูในตัวเขาเพียงอย่างเดียว แต่เพราะมุอิจิโร่ โทคิโทอายุเพียง 14 ปี เท่านั้น (อายุเท่าคามาโดะ เนซึโกะ) และยังเป็นเสาหลักที่มีอายุน้อยที่สุดอีกด้วย เรียกได้ว่าเขาเป็นเด็กอัจฉริยะ เพราะหลังจากที่ผ่านการคัดเลือกในรอบสุดท้าย ฝึกฝนเพียง 2 เดือน มุอิจิโร่ก็ได้ขึ้นเป็นเสาหลัก แม้ตัวจะเล็กและร่างกายดูบอบบาง แต่จริง ๆ มุอิจิโร่นั้นแข็งแกร่งมาก โดยมุอิจิโร่ปรากฎตัวครั้งแรกในช่วงท้ายของดาบพิฆาตอสูร ภาค 1 ช่วงที่ทันจิโร่และเนซึโกะถูกพิจารณาตัดสินว่าจะสามารถเป็นหน่วยพิฆาตอสูรหรือไม่ ซึ่งในตอนนี้มุยอิจิโร่ก็ไม่ได้มีบทบาทอะไรมากนัก แต่ก็ได้รับความเอ็นดูจากแฟนอนิเมะไปไม่น้อยเลย กับบุคลิกหน้านิ่ง ๆ มึน ๆ และนิสัยขี้หลงขี้ลืมของเขา มุอิจิโร่ไม่ค่อยสนใจเรื่องราวของทันจิโร่และเนซึโกะเท่าไหร่ เพราะเดี๋ยวก็ลืม... คนที่มุอิจิโร่ให้ความเคารพและนับถือที่สุดคือนายท่านคากายะ มุอิจิโร่เคยดีดหินใส่ทันจิโร่ตอนที่พูดขัดจังหวะนายท่านจนทันจิโร่สลบไปเลย หลังจากนั้นมุอิจิโร่ก็ไม่มีบทบาทในเรื่องหลักอีกเลยจนมาถึงดาบพิฆาตอสูรภาค 3 หมู่บ้านช่างตีดาบ โดยในภาคนี้เขาต้องต่อสู้ตัวต่อตัวกับอสูรข้างขึ้นที่ 5 เกียกโกะ ซึ่งถือว่าไม่ธรรมดาเลยเพราะการกำจัดอสูรข้างขึ้นแต่ละตนนั้น ปกติต้องใช้เสาหลักและนักดาบอย่างน้อยก็ 1-2 คนช่วยกันสู้แบบเลือดตาแทบกระเด็นก็ว่าได้มุอิจิโร่ปรากฏตัวครั้งแรกในฐานะเสาหลักในดาบพิฆาตอสูร ภาค 1มุอิจิโร่ โทคิโท เป็นตัวละครหนึ่งที่มีทั้งคนชอบและไม่ชอบ ด้วยนิสัยที่แถตรงเกินไป จนกลายเป็นคนพูดขวานผ่าซาก พูดไม่รักษาน้ำใจของผู้ฟัง พูดง่าย ๆ คือ มุอิจิโร่ไม่ใช่คนพูดจาโลกสวย ถ้ามีคำถามประเภทที่ว่า ถ้ามีคนกำลังจมน้ำ 2 คน และสามารถช่วยได้แค่คนใดคนหนึ่ง จะเลือกช่วยใคร มุอิจิโร่ก็จะเลือกช่วยคนที่จะทำประโยชน์มากกว่าอย่างแน่นอน อาจจะดูใจร้าย แต่ว่าโดยเนื้อแท้แล้วไม่ได้มีเจตนาไม่ดีอะไร เพียงแต่พูดตามความเป็นจริงเท่านั้น ดูเจตนาจากสีหน้าได้เลย คือไม่ได้คิดอะไรซับซ้อนจริง ๆ เพราะเดี๋ยวก็ลืมแล้ว... ซึ่งคนที่ไม่ค่อยชอบมุอิจิโร่ โทคิโท ในตอนแรก ๆ เลยคือ โคเท็ตสึคุงตอนแรกโคเท็ตสึคุงไม่ชอบมุอิจิโร่มาก ๆ โคเท็ตสึคุง เป็นลูกหลานของคนที่สร้างหุ่นกลคารากุริ โยริอิจิรุ่นที่ศูนย์ ซึ่งมุอิจิโร่ต้องการใช้เพื่อฝึกซ้อมดาบ พอมุอิจิโร่เอาชนะหุ่นได้และทำหุ่นพังเสียหาย อีกทั้งยังหักเอาดาบที่แขนของหุ่นไปด้วย โคเท็ตสึคุง จึงไม่ชอบมุอิจิโร่เอามาก ๆ แค้นขนาดบอกกับทันจิโร่ว่าให้ใช้หุ่นกลคารากุริฝึกซ้อมให้เก่งกว่ามุอิจิโร่ให้ได้นะ พร้อมช่วยสุดตัว ถ้าหุ่นพังก็จะหาทางซ่อมให้เอง ไม่ต้องกังวล ใช้ให้เต็มที่ ก็คือสามล้านมาตรฐานมากกับทันจิโร่ 5555 ทันจิโร่หงุดหงิดนิดหน่อยที่มุอิจิโร่เป็นคนไม่มีไมตรีจิต พูดตรงเกินไปอย่างที่บอกว่ามุอิจิโร่ โทคิโทเป็นคนที่ไม่ได้มีเจตนาไม่ดีและขี้ลืมมาก ดังนั้นถึงจะมีเรื่องที่เคยทะเลาะ หรือกระทบกระทั่งกัน วันต่อมามุอิจิโร่ก็ไม่ได้ถือสาและสามารถคุยกันได้ปกติ เมื่อมุอิจิโร่ได้คุยกับทันจิโร่ก็ทำให้เขาได้คิดอะไรหลาย ๆ อย่าง ทันจิโร่เป็นคนที่ดีมากจนมุอิจิโร่สงสัยว่าทำไมต้องสนใจคนอื่นขนาดนั้น ซึ่งประโยคหนึ่งที่ติดอยู่ในใจมุอิจิโร่คือ “การช่วยเหลือคนอื่น สุดท้ายแล้วจะต้องวกกลับมาหาตัวเองในภายหลังอย่างแน่นอน” มุอิจิโร่รู้สึกว่าเคยได้ยินคำพูดนี้มาก่อน แต่จำไม่ได้ว่าใครพูด จนกระทั่งโดนอสูรคาราคุ (สนุก) พัดเข้าไปในป่า ซึ่งคำพูดนี้ของทันจิโร่ทำให้มุอิจิโร่ตัดสินใจเข้าไปช่วยโคเท็ตสึ (เหตุการณ์นี้ทำให้โคเท็ตสึมองมุอิจิโร่เปลี่ยนไป) และได้ความทรงจำบางส่วนกลับคืนมา ก็เป็นอีกจุดหนึ่งในอนิเมะที่เฉลยว่าที่มุอิจิโร่ขี้หลงขี้ลืมนั้น ไม่ใช่การหลงลืมแบบทั่ว ๆ ไป แต่เป็นเพราะเขาเคยได้รับบาดเจ็บรุนแรงจนสูญเสียความทรงจำในอดีตไปนั่นเองโคเท็ตสึคุงขอโทษมุอิจิโร่ที่เคยเกลียดและเรียกว่าหัวสาหร่าย...แต่ระหว่างที่มุอิจิโร่ โทคิโทกำลังไปเอาดาบคานานะก็พบกับอสูรข้างขึ้นที่ 5 เกียกโกะ และโดนโจมตีด้วยมนตร์อสูรโลหิต ทำให้ติดอยู่ในไหนรกวารี จนเกือบจะหมดลมหายใจ แต่แล้วก็เกิดเป็นภาพของทันจิโร่คอยพูดให้กำลังเขา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องห้ามยอมแพ้ และเรื่องของการร่วมด้วยช่วยเหลือกัน (ทั้งที่ความจริงทันจิโร่ไม่เคยพูดประโยคเหล่านี้กับมุอิจโร่เลย) เพราะด้วยนิสัยของมุอิจิโร่ที่เป็นเสาหลัก เขาจึงมักจะคิดว่าตนเองนั้นเก่งกว่าใคร และคนอื่นคงไม่สามารถช่วยเหลือเขาได้ ซึ่งตรงนี้ทันจิโร่ก็เคยอธิบายกับมุอิจิโร่แล้วว่าคนเรามีความสามารถที่แตกต่างกัน อย่างในการกำจัดอสูร ถ้าไม่มีช่างตีดาบคอยทำดาบให้ ก็ไม่สามารถกำจัดอสูรได้อย่างมีประสิทธิภาพเช่นกันโคเท็ตสึพยายามช่วยมุอิจิโร่โดยเป่าอากาศเข้าไปและในตอนนี้เองที่มุอิจิโร่เข้าใจคำว่า "การช่วยเหลือผู้อื่น ในท้ายที่สุดแล้วก็จะต้องวกกลับมาหาตนเองในภายหลัง" เมื่อโคเท็ตสึซึ่งพยายามอยู่ช่วยมุอิจิโร่ออกจากไหนรกวารีแม้ว่าตัวเองจะช่วยอะไรไม่ค่อยได้ และถึงจะโดนอสูรแทงจนได้รับบาดเจ็บ แต่ก็กลับมาช่วยเป่าอากาศเข้าไปในไหเพื่อให้มุอิจิโร่ยังคงหายใจต่อไปได้ ซึ่งก่อนหน้านี้ที่มุอิจิโร่สามารถอยู่ในไหได้นานขนาดนี้ อาจจะเพราะมีโคเท็ตสึคอยเป่าลมหายใจเข้าไปอยู่ตลอดก็เป็นได้ และตอนนี้เองมุอิจิโร่ก็สามารถทำลายไหนรกวารีด้วยปราณหมอก กระบวนท่าที่ 2 สายหมอกแปดทิศ และค่อย ๆ นึกได้ว่าคนที่พูดประโยคให้กำลังใจเหล่านั้นคือพ่อของเขาซึ่งมีดวงตาสีแดงเหมือนกับทันจิโร่พ่อของมุอิจิโร่ โทคิโทเข้าสู่เรื่องราวในตอนที่ 8 อักษร มุ ของมุอิจิโร่ ในตอนนี้แม้ว่าเขาจะสามารถออกมาจากไหนรกวารีได้ แต่เข็มพิษก็ทำให้มีอาการเหน็บชาอย่างรุนแรงจนแทบไม่มีแรงจับดาบ แต่แล้วในวินาทีโคเท็ตสึกำลังจะถูกอสูรทำร้ายและมุอิจิโร่กำลังจะยอมแพ้ ก็มีภาพเรื่องราวของเขาในวัยเด็กปรากฎขึ้นมา...เข็มพิษทำให้มุอิจิโร่เกิดอาการเหน็บชาอย่างรุนแรงครอบครัวของมุอิจิโร่ โทคิโท มีสมาชิกทั้งหมด 4 คน คือ คุณพ่อ คุณแม่ มุอิจิโร่ และ ยูอิจิโร่ พี่ชายฝาแฝดของเขา พ่อและแม่ของมุอิจิโร่เป็นคนดีมาก เป็นคนที่มองโลกในแง่ดีและชอบช่วยเหลือผู้อื่นอยู่เสมอ พ่อเป็นคนตัดไม้ และมุอิจิโร่ก็ชอบช่วยเหลืองานพ่อมาก แต่แล้วตอนที่เขาอายุ 10 ขวบ คุณแม่ก็เกิดป่วยหนัก คุณพ่อจึงออกไปหาสมุนไพรเพื่อมารักษาแม่แม้ว่าจะมีพายุฝนอย่างหนัก และเรื่องราวที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อพ่อของเขาเกิดพลัดตกจากเขาจนเสียชีวิต และแม่ก็เสียชีวิตไปในคราวเดียวกัน ทำให้มุอิจิโร่ต้องอยู่กับพี่ชาย 2 คน ซึ่งนอกจากหน้าตาแล้ว นิสัยของทั้งคู่ก็แตกต่างกันมากยูอิจิโร่ และ มุอิจิโร่ เป็นฝาแฝดกันยูอิจิโร่ โทคิโท เป็นคนพูดจารุนแรง เย็นชา ขวานผ่าซาก และไม่เคยอ่อนโยนกับมุอิจิโร่เลย จนมุอิจิโร่เคยคิดว่าพี่เกลียดตัวเอง (ตอนที่มุอิจิโร่เสียความทรงจำ เขาดูคล้ายกับพี่มาก) การตายของพ่อแม่ทำให้ยูอิจิโร่มีความคิดที่ไม่อยากจะไปยุ่งเกี่ยวกับคนอื่น เขามองว่าการที่พ่อแม่มองโลกในแง่ดีเกินไป ทำให้ทั้งคู่ต้องตาย แม่ที่ทำงานจนร่างกายทรุดแต่ไม่ยอมบอกจนป่วยหนัก และพ่อที่ออกไปเก็บสมุนไพรทั้งที่มีพายุฝนรุนแรงจนตกเขาเสียชีวิต ทั้งที่วันนั้นคนที่จะจากไปมีเพียงแม่คนเดียวแต่กลายเป็นพ่อด้วย ยูอิจิโร่จึงไม่ค่อยชอบนิสัยการมองโลกในแง่ดี และอยากจะช่วยเหลือผู้อื่นของมุอิจิโร่เท่าไหร่ เขามักจะพูดว่า “มุ ที่แปลว่า ไร้ ของมุอิจิโร่ คือ ไร้ความสามารถ” ในตอนที่คุณอามาเนะมาชวนพวกเขาเข้าไปในหน่วยพิฆาตอสูรจึงไม่พอใจอย่างมาก เพราะถึงจะมีบรรพบุรุษเป็นนักดาบปราณตะวัน แต่คนที่จะช่วยเหลือคนอื่นได้มีแค่คนที่ถูกเลือกเท่านั้น เด็กอย่างพวกเขาจะทำอะไรได้ ก็เลยไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยว เพราะคิดว่าอสูรเป็นเรื่องไกลตัว ก็ไม่คิดว่าจะต้องเอาชีวิตของตัวเองไปช่วยเหลือคนอื่นจากอสูรไปทำไมยูอิจิโร่ โทคิโท พี่ชายฝาแฝดของมุอิจิโร่ โทคิโทส่วนมุอิจิโร่ โทคิโทเป็นเด็กอ่อนโยน จิตใจดี และอยากที่จะช่วยเหลือผู้อื่นเหมือนที่พ่อสอนอยู่เสมอ ในตอนที่คุณอามาเนะบอกกับพวกเขาว่าเป็นทายาทของนักดาบปราณตะวัน และชวนทั้งคู่เข้าร่วมหน่วยพิฆาตอสูร มุอิจิโร่ก็ตื่นเต้นมาก ๆ ถึงแม้ว่าเรื่องอสูรจะเป็นอะไรที่น่าเหลือเชื่อ แต่ถ้าได้ทำประโยชน์และช่วยเหลือผู้อื่นก็คงดี แต่ยูอิจิโร่ปฏิเสธท่าเดียวและขับไล่คุณอามาเนะที่มาชวนทั้งคู่อยู่เสมอ ซึ่งส่วนตัวเราคิดว่าถ้าทั้งสองคนไปอยู่กับหน่วยพิฆาตอสูรตั้งแต่ตอนนี้น่าจะปลอดภัยกว่าการอยู่กันลำพังเพียง 2 พี่น้องนะ แต่ก็เข้าใจได้สำหรับความคิดของยูอิจิโร่ที่อยู่ด้วยกันอย่างยากลำบาก 2 คนพี่น้องมาโดยตลอด เรื่องอสูรก็ดูจะไม่มีอยู่จริง เหมือนจะโดนหลอกมากกว่า เลยปฏิเสธไปแบบนั้นมุอิจิโร่ โทคิโท ในวัยเด็กแต่แล้วก็เหมือนโชคชะตาเล่นตลก เมื่อคืนหนึ่งมีอสูรตนหนึ่งบุกเข้ามาที่บ้านของทั้ง 2 คน ขณะที่อสูรกำลังจะเข้าไปทำร้ายมุอิจิโร่ ยูอิจิโร่ผู้เป็นพี่ชายก็เข้าไปกันไว้ ทำให้โดนอสูรทำร้ายจนแขนข้างซ้ายของเขาขาด ทั้งอสูรยังพูดอีกว่า เด็กตัดไม้อย่างพวกเขาทำประโยชน์อะไรไม่ได้หรอก จะอยู่หรือตายก็เหมือนกัน เป็นแค่ชีวิตที่ไร้ค่า ในตอนนี้เองที่มุอิจิโร่ โกรธมาก เขาจำเหตุการณ์หลังจากนั้นไม่ได้ รู้สึกตัวอีกทีอสูรตนนั้นก็ใกล้ตายแล้ว ซึ่งฉากตรงนี้คือสะเทือนใจมาก ทั้งน่ากลัวและน่าสงสาร 2 พี่น้องไปพร้อม ๆ กัน ถึงแม้อนิเมะจะไม่ได้ลงรายละเอียดเท่าไหร่ แต่จอภาพที่เต็มไปด้วยสีแดงของเลือด และภาพอสูรที่ถูกตอกด้วยไม้เป็นส่วน ๆ ในตอนเช้า ก็แสดงให้เห็นว่ามุอิจิโร่สู้กับอสูรตลอดทั้งคืนราวกับไม่ใช่ตัวเขาเหมือนกับคำพูดของพ่อที่เคยบอกว่า "...มนุษย์ในตอนที่ทำเพื่อใครสักคน จะสำแดงพลังที่เหลือเชื่อออกมาได้" ยูอิจิโร่ โทคิโค บาดเจ็บอย่างหนักหลังเข้าไปกันมุอิจิโร่จากอสูรเมื่อกลับเข้าไปในบ้าน ก็พบกับยูอิจิโร่ที่อาการสาหัสเพราะเสียเลือดมาก ยูอิจิโร่ได้แต่พูดภาวนาขอร้องให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยน้องชายเขาไว้ที เพราะเทียบกันแล้ว มุอิจิโร่เป็นเด็กที่มีจิตใจอ่อนโยนมาก เขาอยากทำประโยชน์ช่วยเหลือผู้คน แต่ตัวเองได้ห้ามไว้ หากจะลงโทษ ก็ขอให้ลงโทษตัวเขาเพียงคนเดียว มีแค่เขาคนเดียวที่แย่ เพราะความจริงแล้ว "มุ ที่แปลว่า ไร้ ของมุอิจิโร่ คือ ไร้ ที่หมายถึง ไร้ขีดจำกัด" ต่างหาก... เมื่อกลับมาที่เหตุการณ์ปัจจุบันทันใดนั้นใบหน้าของมุอิจิโร่ก็ปรากฏปานขึ้นมา เขาใช้ปราณหมอกกระบวนท่าที่ 4 ผ่าสายหมอก ช่วยโคเท็ตสึได้ทัน และเหมือนว่า ความทรงจำที่เริ่มฟื้นคืนมาของมุอิจิโร่เป็นเหมือนกับการปลดล็อคพลังในตัวเขาให้แข็งแกร่งขึ้นมากกว่าเดิมมุอิจิโร่ โทคิโท ปรากฎปานขึ้นที่ใบหน้าจากนั้นมุอิจิโร่ก็รีบเข้าไปช่วยฮากาเนซึกะและคานาโมริช่างตีดาบจากอสูรข้างขึ้นที่ 5 เกียกโกะ ซึ่งก็ถือว่าโชคดีอย่างหนึ่งที่อสูรตนนี้ค่อนข้างติดเล่น มันยังไม่ลงมือฆ่าฮากาเนซึกะในทันที เอาแต่ทำร้ายเล็ก ๆ น้อย ๆ เพราะชอบดูเวลาคนทรมาน แต่ฮากาเนซึกะดันไม่ร้องสักแอะ ขนาดโดนทำร้ายจนเสียดวงตาไปข้างหนึ่งแต่ก็ยังคงมุ่งมั่นลับดาบต่อไม่หันไปสนใจมองอสูรเลยด้วยซ้ำ จุดนี้ทำให้เกียกโกะหงุดหงิดมาก แต่ก็ยังคงทำร้ายต่อไปเพราะสงสัยในความแปลกของฮากาเนซึกะ ส่วนตัวคิดว่า ถ้าเกียกโกะไม่ประมาท ไม่มัวติดเล่น แล้วฆ่ามุอิจิโร่หรือช่างตีดาบตั้งแต่ตอนแรก ๆ คงทำภารกิจสำเร็จไปนานแล้ว แต่เพราะความประมาทของเกียกโกะนี่แหละ… มุอิจิโร่ เข้าไปช่วยฮากาเนซึกะและคานาโมริจากอสูรในตอนนี้นอกจากมุอิจิโร่ โทคิโทจะได้ความทรงจำที่ฟื้นคืนมาแล้ว มุอิจิโร่ยังได้ดาบคาตานะเล่มใหม่ที่ คานาโมริ ช่างตีดาบคนใหม่ทำให้ โดยสร้างตามแบบของเท็ตสึอิโดะช่างตีดาบคนแรกของเขาที่เสียชีวิตไปด้วยโรคหัวใจ ซึ่งเท็ตสึอิโดะ ไม่ได้เป็นเพียงช่างตีดาบแต่เหมือนเป็นผู้ใหญ่คนสำคัญที่คอยห่วงใยและเข้าใจในตัวมุอิจิโร่มาก ๆ คนหนึ่ง ตอนนี้มุอิจิโร่จำได้แล้ว "ขอโทษครับ ทำให้คอยเป็นห่วงสินะครับ แต่ว่าผมน่ะ...ไม่เป็นอะไรแล้วล่ะ" ว่าแล้วมุอิจิโร่ก็ใช้ปราณหมอก กระบวนท่าที่ 5 ทะเลหมอก ทำลายนรกอสูรหมึกได้อย่างรวดเร็ว แต่ท้ายที่สุดแล้วมุอิจิโร่จะสามารถกำจัดอสูรข้างที่ 5 เกียกโกะได้สำเร็จหรือไม่ ต้องรอติดตามในดาบพิฆาตอสูรในตอนที่ 9 “เสาหลักหมอก มุอิจิโร่ โทคิโท” ซึ่งเป็นตอนที่จะได้เห็นมุอิจิโร่สำแดงพลังที่ไร้ขีดจำกัดมากขึ้นอย่างแน่นอน!มุอิจิโร่สามารถทำลายนรกอสูรหมึกของเกียกโกะได้อย่างรวดเร็วเป็นอย่างไรกันบ้างคะทุกคน ให้คะแนนเท่าไหร่สำหรับตอนนี้ ส่วนตัวให้ 10/10 เลย เพราะเป็นตอนที่ครบรสมาก งานภาพคือสวยจริง ๆ ขนาดฉากตักน้ำก็ยังลงดีเทลแบบตั้งใจทำมากจริง ๆ ซึ่งตอนที่ 8 ก็ทำให้รู้จัก มุอิจิโร่ โทคิโท มากขึ้นมาก ๆ ตอนนี้มุอิจิโร่ได้ความทรงจำกลับคืนมาแล้ว มาลุ้นกันว่ามุอิจิโร่จะเปลี่ยนไปจากเดิมหรือไม่ เพราะจากนิสัยของมุอิจิโร่ในอดีตเขาค่อนข้างสดใส อ่อนโยน และน่ารักมาก ๆ เลย ต้องติดตามในตอนต่อไปแล้วล่ะขอขอบคุณรูปภาพและคลิปวิดีโอภาพปก : รูปที่ 1 / รูปที่ 2 / รูปที่ 3 พื้นหลัง โดย Walkerssk จาก Canvaภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 / ภาพที่ 7 / ภาพที่ 8 : Facebook Demon Slayer: Kimetsu no Yaibaภาพที่ 5 / ภาพที่ 13 : Facebook ufotableภาพที่ 6 / Twitter @kimetsu_offภาพที่ 9 / ภาพที่ 10 / ภาพที่ 11 / ภาพที่ 12 / ภาพที่ 14 : Twitter @ufotableคลิป 1 Muichiro Tokito New Character Visual : Facebook Demon Slayer: Kimetsu no Yaibaบทความแนะนำรีวิว ดาบพิฆาตอสูร (Demon Slayer: Kimetsu no Yaiba) ภาค 3 หมู่บ้านช่างตีดาบ อดีตของพี่น้อง ชินาซึกาวะ เก็นยะ - ซาเนมิทำความรู้จัก ตัวละคร มหาเวทย์ผนึกมาร (Jujutsu Kaisen) ซีซั่น 2จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !