Series Full ReviewBlack Dog: Being A Teacherถ้ามองด้วยใจที่เกลียดชัง หญ้าทุกใบก็คือวัชพืช แต่หากมองด้วยความเมตตา คนทุกคนก็คือดอกไม้NETFLIX และ viu : 1 Season 16 Episodes (2019)เพราะเรื่องราวในรั้วโรงเรียนคือวัตถุดิบชั้นดีในการบอกเล่าเพราะเป็นเรื่องที่มีสีสัน เรื่องราวการก้าวพ้นวัยคือความทรงจำที่มีสวยงามโศกเศร้าเคล้าซึ้งต่างกันไป การหยิบเอาเรื่องในรั้วโรงเรียนมาขายจึงค่อนข้างได้ใจ เพราะอารมณ์ถวิลหาจะมาครอบคลุมหัวใจผู้ชมทำให้ส่วนใหญ่งานที่เล่าเรื่องแบบนี้มักจะประสบความสำเร็จ แต่ก็มีสิ่งที่ต้องแลกคือมันก็กลายเป็นสูตรด้วยการวนกันที่ครูกับนักเรียน การค้นพบ การก้าวข้าม การเรียนรู้ แล้วสิ่งที่จะทำให้เป็นความต่างไปก็คือรายละเอียดของตัวบทเพื่อเรียกคะแนนอารมณ์ เรื่องแนวนี้จึงกลายเป็นงานที่น่าชมที่ชื่นชอบสำหรับใครหลายคนรวมถึงผู้เขียนเองก็คือหนึ่งในนั้นและแล้วก็มีท่านผู้อ่านแนะนำมาว่ามีซีรีส์เรื่องหนึ่งที่เป็นงานดีที่ดูไปบ่นไปต้องดูเพราะเป็นงานแนวเยียวยาหัวใจ โดยที่ผู้เขียนเองเมื่อจะดูก็ไม่ได้รู้หรอกว่าเรื่องจะเล่าเรื่องอะไร แต่เมื่อดูจบจึงมองเห็นว่าถ้าว่ากันที่เนื้อหานี่คืองานที่มีเนื้อความที่คมคายยิ่ง แต่การเล่าเรื่องของเหตุการณ์ในรั้วโรงเรียนโดยมีศูนย์กลางเป็นครูคนใหม่นั้น มันมีสิ่งที่ต้องก้าวผ่านหลายอย่างแต่เรื่องก็ผ่านมันมาได้ และผ่านมาแบบสวยงามครบถ้วนในทุกสิ่งที่พึงมีของงานแนวนี้ ที่อาจไม่เร่งเร้าหวือหวาแต่ก็มีดีพอที่จะพาหัวใจผู้ชมเกาะติดไปกับความหมายของความเป็นครู และความหมายของการเป็นศิษย์ที่ดีได้ตลอดทาง Black Dog: Being A Teacherเรื่องย่อหมาดำซินโดรม (Black Dog) คือ ปรากฏการณ์ที่คนมักเลือกรับหมาสีอ่อนไปเลี้ยงมากกว่าหมาสีดำ ในสังคมของเรามีผู้คนที่ถูกทำเหมือนเป็นหมาดำอยู่ ไม่ใช่เป็นเพราะว่าพวกเขาขาดตกบกพร่อง แต่มันเป็นเพราะเราทุกคนล้วนลงเอยด้วยการกลัวที่จะเติบโต คนเหงาที่เลือกกินข้าวเย็นและดื่มคนเดียวอาจจะเป็นหมาดำยุคใหม่ในค่านิยมและความเชื่อของเรา เรื่องจึงเปิดมาที่อุบัติเหตุในวันที่นักเรียนมัธยมกำลังจะไปทัศนศึกษา แต่มีเด็กนักเรียนหญิงคนหนึ่งที่บาดเจ็บและติดอยู่ในรถที่กำลังจะระเบิด ทว่ามีครูหนึ่งคนที่เสี่ยงชีวิตเข้าไปช่วยเธอทำให้เธอรอดชีวิตแต่ครูคนนั้นต้องสละชีวิต และทิ้งครอบครัวข้างหลังไว้โดยที่ไม่ได้รับเงินชดเชยเพราะเขาคือครูชั่วคราวและในงานศพเด็กหญิงคนนั้นจึงตั้งปณิธานที่จะเป็นครูเพื่อที่จะรู้สาเหตุว่าทำไมครูชั่วคราวคนหนึ่งจึงทำได้กระทั่งแลกด้วยชีวิตเพื่อช่วยนักเรียน เด็กนักเรียนหญิงคนนั้นจึงเติบโตมาพร้อมกับการค้นหาและกลายมาเป็นครูชั่วคราวในโรงเรียนมัธยมปลายแดชิเธอคือโกฮานึล (ซอฮยอนจิน) และที่นี่ก็ได้เปิดประสบการณ์การเป็นครูครั้งแรกให้กับเธอเพราะสิ่งที่เธอต้องเจออาจไม่เป็นดังคาดหวังทั้งหมดในความพยายามเป็นครูที่อยู่ในอุดมคติตัวเอง โกฮานึลต้องมาอยู่ร่วมกลุ่มที่ปรึกษาเข้ามหาวิทยาลัยของโรงเรียนที่มีสมาชิกอยู่แล้วสามคน หนึ่งคือครูพัคซองซุน (รามีรัน) หัวหน้ากลุ่มกับครูโดยอนอู (ฮาจุน) และครูแบมยองซู (อีชางฮุน) ที่เป็นกลุ่มที่ต้องรับผิดชอบกับการทำให้นักเรียนของโรงเรียนได้เข้ามหาวิทยาลัยชั้นดีซึ่งด้วยความที่สังคมเกาหลีและระบบการคัดเลือกนักเรียนเข้ามหาวิทยาลัยค่อนข้างซับซ้อนและโหด กลุ่มนี้จึงต้องทำงานอย่างสาหัสเพราะต้องเจอกับนักเรียน ครู และผู้ปกครองที่มีความคาดหวังกับตัวเด็กๆ แต่กระนั้นสังคมครูในโรงเรียนก็มีบางอย่างที่บิดเบี้ยวเมื่อโกฮานึลถูกพบว่ามีน้าทำงานเป็นครูในโรงเรียนเดียวกัน และเป็นถึงหัวหน้ากลุ่มกิจการโรงเรียนคือครูมุนซูโฮ (จองแฮคยุน) และสังคมครูก็ได้พิพากษาโกฮานึลไปแล้วว่าเธอใช้เส้นสายเข้ามาทำงานในโรงเรียนทำให้เธอกลายเป็นหมาดำเต็มตัว แต่เธอก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากทำหน้าที่ของตัวเองไปด้วยหัวใจและปฐมเหตุของการค้นหาหัวใจของความเป็นครูและเพื่อที่จะรู้ว่าครูที่สามารถสละทุกอย่างเพื่อนักเรียนได้กระทั่งชีวิตในกมลสำนึกแล้วเป็นเช่นไร เพียงแต่โลกแห่งความจริงมันไม่สวยงามอย่างที่จินตนาการไว้ หลายอย่างจึงเข้ามาพิสูจน์หัวใจบนเส้นทางของความเป็นครู ที่ความเป็นซีรีส์ขนาดยาวสามารถเล่าเรื่องได้หลากหลายมิติ แต่ทุกมิติที่เล่าก็ปักเข้ากลางใจถ้าหากว่าผู้ชมมีประสบการณ์ร่วมอย่างหนึ่งอย่างใด โดยเฉพาะผู้ชมที่เป็นครูหรือผู้ชมที่เป็นผู้ปกครอง ในงานตีแผ่หัวใจของเรือจ้างหรือแม่พิมพ์ก็สุดแท้แต่จะเรียก และตบหน้าระบบการศึกษาบนบริบททางสังคมที่ผลักความหวังไปให้เด็กแบกที่ดูๆไปก็คล้ายๆกับแถวนี้ไม่น้อยเมื่อเลือกจะมีหัวใจจึงมอบความจับใจในแบบไม่หวือหวาแต่ว่าซึมลึก อีกครั้งที่เกาหลีเล่าเรื่องที่เสมือนจริงจนเกือบเอื้อมมือไปสัมผัสได้แม้ว่าจะเล่าเรื่องที่เป็นอาชีพเฉพาะแต่ก็เป็นอาชีพที่มีผลกระทบต่อสังคมวงกว้าง จึงไม่ต่างจากงานเชิดชูอาชีพครูกลายๆแต่เด่นล้ำไปกว่าคือการเลือกที่จะมีหัวใจ ด้วยการตั้งโจทย์ให้การค้นหาความหมายของหัวใจผ่านตัวละครที่ดูเหมือนแปลกแยก ดังชื่อที่ว่า Black Dog ซึ่งก็คือการเล่าเรื่องของความขบถในบริบททางสังคมอาชีพจนถึงการกล้าฝืนวัฒนาธรรมองค์กร เพราะสิ่งที่เรียกว่าหัวใจของอาชีพสำคัญกว่าทำให้ตัวบทมีอะไรให้เล่าหลายมิติในการฉายถึงสิบหกตอน แต่ที่น่าสนใจคือการเล่าเรื่องที่ดูเป็นเรื่องจริงที่เหมือนกับว่าตัวละครเหล่านี้สามารถเป็นใครก็ได้อาจจะเป็นคนข้างๆหรือกระทั่งตัวผู้ชมเองซึ่งมันก็คือความจริงที่ต้องยอมรับว่าเรื่องเป็นมิติทางหัวใจมนุษย์ ที่บทฉลาดเล่าที่จะไม่เล่ามุมอื่นเลยนอกจากทิศทางที่ตั้งธงไว้อย่างเคร่งครัด แล้วตัดออกหมดทั้งเรื่องของความรักความโรแมนติกหรือกระทั่งดราม่าที่หนักหน่วงรุนแรงเพื่อแลกมากับความเสมือนจริงในแง่ตีแผ่ ทั้งระบบการศึกษาและระบบการคัดเลือกเด็กเข้าสู่มหาวิทยาลัย อันเนื่องมาจากสังคมที่แก่งแย่งแข่งขันกันหนักหน่วงจนกลายเป็นความธรรมดาที่ไม่ธรรมดา ที่การแข่งขันที่สูงกลายมาเป็นก้อนหินผาที่หนักที่ทับถมลงมาบนสองบ่าของเด็ก ความเป็นลูกที่ต้องมีหน้าที่ทำตามความคาดหวังของพ่อแม่และแน่นอนวมีแง่มุมของการเปรียบเทียบซึ่งบทก็ฉลาดพอที่จะไม่ฟันธงว่าแบบไหนผิดแบบไหนถูก หรือมองความธรรมดาในสังคมโรงเรียนของครูที่ได้ถูกความธรรมดากลืนกินความเร่าร้อนของไฟในหัวใจ ผ่านวัฒนธรรมองค์กรหรือรากเหง้าของอาชีพที่บทก็ยังถนอมน้ำใจให้มองเห็นเป็นความอิ่มตัว เมื่อมองอาชีพครูที่มีการแข่งขันสูงเป็นอาชีพที่ทำงานหนักแต่เส้นทางความก้าวหน้ามีไม่มากวันหนึ่งจึงมาถึงจุดอิ่มตัว เมื่อหน้าที่กับความรักในอาชีพที่จะเป็นแสงนำทางเพื่อเป็นแม่พิมพ์ที่สวยงามให้กับนักเรียนได้ถูกท้าทายโดยปัจจัยที่ถูกหลงลืมนั่นคือครอบครัว โดยที่มอบมุมมองผ่านสายตาและการบอกเล่าของโกฮานึลที่ถูกวางตัวให้เป็นครูของเหล่านักเรียน แต่การเริ่มต้นอาชีพครูของโกฮานึลก็ไม่ต่างจากตัวเองเป็นนักเรียนเช่นกันที่เธอเองก็มีครูที่สอนวิชาความเป็นครูกับวิชาการใช้ชีวิตและทิศทางของหัวใจในฐานะครู ผ่านครูผู้มากประสบการณ์และผ่านอะไรมามากมายอย่างครูพัคซองซุนที่มอบแง่มุมทางอาชีพสอดคล้องกับแง่มุมทางหัวใจให้กับโกฮานึลที่ดูเป็นเรื่องจริงมากกว่าเรื่องเล่า กระนั้นเมื่อบทเลือกเล่าเรื่องแบบนี้สิ่งที่ต้องแลกมาก็คือความราบเรียบเมื่อไม่มีพายุรุนแรงเข้ามาทั้งที่ออกตัวอย่างสะเทือนใจ แต่ความคมคายที่มอบให้กลับสามารถสะกิดหัวใจผู้ชมให้คิดตามว่า แท้จริงแล้วหมาดำก็ยังคงเป็นหมาที่มีความเป็นหมา แม้ว่าสีของตัวมันอาจไม่น่ามองแต่หมาก็คือหมาที่ยังคงซื่อสัตย์ต่อเจ้าของจนวันตายเพียงเราจะเปิดใจรับมันมาเลี้ยงหรือไม่เท่านั้น สุดท้ายผู้ชมก็พบความหมายของความเป็นครูที่โกฮานึลค้นหามาตลอดเรื่องไปพร้อมๆกับเธอหรือเพราะหมาดำจึงเข้าใจหมาดำด้วยกัน เพราะหมาดำก็ยังเป็นหมาแค่สีของมันเท่านั้นที่ดูแปลกแยกมนุษย์ก็คงไม่ต่างกัน เมื่อมนุษย์ก็ยังคงเป็นมนุษย์เพียงปัจจัยหลายประการได้ย้อมสีให้เป็นไปไม่ต่างจากหมาสีดำเช่นเดียวกับโกฮานึลที่หัวใจตั้งคำถามเป็นโจทย์ที่ยากจะเฉลยออกมาเป็นถ้อยคำ ทำให้เธอเองกลายเป็นคนแปลกแยกมองสิ่งที่คนอื่นทำที่เป็นเรื่องธรรมดาสำหรับคนอื่นแต่กับเธอมันไม่ใช่ ยิ่งร้ายหนักไปกว่าเมื่อถูกสังคมพิพากษาทั้งที่ตัวโกฮานึลเองก็ไม่รู้เรื่องอะไร แต่เมื่อหัวใจหมาดำมันมั่นคงคนที่จะเห็นความต่างที่มีความหมายนั้นอาจจะมีหมาดำอีกตัวซึ่งก็คือครูพัคซองซุนที่ไม่ต่างจากหมาดำที่แก่กว่าเผชิญโลกด้วยความโดดเดี่ยวมานานกว่าและครูพัคซองซุนก็เห็นในสิ่งที่โกฮานึลเป็นทำให้คนสองคนสองวัยได้กลายเป็นไม่ต่างจากหนึ่งศิษย์หนึ่งอาจารย์ เมื่อทั้งสองมีศูนย์กลางอยู่ที่เด็กนักเรียนโดยที่ครูพัคซองซุน ยอมที่จะท้าชนกับครูคนอื่นเพื่อประโยชน์ของนักเรียน แต่โกฮานึลกลับยอมโอนอ่อนผ่อนตามถ้าเรื่องนั้นมีประโยชน์ต่อนักเรียน ซึ่งแม้จะดูเหมือนเป็นสองวิธีการแต่มีจุดมุ่งหมายเดียวกันเพราะโจทย์ของหัวใจโกฮานึลคือโจทย์ที่ยากแต่ไม่ใช่ความยากที่จะเข้าใจ เพียงแค่ ณ ปัจจุบันเหลือครูเพียงน้อยนิดที่สามารถตอบโจทย์นี้ของหัวใจเธอได้ เพราะสังคมครูได้ถูกความเฉื่อยชากลืนกินจิตวิญญาณไปเป็นส่วนใหญ่แล้ว ชีวิตจึงมิใช่เรื่องง่ายที่จะฝืนสายธารที่เชี่ยวกรากนั้นเช่นเดียวกับโกฮานึลที่ความยึดมั่นของเธอเองได้สร้างน้ำหนักถ่วงหัวใจเธอไว้ไม่ให้ไหลไปตามกระแสน้ำ และค่อยๆเรียนรู้ผ่านการเปรียบเทียบระหว่างครูพัคซองซุนกับครูทั่วไป และอาจกล่าวได้ว่าทุกแง่มุมของความเป็นครูในแบบที่ครูพัคซองซุนเป็นคือการถ่ายทอดลงมาสู่โกฮานึลที่สามารถหลอมรวมบทเรียนชีวิตความเป็นครูที่ได้รับให้เข้ากับความเป็นตัวเองได้และเป็นได้อย่างที่เธอควรเป็น จนค้นพบความหมายหรือความสุขของการได้เห็นเด็กๆประสบความสำเร็จ ต่อให้ความสำเร็จนั้นจะไม่ใช่การเข้ามหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งก็ตามเพราะสังคมก็สร้างหมาดำขึ้นมามากมาย คนเรียนเก่งระดับหัวแถวที่ตั้งหน้าตั้งตาเรียนโดยลืมการใช้ชีวิตให้สมวัยก็ไม่ต่างจากหมาดำ เด็กเรียนดีแต่ฐานะยากจนต้องหาเงินเรียนจนไม่มีสังคมก็ไม่ต่างจากหมาดำ เด็กที่มีความฝันไม่เหมือนใครมีพรสวรรค์ที่ต่างไปไม่เหมาะกับระบบการศึกษาที่เป็นอยู่ก็คือหมาดำ จนเมื่อย้อนกลับมามองสังคมที่แก่งแย่งชิงดีจนมีที่ยืนสำหรับคนเพียงน้อยนิดในฐานะคนที่ประสบความสำเร็จหรือไม่ที่ให้กำเนิดหมาดำ ระบบการศึกษาหรือไม่ที่ทำให้เด็กบางคนกลายเป็นหมาดำ หรือสังคมครูเองหรือไม่ที่ทำให้ครูใหม่ๆที่ไฟแรงกล้าท้าทายขนบหรือกล้าคิดสิ่งใหม่ๆกลายเป็นหมาดำ แต่กระนั้นเมื่อลองมองย้อนกลับไปอีกครั้งใครกันแน่ที่เป็นหมาดำแล้วหมาดำทำผิดอะไร และบางทีอาจมีแค่หมาดำเหมือนกันเท่านั้นที่จะเข้าใจหัวใจซึ่งกันและกันการแสดงที่เหมือนการดูชีวิตจริงอีกครั้งเรื่องนี้อาจเล่าด้วยมุมของโกฮานึลของซอฮยอนจินแต่ MVP ไม่ใช่เธอแต่เป็นรามีรันเจ้าของบทครูพัคซองซุน แต่ก็ใช่ว่าซอฮยอนจินจะแสดงได้ไม่ลึกหรือเข้าไม่ถึงสิ่งที่บทต้องการให้เป็นเธอยังแสดงได้เฉียบคม สื่อความหมายกับคำถามและการค้นหาความหมายของหัวใจได้อย่างลึก ซึ่งการที่เรื่องเล่าถึงตัวละครที่เป็นครูภาพลักษณ์เลยต้องออกมาเป็นแม่พิมพ์ที่ดีซึ่งมันก็คือความไม่ฉูดฉาดเรียบๆร้อยๆไม่เน้นหน้าตาสวยหล่อ และซอฮยอนจินทำให้เชื่อได้ว่าเธอคือหญิงสาวธรรมดาที่มีฝันในการเป็นครู เพียงแต่ฝันนั้นมันถูกขับเคลื่อนด้วยหัวใจข้างในที่ได้ซึมซับมาจากบุญคุณหนี้ชีวิต จนเกิดความสงสัยในมิติที่ลึกเข้าไปในหัวใจของความเป็นครูที่ยังคงมีเส้นแบ่งเป็นเรื่องของครูประจำกับครูชั่วคราวที่ไร้ความมั่นคง ไร้ความแน่นอนในอาชีพ ปราศจากสวัสดิการ แต่ตัวละครโกฮานึลจะต้องไม่มีมิติความเห็นตัวเองเป็นจุดศูนย์กลางที่ตัวเองรู้ตัวแต่เป็นมิติที่ซ่อนเร้นข้างในโดยที่ตัวเองก็ไม่รู้ และคิดว่าตัวเองมีนักเรียนอยู่เป็นศูนย์กลางอยู่แล้วแต่ความจริงจะใช่หรือไม่ใครจะบอกได้ และการซ่อนความรู้สึกนี้ของตัวละครนี้ก็เพื่อรอเวลาการมาของจุดเปลี่ยน เพื่อให้เกิดพัฒนาการและต้องเปลี่ยนจากข้างในจนกลายมาเป็นครูทั้งตัวและหัวใจ ซึ่งจุดเปลี่ยนนั้นมันก็คือตัวละคร ครูพัคซองซุนของรามีรัน แม้บทจะวางตัวละครโกฮานึลเป็นตัวบอกเล่าแต่ตัวละครครูพัคซองซุนก็คือตัวกำหนดมิติของตัวละครโกฮานึลเพราะตัวละครนี้เปรียบไปก็ไม่ต่างจากเป็นครูของโกฮานึลอีกที เป็นตัวละครที่ทำให้แก่นของเรื่องมีความคมคายไปในทิศทางที่ต้องไป ซึ่งการรับบทนี้ของรามีรันยังยอดเยี่ยมเช่นเคย และสำหรับเรื่องนี้แม้เธอเองจะไม่ได้เป็นศูนย์กลางแต่ก็คือตัวคุมเกม เป็นบทที่ต้องส่งมิติให้กับซอฮยอนจินหรือกระทั่งคนอื่นๆและรามีรันก็ทำได้อย่างไร้ที่ติ เพราะความที่บทของเธอค่อนข้างมีมิติที่ลึกแต่ก็ธรรมดาที่สุดอยู่ในนั้น ด้วยความที่ตัวละครนี้ต้องมีพลังงานในความรักการเป็นครูที่จัดเพราะบทเผยให้เห็นปูมหลังทางครอบครัวที่เธอต้องเสียสละ เป็นบทที่มีทางแยกมีสิ่งที่ต้องแลกมาด้วยราคาที่แสนแพง และเป็นครูลายครามที่สอนความเป็นครูให้กับครูคนใหม่ด้วยการกระทำ และคำพูดเพียงไม่กี่คำให้สัมผัสด้วยใจการแสดงของรามีรันจึงโดดเด่นเหนือใครในเรื่องได้อย่างเต็มภาคภูมิ แม้จะเป็นเหมือนตัวสนับสนุนแต่ความจริงเป็นแรงผลักดันที่ยอดเยี่ยมสำหรับเรื่อง ทำให้เรื่องที่เล่าเรื่องของคนธรรมดาครูโรงเรียนที่ไม่เด่นดัง ไม่ใช่คนร่ำราย เป็นคนธรรมดาที่เป็นระดับชั้นกลางค่อนล่างที่สามารถพบเจอได้ทั่วไป ที่เป็นมนุษย์สุดธรรมดาในสังคมให้ออกมาดูเป็นคนธรรมดาจริงๆจนเหมือนกับนั่งดูชีวิตจริงที่เกิดขึ้น กับเบื้องหลังของการส่งนักเรียนข้ามฟากในฐานะเรือจ้างได้อย่างสมจริง เพราะไม่ใช่แค่สองคนนี้ทุกคนในเรื่องยังแสดงเป็นคนธรรมดาได้อย่างไม่ธรรมดาทุกคน เพียงแต่เรื่องนี้ถูกขับเคลื่อนไปด้วยหนึ่งครูคนใหม่กับอีกหนึ่งครูรุ่นเก๋าที่มีจุดร่วมในวิธีที่แตกต่างกันสองคน ที่เปรียบเหมือนเป็นหมาดำสองตัวเท่านั้นอาจไม่ใช่งานที่หวือหวาเร่งเร้าหรือขยี้แต่เป็นน้ำในบึงที่มีสีเขียวใส อาจดูราบเรียบแต่ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในเรื่องก็เล่าได้ครบทุกมิติ ทั้งในมุมของตัวผู้ชมเองที่มองเข้าไปไม่ว่าจะเป็นในฐานะไหนหรือเป็นคนกลุ่มไหนของสังคม เป็นหมาดำหรือหมาสีอ่อนทุกเรื่องจะมีความคมคายให้ผู้ชมได้ฉุกคิด และทุกอย่างจะลงเอยด้วยคำตอบที่เป็นเหตุเป็นผลที่สวยงามเสมอ จนสามารถมอบมุมมองชีวิตที่งดงามให้กับผู้ชมหรืออาจสามารถเยียวยาหัวใจที่ทดท้อ เพราะในชีวิตมนุษย์ที่เป็นสัตว์สังคมอาจมีมุมใดมุมหนึ่งหรือบางซอกหลืบที่ต้องกลายเป็นหมาดำบ้างที่เป็นเหมือนกับเหตุการณ์ในเรื่อง แถมด้วยถ้ามองเข้าไปในฐานะผู้ปกครองที่ลูกกำลังอยู่ในวัยหัวเลี้ยวหัวต่อแบบในเรื่อง จะมีมุมมองที่ชัดเจนเรื่องของความรักลูกบนความเห็นแก่ตัวหรือไม่เพราะบางครั้งโลกก็โหดร้ายกับเด็กจนเกินไปทำให้บางคนต้องแบกความคาดหวังของพ่อแม่ไว้จนหลังแทบหัก แต่บางทีการที่เด็กได้มีความฝันของตัวเองก็อาจทำให้เขาสามารถแสดงศักยภาพออกได้อย่างสุดขีด และถึงแม้เรื่องจะไม่ฟันธงลงไปในเรื่องนี้ที่เล่าผ่านเด็กนักเรียนสามคน แต่ในมุมของความเป็นครูที่บทต้องการสื่อนั้นผู้เขียนเองในฐานะผู้ปกครองยังสามารถสัมผัสได้ว่า ครูที่แท้จริงที่เป็นครูทั้งตัวและจิตวิญญาณนั้นกว่าจะเป็นได้อาจต้องผ่านอะไรมากมาย แต่การจะรักษาจิตวิญญาณนั้นไว้โดยไม่ถูกสภาพรอบข้างกลืนกินก็เป็นเรื่องที่ต้องฝ่าฟันต่อไปอีกเช่นกัน แม้จะไม่หวือหวา ไม่บดขยี้หัวใจ ไม่มีเรื่องความรักโรแมนติกมาให้ ไม่แต่งหน้าแต่งตัวสวยหล่อ แต่การได้ดูเรื่องที่เป็นความจริงในชีวิตที่ตีแผ่แง่มุมต่างๆได้อย่างคมคาย มีบทเรียนให้คิดในแทบทุกบทสนทนาโดยที่ไม่ดูจงใจ เรื่องนี้ก็คือความยอดเยี่ยมที่คู่ควรดูไปบ่นไปNETFLIX , viuขอบคุณภาพประกอบภาพปก / ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 / ภาพที่ 5 / ภาพที่ 6 / ภาพที่ 7 / ภาพที่ 8 / ภาพที่ 9 / ภาพที่ 10 / ภาพที่ 11 จาก Facebook tvN dramaภาพที่ 12 จาก Facebook Netflixอัปเดตข่าว ดูหนัง ซีรีส์ใหม่ ฟังเพลงฮิตสุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID ฟรี!