ขึ้นชื่อว่าหนังอินเดียคนไทยมักจะนึกถึง เวลาพระเอกกับนางเอกกำลังโลดแล่นเต้นระบำกันข้ามเขาเป็นลูก ๆ เดินวนรอบต้นไม้ วิ่งไล่จับกัน หรือแม้จะเป็นฉากต่อสู้บู้แหลกขนาดไหน ต่อยทีเดียวตีลังกาไปหลายตลบ ฝุ่นกลบเต็มหน้า ซึ่งหนังอินเดียในปัจจุบันถูกคนไทยมองว่าเวอร์มากไป ดูเนื้อเรื่องแปปหนึ่งก็เต้นอีกแล้ว หนังยาวถึงสามชั่วโมง อะไรประมาณนี้ จริง ๆ ผมอยากจะบอกว่ามีข้อดีตั้งหลากหลายหนังอินเดียถึงแม้ดูเผิน ๆ อาจจะดูน่าเบื่อ แต่จริง ๆ มันไม่ใช่ บางคนสงสัยว่าทำไมหนังอินเดียต้องเต้น ผมขอตอบไว้ ณ ตรงนี้เลยครับ สาเหตุคือเพื่อบูชาพระศิวะซึ่งเป็นแห่งการแสดงศิลปะร่ายรำ ที่เรียกว่านาฏราช ทำไมผมถึงรู้ เพราะผมชอบดูหนังอินเดียตั้งแต่อนุบาล หนังที่ผมดูจะเป็นเกี่ยวกับตำนานอภินิหารเทพเจ้าต่าง ๆ ทำให้ผมรู้จักตำนานเทพมากขึ้น การที่เราดูหนังอินเดียมันรู้สึกเข้าถึงอารมณ์ได้ดี อีกสาเหตุที่ผมชอบคือ หนังประเภทนี้ได้ถ่ายทอดประเพณี วัฒนธรรม และศาสนาออกมาได้อย่างสวยงาม ผ่านทางภาพยนตร์ตัวอย่างหนังที่เข้ามาในไทยก็อย่างเช่น ช้างเพื่อนแก้ว ธรณีกรรแสง และหมวดเกี่ยวกับเทพเจ้า เพราะคนไทยที่เป็นเกี่ยวกับสิ่งที่เป็นความอลังการ และการมองว่าอินเดียเป็นประเทศที่ล้าสมัย จริง ๆ มันไม่ใช่เลย ทั้งการเกษตร การค้า วัฒนธรรม ประเพณี ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สวยงามมาก อย่าไปยึดติดกับสิ่งเหล่านั้น เนื่องด้วยปัจจุบันนี้ อุตสาหกรรมหนังอินเดียนั้นมีความหลากหลาย หลายภาษา โดยแยกแตกแขนงเยอะ จึงขอยกตัวอย่าง เช่น1.Bollywood หนังอินเดียฉบับภาษาฮินดี2.Tollywood หนังอินเดียฉบับภาษาทมิฬ3.Kollywood หนังอินเดียฉบับภาษาเตลูกูซึ่งแต่ละประเภทก็จะแสดงความเป็นเอกลักษณ์และอัตลักษณ์ต่าง ๆ ตามท้องถิ่นของแต่ละประเภท ผมอยากจะบอกว่า ถ้าอยากจะบอกว่า ถ้าจะศึกษาวัฒธรรมต่าง ๆ ของอินเดีย ภาพยนตร์นี่แหละเป็นอีกตัวหนึ่งมี่สะท้อนออกมาอย่างชัดเจนแจ่มแจ้งสุดท้ายก็ขอให้ทุกคนลองเปิดใจที่จะดูหนังอินเดียครับ เพราะหนังอินเดียได้เข้ามาคูกับหนังไทยตั้งแต่สมัยก่อนแล้ว และอีกอย่าง สมัยนี้หนังอินเดียได้ทำเนื้อเรื่องได้สนุกและกินใจมาก ๆ ทั้งแนวความรัก ต่อสู้ แนวเสียดสีสังคม ถึงในปัจจุบันจะไม่มีการเต้นข้ามภูเขาแล้ว แต่ก็ยังมีการเต้นแต่ปรับให้มันดูเป็นสากลขึ้น สนุกขึ้น ไม่น่าเบื่อ เนื้อเรื่องกระชับ ขอแค่เปิดใจครับ สนุกแน่นอน---------------------------------------ภาพทั้งหมดจาก Pixabay