มาเลฟิเซนต์ เป็นตัวละครนางฟ้าใจร้ายในเรื่อง Sleeping Beauty ผู้ทำให้เจ้าหญิงออโรร่าต้องนิทราไป 100 ปีนั้นแหละ แต่ในภาพยนตร์ Maleficent ได้เอาวายร้ายคนนี้มาเป็นนางเอก โดยมีเงื่อนไขว่าทำไมสาวใสใจบริสุทธิ์อย่างมาเลฟิเซนต์ต้องลุกขึ้นมาร้ายภาพยนตร์เรื่องนี้ฉายนานแล้ว แต่ทำไมตอนที่เข้าโรง คนรอคอยที่จะดู และเป็นหนึ่งในหนังไม่กี่เรื่องที่ประสบความสำเร็จชนิดที่ว่ามีคนดูเต็มโรงในเวลาสายๆ และบ่ายๆ วันธรรมดาที่คนควรจะเรียนและทำงานกันไม่ใช่เหรอ เหตุผลส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่ากระแสตอบรับที่ดีจากภาคหนึ่งด้วย ส่งผลบุญต่อมายังภาคสอง ภาคหนึ่งนี่ฉากแฟนตาซีสวยงามมาก และถึงแม้จะใช้เรื่องราวจากเทพนิยายแต่ก็มีจุดพลิกผันจนอ้าปากค้างได้นอกจากนี้ Maleficent ยังคว้ารางวัล Best Makeup and Hair Styling ด้วย การแต่งหน้าทำผมที่ทำให้แองเจลิน่า โจลี่เป็นมาเลฟิเซนต์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ การแสดงของโจลี่สะกดทุกสายตาและชื่อของดาราดังอย่างโจลี่ก็ทำให้แฟนหนังอยากจะดูว่ามันนะต้องเป๊ะปังตั้งแต่แคสต์แล้วภาคหนึ่งมีโจลี่กับน้องแอลที่เป็นเจ้าหญิงได้อย่างน่ารักสดใสวัยสะรุ่นมาประชันบทบาทกัน ภาคนี้เรารู้สึกว่าน้องแอลโตเป็นสาวขึ้นและสูงขายาวมาก ทีเด็ดของภาคนี้คือตัวละครตัวใหม่คือมิเชล ไฟเฟอร์ นางเอกดังยุค 90 ที่การันตีคุณภาพการแสดงได้เลย เธอรับบทราชินีอินกริดแม่ของเจ้าชายฟิลิป ความน่าดูอีกอย่างก็คือแม่มิเชลกับแม่แองเจลิน่า สองตัวแม่มาแสดงด้วยกัน ดูจากโปสเตอร์พอนึกออกไหมคะว่าเสือสาวสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้ส่วนตัวละครใหม่อีกตัวคือชายผู้นี้ เขาจะมาดีหรือมาร้ายกันแน่ แล้วเค้ามีจุดประสงค์อะไรกับมาเลฟิเซนต์กันแน่ ก็ต้องลองชมภาพยนตร์เรื่องนี้แล้วล่ะ อย่ารอช้าและความน่าสนใจข้อสุดท้ายของภาพยนตร์เรื่องนี้ คือบทภาคแรกมาจาก The Sleeping Beauty ที่เป็นวรรณกรรมฝรั่งเศสใช่ไหมคะ ตีความใหม่แต่ก็ยังดำเนินเรื่องตามเดิมที่เราเคยดูการ์ตูนดิสนีย์กันตั้งแต่เด็กแหละค่ะ ภาคต่อนี้ไม่มีบทเดิมแล้ว ต้องเขียนบทขึ้นใหม่เป็นชีวิตที่ดำเนินต่อไปของมาเลฟิเซนต์และคนรอบๆ ตัวเธอ เราก็จะไม่มี clue มาก่อนละ ไม่รู้พล็อตก่อน มาลุ้นเอาในโรง เดาใจคนเขียนบทก็เดาไม่ค่อยถูก มันสนุกดีนะที่ภาคนี้เปลี่ยนมาลุ้นธีมเรื่องแทน ตอนจบใครไม่ร้องไห้คุณใจแข็งมากเลยค่ะความประทับใจที่มีต่อ Maleficent2: Mistress of Evilภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้เราได้เรียนรู้คำว่า "อย่าตัดสินคนที่เปลือกนอก" แบบที่มาเลฟิเซนต์พบเจอจากชาวเมืองว่าเธอนั้นชั่วร้าย Maleficent เป็นปีศาจที่น่ารัก ปากร้ายแต่ใจดี เราชอบสายสัมพันธ์ระหว่างมาเลฟิเซนต์กับออโรร่า เป็นความสัมพันธ์แบบแม่ลูกที่งดงาม Maleficent2 ยังคงต่อเนื่องจากภาคแรกที่ไม่ได้เน้นความรักแบบหนุ่มสาว นอกจากนี้ Maleficent 2 ยังแตกประเด็นใหม่ๆ เช่น สิ่งแวดล้อม สงคราม การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ไปได้ไกลกว่าภาคแรก และทำได้ดี มีความร่วมสมัยด้วย จึงควรค่าแก่การหาหนังมาดู เพราะนี่คือการตีความใหม่ของผู้กำกับที่เจ๋งกว่าต้นฉบับที่เป็นเทพนิยายเสียอีกสำหรับคะแนนของเรื่องนี้ Fernjung ขอให้ 9.5 คะแนน สำหรับการดัดแปลงจากเทพนิยายที่ดีมากๆ โปรดักชั่นดีงาม บทและการแสดงดี แต่ขอหัก 0.5 คะแนน สำหรับช่วงท้ายที่ดูออกว่ายืดเรื่องเลยช้ามาก และจังหวะจะซึ้งก็แอบคลิเช่ซ้ำกับหนังแนวนี้ แต่ก็สไตล์หนังแมสๆ แหละ คะแนนยังเยอะอยู่เพราะแมสเสจชัดและเนื้อเรื่องไม่ออกทะเล ช่วงนี้ใครว่างๆ ก็จัดไป ภาคแรกดูจะได้เปรียบกว่านิดหน่อยตรงที่มีบทคลาสสิก ภาคสองฉลาดที่พูดถึงประเด็นสังคมปัจจุบัน มันดูล้ำ อลังการพอๆ กับ Star Wars เลยล่ะ และเรารู้สึกรีเลทมากกว่าด้วย เราชอบภาคสองมากกว่า ถ้าคุณดูภาคหนึ่งแล้ว คุณต้องดูภาคสองนะ แต่ถ้ายังไม่ได้ดู มาดูภาคสองเลยก็รู้เรื่องเพราะเนื้อเรื่องไม่เกี่ยวกันภาพประกอบบทความทั้งหมดจากเพจเฟซบุ๊ก Maleficent