เป็นภาพยนตร์แนวดราม่า,โรแมนติก ของค่ายโซนี่พิคเจอร์สคลาสสิค เข้าฉายครั้งแรกปี 2017 ถูกเสนอชื่อเข้าชิงและกวาดรางวัลมามากมาย เช่น ได้รับรางวัลออสการ์ สาขาบทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยมในงานประกาศผลรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 90 อีกทั้งยังถูกเสนอชื่อเข้าชิงสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม และสาขาเพลงนำยอดเยี่ยม เพียงเท่านี้ก็สามารถการันตีคุณภาพของหนังเรื่องนี้ได้แล้วละครับรูปภาพประกอบจาก YouTube ชื่อคลิป "Call Me By Your Name | Official Trailer HD (2017)" ช่อง Sony Pictures Classicsภาพยนตร์กำกับโดย Luca Guadagnino บทภาพยนตร์เขียนโดย James Ivory อิงมาจากนวนิยายเรื่อง call me by your name แต่งโดย André Aciman นำแสดงโดย Timothée Chalamet (รับบท เอลิโอ) และ Armie Hammer (รับบทโอลิเวอร์)เรื่องย่อรูปภาพประกอบจาก YouTube ชื่อคลิป "Call Me By Your Name | Official Trailer HD (2017)" ช่อง Sony Pictures Classicsภาพยนตร์นำเสนอฉากในช่วงยุค 80 ของอิตาลีตอนเหนือ เอลิโอเด็กหนุ่มอายุ 17 อาศัยอยู่กับครอบครัว พ่อของเขาเป็นนักโบราณคดี ในช่วงฤดูร้อนปี ค.ศ.1983 พ่อของเอลิโอได้ชักชวน โอลิเวอร์ หนุ่มชาวอเมริกันวัย 24 มาช่วยงานเกี่ยวกับเอกสาร การพบเจอกันครั้งแรกของทั้งสองไม่ค่อยจะดีนักเพราะเอลิโอไม่ชอบที่ต้องแบ่งห้องพักให้กับโอลิเวอร์ และด้วยความเป็นหนุ่มหล่อชาวอเมริกันเขาจึงตกเป็นที่สนใจของสาว ๆ สร้างความไม่พอใจให้เอลิโอเป็นอย่างมาก แต่แล้วเรื่องราวต่าง ๆ กลับนำพาให้ทั้งสองได้ใช้เวลาร่วมกันความสัมพันธ์ที่สวยงามจึงเกิดขึ้นความรู้สึกที่มีต่อภาพยนตร์ (ไม่สปอยล์)รูปภาพประกอบจาก YouTube ชื่อคลิป "Call Me By Your Name | Official Trailer HD (2017)" ช่อง Sony Pictures Classicsชมภาพยนตร์ครั้งแรกไม่สามารถเดาได้ว่าความรักของทั้งสองจะเกิดขึ้นได้อย่างไรถ้าไม่ได้อ่านหนังสือมาก่อน เพราะเรื่องราวที่เกิดขึ้นไม่ได้มีจุดที่สามารถทำให้เกิดความสัมพันธ์อันลึกซึ้งได้ แต่ถ้าได้นั่งชมไปเรื่อย ๆ จะพบว่าบุคลิกของโอลิเวอร์และเอลิโอคล้ายกันมากคือชอบอ่านหนังสือและมีความคิดแนวปรัชญา เหตุผลนี่อาจเป็นสะพานที่เชื่อมโยงให้ทั้งสองสามารถเดินเข้าหากันได้ พวกเขาไม่ได้คุยกันด้วยคำพูดทั่วไป แต่จะสื่อสารกันผ่านเรื่องราวประวัติศาสตร์ นวนิยาย บทกวี บทเพลง ความคิดทางปรัชญา ผู้เขียนเป็นบุคคลที่ชื่นชมความสัมพันธ์ในลักษณะนี้มากเพราะมันดูลึกซึ้ง อ่อนโยน และผ่านการกลั่นกรองมาเรียบร้อยแล้ว ผู้เขียนจึงมีอารมณ์ร่วมกับภาพยนต์เรื่องนี้มากเป็นพิเศษกลิ่นอายของอิตาลีทางตอนเหนือช่วงปี 80 ช่วยเพิ่มความสวยงามของมุมกล้องให้หวานหยดย้อยมากขึ้นไปอีก ดูแล้วสบายตา สถาปัตยกรรมที่เก่าแก่สามารถเล่าได้ถึงบริบทและความเจริญเติบโตของเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ขอชื่นชมผู้กำกับที่สามารถถ่ายทอดออกมาได้ขนาดนี้ สังเกตได้จาก บริบทการสัญจร เครื่องแต่งกาย ตึกรามบ้านช่อง และบุหรี่ ผู้กำกับทำให้เราเชื่อได้ว่ามันคืออิตาลีช่วง 80 จริง ๆรูปภาพประกอบจาก YouTube ชื่อคลิป "Call Me By Your Name | Official Trailer HD (2017)" ช่อง Sony Pictures Classicsความสัมพันธ์ของเอลิโอและโอลิเวอร์เป็นความรักที่ไม่สามารถบอกใครได้ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะมีความสนใจทางปรัชญามากเพียงใด แต่วัฒนธรรมของอเมริกายุคนั้นผู้ชายรักกันถือว่าเป็นเรื่องต้องห้าม พ่อของโอลิเวอร์ไม่สามารถยอมรับได้เหมือนกับพ่อแม่ของเอลิโอ พ่อแม่ของเอลิโอเปิดกว้างทางความคิดมากเป็นพ่อแม่ตัวอย่างได้เลย นี่มันคือความเจ็บปวดของผู้ชมถึงแม้ว่าความรักของทั้งสองจะสวยงามมากจนทำให้ยิ้มไม่หุบและมีความสุขเมื่อได้เห็นความรักที่มีความหมายของตัวละคร แต่ด้วยความที่ต้องมานั่งลุ้นว่าเรื่องราวของทั้งสองจะเป็นอย่างไรก็แอบเป็นจุดตื่นเต้นของภาพยนตร์เรื่องนี้ได้เช่นกันรูปภาพประกอบจาก YouTube ชื่อคลิป "Call Me By Your Name | Official Trailer HD (2017)" ช่อง Sony Pictures Classicsฉากที่ชอบ หนึ่งฉากที่พ่อแม่และเอลิโอ อยู่ในห้องนั่งเล่นขณะที่ไฟดับ แม่ได้อ่านวรรณกรรมให้เอลิโอฟัง สื่อได้ถึงความรู้สึกของเอลิโอและโอลิเวอร์ที่ตกในฐานะที่ต้องเลือก สองฉากช่วงท้ายเรื่องที่พ่อคุยกับเอลิโอผู้เขียนถึงกับร้องไห้เพราะประโยคนั้นมันดีมาก ๆ จริง สามารถนำไปใช้ได้กับอีกหลายเรื่องไม่ใช่แค่ความรักคุณผู้อ่านท่านใดสนใจหนังรักที่สวยงามและมีความหมายลึกซึ้ง ในบรรยากาศสวย ๆ ช่วงยุค 80 ของอิตาลี แนะนำเรื่อง call me by your name ครับ ไม่ว่าคุณจะเป็นเพศใดก็สามารถรับชมได้ ลักษณะทางกายภาพไม่เคยห้ามความรู้สึก มีแต่วัฒนธรรมของมนุษย์ที่ห้ามมันเอาไว้ ขอบคุณครับรูปภาพประกอบจาก YouTube ชื่อคลิป "Call Me By Your Name | Official Trailer HD (2017)" ช่อง Sony Pictures Classics