ลาล่า อาร์สยาม อาการฟ้อง หวั่นเป็นซึมเศร้า เตรียมพบจิตแพทย์
ลาล่า อาร์สยาม อาการฟ้อง หวั่นเป็นซึมเศร้า เตรียมพบจิตแพทย์
จากข่าวที่มีนักแสดงดังจบชีวิตลงด้วยโรคซึมเศร้า ทำเอานักร้องสาวอย่าง ลาล่า อาร์สยาม หันกลับมามองตัวเอง และหวั่นว่าจะเป็นโรคซึมเศร้า เพราะเคยอยากที่จะกระโดดตึก 4 ชั้น ตอนนี้เตรียมเข้าพบจิตแพทย์ด่วน
กลับมาอวบขึ้น? “ช่วงนี้ปล่อยตัวจริงๆ หลังจากที่ล่าไม่ได้ออกไปไหน มันก็รู้สึกเครียด แล้วก็กิน ตอนนี้มารู้ว่าตัวเองแพ้อาหารหลายอย่าง น้ำหนักเท่าเดิมแต่ตัวมันพอง ลาล่าไม่ได้เข้ายิมเลย เพราะกลัวโควิด
ตอนนี้ดาราติดโควิดกันเยอะมากๆ จนเรากลัวการไปเข้ายิม แต่ก่อนทุกเช้าตื่นมาเราจะเข้ายิม ทุกวันนี้เทรนเนอร์ตามเราก็ปฎิเสธเลย เราไม่เอา เพราะเราต้องทำงานกับกองถ่าย ถ้าเราติดมันจะกลายเป็นคลัสเตอร์ใหญ่
บวกกับอาหารที่เรากินจะโซเดียมเยอะก็ไม่ได้ ลาล่ากินไปแต่ก็เครียด เชื่อไหมน้ำหนักขึ้นมา3 กิโลภายในวันเดียว มันมาจากโซเดียมในพวกส้มตำ ของหมักดองต่างๆ กับโปรตีนที่เราแพ้
วันก่อนหิวมากเลยซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมากิน คิดว่าจะกินรองท้อง ปรากฎว่าอีกพักนึงตาปิด หน้าบวม เราตกใจมาก เฮ้ย! มันเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตอีก อาการแพ้ของลาล่าคืออ้วก นิ้วบวม ตึงขาเหมือนคนเป็นโรคเท้าช้าง ต้องฉีดยาลดบวม กินน้ำอัดเข้าไปแล้วก็ฉี่ออก ให้ได้มากที่สุด ร้อนมากก็ไม่ได้ จะบวมอีก คิดว่ามันมาจากความเครียด ความกดดันในตัวลาล่าเอง”
หลักๆแพ้อะไรบ้าง? “หลักๆคือโซเดียม ของเค็มไม่ได้เลย ต้องหันมากินอาหารไม่ใส่ชูรส กินอาหารแทบจะไม่ใส่น้ำปลาแล้วทุกวันนี้ กินจืดมากๆ เวลาคนมาเห็นก็จะมองแล้วถามว่าล่ากินยังไงถึงอ้วนได้ เมื่อเทียบกับลูลู่ทุกวันนี้กินข้าว 5 มื้อ ลาล่ากิน 1 มื้อแต่น้ำหนักเราขึ้น
เลยมาคิดใหม่ว่าอย่ากดดันตัวเองเลย เอาเท่าที่ได้ ไม่งั้นตายแน่ๆ อีกไม่กี่วันลาล่าจะไปหาหมอจิตแพทย์ ให้เพื่อนดูคิวให้อยู่ สืบเนื่องจากข่าวดาราท่านนึงที่เพิ่งจากเราไป เสียชีวิตเพราะโรคซึมเศร้า ซึ่งเราเองมีภาวะแบบนั้นเหมือนกัน
ตอนที่ไปอัดรายการมาก็มีโอกาสได้คุยกับคุณหมอ เช็คแล้วก็มีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นซึมเศร้าอยู่ ทำให้ทุกวันนี้เรากลัว ลาล่าติ๊กข้อมูลที่เกี่ยวกับความรู้สึกตัวเอง เต็ม20 ลาล่าได้17 มีอันเดียวที่ลาล่ายังไปไม่ถึงคือคิดฆ่าตัวตาย
แต่มันก็มีแว้บเข้ามาที่มองไปตรงระเบียง แล้วคิดว่าชั้น 4 จะตายไหมวะ มันคิดไปขนาดนั้นแล้ว มันต้องปรึกษาคุณหมอแล้ว ถ้าปล่อยให้หนักไปกว่านี้มันจะแย่ มันจะดิ่ง
พอเห็นข่าวเลยยิ่งกระตุ้นเราว่าไม่ได้นะ เราจะอยู่ในภาวะแบบนี้ไม่ได้ ฉะนั้นอะไรที่เป็นลบลาล่าพยายามเอาออก ยัดสิ่งที่มีความสุขใส่เข้าไปแทน เห็นเบื้องหน้าลาล่าดูตลก แต่เบื้องหลังคือไม่ใช่ ที่สุดเลยกับ 3 ปีนี้ เราอยู่กับความเครียดหนักมากๆแล้วการที่จะดึงตัวเองออกมาจากความทุกข์ บางวันก็ข้ามผ่านมันไปได้ บางวันก็ข้ามผ่านมันไปไม่ได้ มันหนักอยู่”
ที่เราคิดว่าเป็นซึมเศร้า หลักๆมาจากสถานการณ์โควิด ? “มาจากโควิดค่ะ 3 ปีที่ผ่านมาเราไม่ได้ทำงานอย่าง100 เปอร์เซ็นต์ โควิดทำให้เราอยู่แต่บ้าน ในชีวิตของลาล่ามันออนทัวร์ มันไม่เคยได้อยู่กับที่ ทำงานตลอด มีคอนเสิร์ต มีรายการ มีละคร คือเราออกจากบ้านทุกวัน ตั้งแต่เช้ายันมืด ได้เจอผู้คนมากมาย
แต่ 1 ปีช่วงแรกๆที่เราต้องอยู่แต่ในห้อง แล้วไม่มีอะไรทำเลย มันก็เกิดขึ้น บวกกับภาวะเศรษฐกิจ ที่ทุกคนแย่ เราเองก็แย่หนัก พอจะเริ่มก็มีปัญหาอีกวนๆอยู่แบบนี้ เราอายุมากขึ้น เป็นหัวหน้าครอบครัว ทุกอย่างมันก็มาลงที่เราหมด มันกลายเป็นความกดดันที่เราจะต้องสำเร็จ แล้วจะต้องสำเร็จอะไรบ้าง รูปร่าง หน้าตา ธุรกิจ การงาน มันมีแต่คำว่าสำเร็จไปทุกอย่าง”
กลัวกับโรคซึมเศร้าไหม? “กลัว เราคิดนะว่าเขาคิดกันขนาดไหนถึงคิดฆ่าตัวตาย จากที่เจอมา มันไม่ได้คิดนานเลยนะ 1 2 3 ปุ้งทันที เรากลัวว่า ณ ตอนนั้นเราจะคิด ถึงจุดนั้นที่เราจะไปแล้ว มันไม่มีใครมาช่วยดึงช่วงห้ามเราไว้ทัน”
ตอนนี้อยู่คนเดียวไม่ได้? “ไม่ได้ ขอแค่ให้มีเพื่อนคุย ลูลู่จะคอยส่งคลิป ทักมาคุยให้เราไม่เหงา ตอนนี้เราพยายามทำทุกอย่างให้เราไม่เหงา พยายามออกจากบ้าน วันไหนรู้สึกอยู่คนเดียวไม่ได้ก็จะไปอยู่บ้านเพื่อนแล้วก็กินๆๆ เพื่อนก็พาไปรับลมทะเล
คือทำยังไงก็ได้ให้เราไม่อยู่กับตรงนั้นต่อไป อารมณ์ที่เรารู้สึกลอย ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ในหัว มันน่ากลัวมากเลยนะคะ ลอยๆ นั่งร้องไห้โดยไม่มีเหตุผล เรารู้สึกว่าเรามันหนักแล้วนะ ก็คงจะต้องเจอหมอให้เร็วที่สุด”
ขอบคุณรูปจากไอจี : lala_bigflower