เข้าฉายกันไปแล้วกับภาพยนตร์สัตว์มหัศจรรย์แห่ง Wizarding World อย่าง Fantastic Beasts: The Secrets of Dumbledore (2022) ที่เชื่อกันว่าเหล่าแฟน ๆ และคนดูทั้งหลายคงได้ไปรับชมกันในโรงภาพยนตร์กันแล้ว ซึ่งก็ดำเนินกันมาจนถึงภาคที่ 3 แล้วหลังจากที่มีการวางแผนไว้ถึง 5 ภาคสำหรับแฟรนไชส์สัตว์มหัศจรรย์หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ “Fantastic Beasts” แต่อย่างไรก็ตาม จากตอนจบใน Fantastic Beasts: The Secrets of Dumbledore ทำให้เกิดประเด็นคำถามและข้อสังเกตที่น่าสงสัยขึ้นมาว่าแฟรนไชส์ชุดนี้ ควรจะไปต่อ หรือควรจะพอแค่นี้ดี? ก้าวต่อไปของแฟรนไชส์ Fantastic Beasts ชุดนี้ควรจะเป็นอย่างไร? ครั้งนี้เราจะมาลองวิเคราะห์ถึงแนวทางและความเป็นไปได้กันครับนับตั้งแต่มหากาพย์สงครามแห่งโลกพ่อมดแม่มดอย่างแฟรนไชส์พ่อมดน้อย Harry Potter จบลงอย่างสมบูรณ์แบบและสวยงามใน Harry Potter and the Deathly Hallows - Part 2 (2011) เหล่าคนดูทั้งหลายก็ไม่ได้กลับไปเยือนโลกแห่งเวทมนตร์หรือ Wizarding World ในโรงภาพยนตร์กันอีกเลย ทิ้งไว้แต่เสียงปรบมือและความปลื้มปิติยินดีจากทั่วโลก จนเมื่อเสียงเพลงบรรเลงทำนองอันคุ้นหูดังขึ้นมาอีกครั้งเหมือนจะบอกว่าเป็นดั่งเวลาอันสมควรแล้วที่เหล่าคนดูทุกคนจะได้หวนคืนกลับสู่ Wizarding World อีกครั้งกับการเปิดตัวแฟรนไชส์ภาพยนตร์ใหม่ที่ถือว่าเป็นภาคแยก (Spin-off) และภาคต้น (Prequel) ของเรื่องราวใน Harry Potter ที่สร้างจากหนังสือเล่มหนึ่งที่เขียนโดย J.K. Rowling เจ้าของผู้สร้างสรรค์โลกแห่งเวทมนตร์อันโด่งดังนี้อย่าง Fantastic Beasts and Where to Find Them (2016) ซึ่งตามมาด้วยภาคต่อ Fantastic Beasts: The Crimes of Grindelwald (2018) และล่าสุดอย่าง Fantastic Beasts: The Secrets of Dumbledore (2022) ที่ต้องยอมรับว่า การมาของแฟรนไชส์ภาพยนตร์ Fantastic Beasts ชุดนี้ช่วยทำให้เรามีความสุขกับการได้เห็นโลกพ่อมดแม่มดน้อยเหล่านี้กลับมาปรากฎตัวอีกครั้งเป็นเวลาหลายปีหลังจากที่ The Crimes of Grindelwald (2018) ได้ทิ้งปมจุดชนวนอันใหญ่หลวงเอาไว้ให้คนดูมึนงงและคาใจอย่างมากที่สุด Fantastic Beasts: The Secrets of Dumbledore (2022) บอกเล่าเรื่องราวการผจญภัยบทต่อไปของนักสัตว์วิเศษวิทยา Newt Scamander (Eddie Redmayne) ที่ได้รับมอบหมายภารกิจสำคัญจากพ่อมดแห่งยุค Albus Dumbledore (Jude Law) ร่วมทีมกับเหล่าพ่อมดแม่มดทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่อย่าง Theseus Scamander (Callum Turner), Bunty (Victoria Yeates), Lally Hicks (Jessica Williams), Yusuf Kama (William Nadylam) และรวมถึงมักเกิล Jacob Kowalski (Dan Fogler) ในการหยุดยั้งแผนการร้ายของพ่อมดผู้ชั่วร้าย Gellert Grindelwald (Mads Mikkelsen) ที่หวังจะก่อสงครามครั้งใหญ่เพื่อที่จะทำลายโลกของเหล่ามนุษย์จนอาจจะสั่นคลอนโลกของเหล่าผู้วิเศษได้เลยทีเดียวก่อนจะไปพูดถึงประเด็นข้อสังเกตตรงนั้น อยากจะมาเล่าถึงรีวิวเบื้องต้นของภาพยนตร์เรื่องนี้กันเสียก่อน เพราะหลังจากที่ภาค The Crimes of Grindelwald เข้าฉายไปเมื่อ 4 ปีก่อน ก็เป็นความจริงที่ต้องยอมรับว่า ภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวไม่ได้ประสบความสำเร็จมากนักทั้งในเชิงรายได้และคำวิจารณ์ เมื่อเทียบกับภาคแรกของแฟรนไชส์ ข้อด้อยที่เห็นได้ชัดของภาคที่แล้ว คือ การเล่าเรื่องที่ช้าและสับสนจนเกินไป จนแทบทำให้บางฉากรู้สึกไม่มีเสน่ห์ ขาดพลัง และไม่ส่งผลกระทบต่อความรู้สึกเท่าที่ควร รวมถึงเหมือนตัวภาพยนตร์เริ่มที่จะไม่แน่ใจในทิศทางที่ควรจะไปสักเท่าไรว่าจะเล่าเรื่องราวของสัตว์มหัศจรรย์ดี ปริศนาของตัวละครดี หรือเล่าเรื่องราวการเข้าสู่สงครามระหว่างสองโลกที่กำลังจะเกิดขึ้นดี จนทำให้เหล่าแฟน ๆ รู้สึกเป็นห่วงและกังวลใจเป็นอย่างมากเกี่ยวกับการเดินทางของแฟรนไชส์ชุดนี้แต่สำหรับ Fantastic Beasts: The Secrets of Dumbledore ได้มีการนำข้อผิดพลาดจากภาคที่แล้วไปปรับปรุงและแก้ไข จนเราสามารถพูดได้ว่า ตัวบทภาพยนตร์มีการพัฒนาขึ้นจากภาคที่แล้วจริง ๆ มีการเล่าเรื่องที่ง่าย กระชับ และไม่ซับซ้อน อาจจะมีบางช่วงที่ยังรู้สึกเฉื่อยไปอยู่บ้าง แต่ก็สามารถทำให้ผู้ชมให้ความสนใจได้มากขึ้น และรู้สึกสนุกสนานได้เกือบตลอดทั้งเรื่อง ทุกตัวละครต่างมีหน้าที่และภารกิจของตัวเองที่ต้องทำให้สำเร็จเหมือนได้ดูการผจญภัยของทีมสายลับแห่งโลกเวทมนตร์แบบสนุก ๆ ชวนลุ้น และน่าติดตาม ไม่ว่าจะเป็นตัวละครของ Newt ที่ยังคงความเสน่ห์ และนับวันก็ยิ่งทวีคูณขึ้นกับชายผู้เป็นที่รักของสัตว์มหัศจรรย์ ซึ่งส่วนหนึ่งก็ต้องยกความดีความชอบให้กับการแสดงของ Eddie Redmayne ที่ช่วยถ่ายทอดตัวละครผู้นี้ให้คนดูรู้สึกรัก หลงใหล และอยากจะเอาใจช่วยตลอดเวลา หรือจะเป็นตัวละครที่เรียกได้ว่าเป็นตัวแทนของเหล่าคนดูมักเกิลแบบเราอย่าง Jacob ของ Dan Fogler ที่นอกจากจะเป็นตัวละครเรียกเสียงหัวเราะที่เราทุกคนต่างหลงรักแล้ว บทบาทของเขาก็มีความสำคัญและมีส่วนช่วยต่อภารกิจในครั้งนี้ได้เป็นอย่างดี จนทำให้เรารู้สึกอยากจะจับไม้กายสิทธิ์แล้วลองร่ายคาถาออกมาเลย หรือจะเป็นอีกหนึ่งตัวละครนำของเรื่องอย่าง Albus Dumbledore ของ Jude Law ที่มีการถ่ายทอดออกมาอย่างมีชั้นเชิง ดูมีความเรียบง่าย สบาย ๆ แต่ก็เต็มไปด้วยความฉลาด รอบคอบ และปราดเปรียวสมชื่อพ่อมดแห่งยุคจริง ๆ รวมถึงตัวละครพ่อมดผู้ชั่วร้าย Gellert Grindelwald ของ Mads Mikkelsen ที่สามารถสร้างสรรค์ตัวละครนี้ให้ดูใหม่และแตกต่างจากเวอร์ชั่นของ Johnny Depp ได้อย่างมีเอกลักษณ์ใหม่ขึ้นมาทันที เน้นความสุขุมมากขึ้น แต่ก็ยังแฝงไปด้วยความน่ากลัวและน่าเกรงขามที่ไม่อาจละสายตาไปได้อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าตัวบทภาพยนตร์มีการพัฒนาขึ้นจากภาคที่แล้วไปในทิศทางที่ดี แต่ก็ยังไม่สามารถหนีคำครหาที่ว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ยังไม่สามารถกำหนดทิศทางของแฟรนไชส์นี้ได้สักที ดังจะเห็นได้ว่า มีการหยิบยกเรื่องราวของสัตว์มหัศจรรย์มาสอดแทรกอยู่ในสงครามกลางเมืองของเหล่าผู้วิเศษ ที่สามารถมองได้เป็นทั้งข้อดีและข้อเสียของความน่าสนใจในเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกัน เพราะต้องยอมรับว่าเสน่ห์ของสัตว์มหัศจรรย์ในภาคนี้ยังไม่สามารถเทียบเคียงกับการเปิดตัวในภาคแรกอย่าง Fantastic Beasts and Where to Find Them (2016) ได้เลย สาเหตุที่เป็นแบบนี้อาจจะสามารถวิเคราะห์ได้ว่า เนื่องด้วยการเล่าเรื่องของแฟรนไชส์ในตอนนี้มีสองประเด็นที่ต้องบอกว่ามีความสำคัญและได้รับความสนใจเท่า ๆ กัน นั่นคือ เรื่องราวอันน่าอัศจรรย์ใจของเหล่าสัตว์มหัศจรรย์ในโลกแห่งเวทมนตร์ที่เดินเรื่องโดย Newt Scamander กับเรื่องราวการเดินทางเข้าสู่สงครามครั้งใหญ่ของโลกพ่อมดแม่มดและความสัมพันธ์อันลึกซึ้งระหว่าง Albus Dumbledore และ Gellert Grindelwaldแฟรนไชส์ภาพยนตร์ Fantastic Beasts เปิดตัวด้วยการนำเสนอความน่าอัศจรรย์ใจของเหล่าสัตว์มหัศจรรย์นานาชนิดในโลกแห่งเวทมนตร์ที่นำโดย Newt Scamander จนสามารถเรียกเสียงความตื่นเต้นของเหล่าคนดูและแฟน ๆ ได้อยู่หมัด และประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามดั่งที่เห็นใน Fantastic Beasts and Where to Find Them (2016) ที่ถึงแม้ในภาพยนตร์จะสอดแทรกตัวละครอย่าง Gellert Grindelwald มานิดหน่อยในตอนท้ายเรื่อง แต่ก็หยิบมาขยายความให้เด่นชัดสุดใน The Crimes of Grindelwald (2018) กับการวางแผนอันชั่วร้ายเชิงจิตวิทยาในการปลุกปั้นระดมพลกองทัพของเขา และการมาปรากฎตัวครั้งแรกของ Albus Dumbledore วัยหนุ่ม จนทำให้บทบาทของสัตว์มหัศจรรย์ถูกลดลงไปเยอะในภาคที่สองของแฟรนไชส์ และมาเพิ่มบทบาทให้ทั้งสองเรื่องราวมีน้ำหนักที่เท่ากันในภาคที่สามอย่าง The Secrets of Dumbledore (2022)แต่ด้วยในตอนจบของภาพยนตร์ The Secrets of Dumbledore ที่เชื่อว่าทางเหล่าผู้สร้างได้เล็งเห็นและเตรียมแผนสำรองเอาไว้จึงเลือกที่จะจบตอนดังที่ได้รับชมกันในโรงภาพยนตร์ กล่าวคือ ก้าวต่อไปของแฟรนไชส์สามารถเลือกได้ว่าจะจบเนื้อเรื่องที่ภาคนี้หรือไม่ เพราะเรื่องราวในภาคนี้ได้ให้คำตอบและบทสรุปอย่างกระจ่างไปมากทีเดียวสำหรับปริศนาต่าง ๆ มากมายในเรื่องที่ถึงแม้จะมีการเฉลยอย่างจืดชืด คลุมเครือและดูไม่มีน้ำหนักไปหน่อย แต่ก็อาจจะไม่มีความจำเป็นใด ๆ ที่จะต้องสร้างภาคต่อของแฟรนไชส์ชุดนี้ ตามแหล่งข่าวรายงานที่เปิดเผยขึ้นมาว่า ยังไม่มีแผนการเขียนบทสำหรับภาคที่ 4 ของแฟรนไชส์ ทางผู้สร้างยังคงต้องการพิจารณาถึงผลตอบรับที่ได้ของภาพยนตร์เรื่องนี้ก่อน แต่กระนั้นหากแฟรนไชส์เลือกที่จะดำเนินเนื้อเรื่องต่อไป สิ่งที่ผู้สร้างจะต้องวางแผนและระมัดระวังกันให้มากขึ้น คือ ทิศทางของแฟรนไชส์ที่จะเดินต่อ จะออกแบบเรื่องราวอย่างไรให้มีความน่าสนใจ และดึงดูดผู้ชมให้ติดตามกันได้ จะยังคงสามารถดึงทั้งสองเรื่องราวให้ดำเนินอยู่ร่วมกันในภาพยนตร์เรื่องเดียวกันได้ไหม นี่คงเป็นโจทย์ที่เหล่าผู้สร้างคงต้องตีให้แตกสำหรับการผจญภัยในครั้งถัดไปตัวเลือกอีกแบบสำหรับแฟรนไชส์ชุดนี้ที่ได้รับความสนใจจากเหล่าแฟน ๆ ในขณะนี้ คือ การทำภาคแยกออกมาเป็นสองเส้นเรื่องใหม่แทนเลย เรื่องแรก คือ การเล่าเรื่องของการผจญภัยครั้งใหม่ของ Newt Scamander เกี่ยวกับสัตว์มหัศจรรย์ อันนำไปสู่การเขียนหนังสือของเขาในที่สุด และอีกเส้นเรื่องหนึ่ง คือ บทต่อไปของการเผชิญหน้ากันระหว่างสองตัวละครพ่อมดแห่งยุคอย่าง Albus Dumbledore และ Gellert Grindelwald ที่เชื่อว่าแฟน ๆ หลายคนต้องการเห็นบทสรุปของสงครามอันยิ่งใหญ่ที่มากกว่านี้ หรืออาจจะนำเสนอเรื่องราวใหม่ ๆ และมุมมองใหม่ ๆ ในโลกแห่งเวทมนตร์ให้กว้างไกลออกไป เพราะเชื่อว่าเรื่องราวใน Wizarding World ยังคงมีอะไรอีกมากมายที่ทำให้พวกเราชาวมักเกิลได้ให้ความสนใจและติดตามกันไปตลอดเหมือนดั่งแฟรนไชส์ Harry Potter ที่เคยสร้างปรากฎการณ์มาแล้วทั่วโลกสุดท้ายนี้ ไม่ว่าก้าวต่อไปของแฟรนไชส์ภาพยนตร์ Fantastic Beasts จะเป็นอย่างไรก็คงจะขึ้นอยู่ความสำเร็จของภาพยนตร์และเหล่าแฟน ๆ ที่คอยติดตามและเชื่อมั่นในเรื่องราวและตัวละครเหล่านี้ ซึ่งเชื่อว่าทุกครั้งที่ Wizarding World ได้กลับมาโลดแล่นบนจอภาพยนตร์ เหล่าคนดูทุกคนจะให้การต้อนรับเป็นอย่างดีเสมอกับการได้เห็นโลกของพ่อมดแม่มดที่วิเศษได้ดำเนินและสานต่อไปอย่างไม่จบสิ้น Fantastic Beasts: The Secrets of Dumbledore หรือ สัตว์มหัศจรรย์ ความลับของดัมเบิลดอร์ ฉายแล้ววันนี้ในโรงภาพยนตร์https://www.youtube.com/watch?v=znjUF-hMC94ขอบคุณข้อมูล รูปภาพและวิดีโอที่มาข้อมูล: Wizarding World , IGNภาพปก | ภาพประกอบที่ 1 | ภาพประกอบที่ 2 | ภาพประกอบที่ 3 | ภาพประกอบที่ 4 | ภาพประกอบที่ 5 | ภาพประกอบที่ 6 | ภาพประกอบที่ 7 จาก Official Facebook Fantastic Beasts Movieคลิปวิดีโอจาก Youtube: Warner Bros. Thailandอัปเดตข่าว ดูหนัง ซีรีส์ใหม่ ฟังเพลงฮิตสุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID ฟรี!