กอบกู้โลกไปกับ Jung_E หรือ จอง_อี ภาพยนตร์แอ็กชันไซไฟเรื่องใหม่ล่าสุดจาก Netflix ที่ได้นักแสดงชั้นนำอย่าง คิมฮยอนจู คังซูยอน และ รยูคยองซู มาร่วมกันถ่ายทอดเรื่องราวเหนือจินตนาการของหุ่นยนต์รบเอไอ การต่อสู้กับความแร้นแค้นจากภาวะอดอยากครั้งนี้จะเป็นอย่างไร เตรียมออกเดินทางสู่โลกอนาคตที่รออยู่ไปพร้อมกัน เรื่องย่อJung_E มีฉากหลังอยู่ในศตวรรษที่ 22 หลังโลกเกิดวิกฤตจากสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง เป็นเหตุให้มนุษย์ต้องอพยพไปอาศัยยังเชลเตอร์ที่สร้างขึ้นในอวกาศ ทว่ากลับเกิดเหตุการณ์เลวร้ายยิ่งกว่าเมื่อคนบางกลุ่มได้ลุกขึ้นมาก่อตั้งเขตการปกครองตนเองนามว่า อาเดรียน จนก่อให้เกิดสงครามแย่งชิงดินแดนที่ยืดเยื้อยาวนาน มากไปกว่านั้นอนาคตของโลกจักรกลยังมีทีท่าว่าจะพังทลายลงเมื่อ ยุนจองอี (รับบทโดย คิมฮยอนจู) ทหารรับจ้างฝ่ายพันธมิตรผู้แข็งแกร่งได้เผชิญหน้ากับความล้มเหลวระหว่างปฏิบัติการต่อสู้ น่าเศร้าที่นักรบผู้นี้ได้กลายเป็นเจ้าหญิงนิทราไปตลอดกาลเพื่อปกป้องอาณาเขตจากฝ่ายอาเดรียน โครนอยด์ สถาบันวิจัยภายใต้การกำกับดูแลของฝ่ายพันธมิตร จึงคิดค้นนวัตกรรมโคลนนิ่งสมองของยุนจองอีมาใช้ประดิษฐ์หุ่นยนต์แอนดรอยด์เพื่อทำสงคราม ทว่าเทคโนโลยีดังกล่าวกลับประสบปัญหาบางอย่างที่ทำให้โครงการ Jung_E ไม่ประสบความสำเร็จตามที่คาดคิด จึงเป็นหน้าที่ของ ยุนซอฮยอน (รับบทโดย คังซูยอน) นักวิจัยผู้เป็นลูกสาวของยุนจองอีต้องเข้ามามีส่วนสำคัญในการตามหาสาเหตุที่แท้จริง เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้เธอได้ค้นพบความลับอันน่าสะพรึงกลัว นำไปสู่สงครามจักรกลที่รุนแรงเกินกว่าจะรับมือ บทบาทนักแสดงคังซูยอน รับบทเป็น ซอฮยอน ลูกสาวของยุนจองอีผู้กลายเป็นหัวหน้าทีมสถาบันวิจัย โครนอยด์ เธอทำหน้าที่พัฒนาการโคลนสมองเพื่อสร้างสรรค์เทคโนโลยีให้เหมาะสมกับวิกฤตบนโลกมนุษย์ ภารกิจอันยิ่งใหญ่ดังกล่าวมาพร้อมกับความรับผิดชอบในโครงการผลิตหุ่นยนต์รบ Jung_Eคิมฮยอนจู รับบทเป็น ยุนจองอี อดีตผู้นำฝ่ายพันธมิตรผู้กลายเป็นต้นแบบในการโคลนนิ่งหุ่นยนต์รบเอไอ เธอถูกขนานนามว่า ทหารรับจ้างในตำนาน เนื่องจากการคว้าชัยชนะนับครั้งไม่ถ้วนจากการร่วมต่อสู้ในสงครามกลางเมืองที่ยืดเยื้อ หลังจากโลกแตกสลายเพราะวิกฤตทางอากาศที่รุนแรงรยูคยองซู รับบทเป็น คิมซังฮุน นักวิจัยที่ทำทุกวิถีทางเพื่อให้โครงการผลิตหุ่นยนต์รบประสบความสำเร็จ เนื่องจากเป็นกุญแจสำคัญชี้เป็นชี้ตายถึงชัยชนะของกองกำลังฝ่ายพันธมิตรในสงครามกลางเมือง ความกดดันดังกล่าวจึงทำให้เขาทะเยอทะยานจนสูญสิ้นความเป็นมนุษย์ จอง_อี หรือ Jung_E หนังแอ็กชันผสานกลิ่นไซไฟ หนึ่งในออริจินัลคอนเทนต์เรื่องแรกของปี 2023 จาก Netflix นั่งแท่นคุมบังเหียนโดยปรมาจารย์ชั้นครู ผู้กำกับยอนซังโฮ จากผลงานชื่อดังอย่าง Train to Busan (2016) Peninsula (2020) และ Hellbound (2021) ที่ครั้งนี้ทำหน้าที่ควบคุมการผลิตและเขียนบทภาพยนตร์ด้วยตัวเอง ส่วนเรื่องราวสุดเข้มข้นในโลกอนาคตที่ว่านี้จะเป็นอย่างไร ความล้ำสมัยจะถูกถ่ายทอดออกมาในรูปแบบใด สนุกและน่าติดตามขนาดไหน ขออาสามารีวิวเป็นแนวทางให้เช่นเคย คอนเซปต์ไซไฟทันสมัย พร้อมลายเซ็นดราม่าทางถนัดเกาหลีJung_E ถือเป็นงานที่ผู้กำกับยอนซังโฮต้องการฉีกกรอบทางถนัดของตัวเอง กล่าวถึงวิกฤตสิ่งแวดล้อมอันเป็นเหตุให้โลกถึงกาลอวสาน ปูทางไปสู่การบอกเล่าเนื้อหาสาระแนว ไซเบอร์พังค์ (Cyberpunk) อย่างชัดเจน ด้วยการหยิบคอนเซปต์เกี่ยวกับ หุ่นยนต์รบแอนดรอยด์ อันได้มาจากแขนงความคิดทางวิทยาศาสตร์แห่งโลกอนาคตมาต่อยอดให้ล้ำสมัย ทว่าในทางกลับกันยิ่งเทคโนโลยีเจริญก้าวหน้าไปมากเท่าไร คุณภาพชีวิต สภาพอากาศ ตึกรามบ้านช่อง รวมถึงศีลธรรมในใจมนุษย์กลับตกต่ำลงจนเป็นเหตุให้พวกเขาต้องมีชีวิตอยู่ในสังคม ดิสโทเปีย (Dystopia) อันน่าสิ้นหวังนั่นเองปฏิเสธไม่ได้ว่า จอง_อี จุดประกายความน่าติดตามตั้งแต่ได้อ่านเรื่องย่อ มากไปกว่านั้นยังใช้ดราม่าครอบครัวมาปรุงแต่งเข้ากับแนวคิดอันล้ำสมัยได้อย่างกลมกลืน ไม่ว่าจะเป็นการใช้เทคโนโลยีเพื่อทดแทนสิ่งที่สูญเสียไปของครอบครัว ลูกที่พยายามปกป้องแม่ที่เป็นเพียงหุ่นยนต์จนถึงวินาทีสุดท้าย ที่สำคัญองค์ประกอบมากมายหลายอย่างยังแฝงกลิ่นอายปรัชญาชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการพูดถึงความโลภอันไม่มีที่สิ้นสุดของมนุษย์ การใช้จักรกลเป็นเครื่องสนองความต้องการของตัวเอง และการนำหุ่นยนต์ไปใช้เป็นวัตถุทางเพศ ทั้งหมดจึงเป็นมิติอันน่าประทับใจที่ไปไกลเกินกว่าหนังไซไฟที่เราเคยเห็น งานสร้างยิ่งใหญ่ แอ็กชันถึงใจ โปรดักชันเสิร์ฟให้แบบจัดเต็มเมื่อ Jung_E ประกาศศักดาว่าตนเป็นภาพยนตร์แอ็กชันไซไฟเต็มรูปแบบเรื่องแรกของเกาหลี หลายคนจึงคาดหวังว่าคุณภาพงานผลิตจะต้องยิ่งใหญ่สมการรอคอย แน่นอนว่าชื่อชั้นของผู้กำกับยอนซังโฮย่อมมาพร้อมมาตรฐานที่เชื่อถือได้อยู่แล้ว สิ่งที่น่าประทับใจคือการเนรมิตเชลเตอร์เหนืออวกาศได้อย่างสมจริง สะท้อนผ่านเครื่องไม้เครื่องมือ สถาปัตยกรรม ยานพาหนะ รวมทั้งเหล่าหุ่นยนต์ที่ผ่านการออกแบบมาอย่างล้ำลึก ถือเป็นภาพยนตร์ที่ใช้งานคอมพิวเตอร์กราฟิกเล่าเรื่องได้อย่างคุ้มค่า แม้รายละเอียดจะยังไม่สามารถเทียบชั้นฝั่งฮอลลีวูดได้ แต่ภาพรวมถือว่าเหนือความคาดหมายมากทีเดียวสำหรับใครที่คิดว่า จอง_อี จะมาพร้อมฉากแอ็กชันเต็มสตรีมชนิดรัวกระสุนใส่กันแบบน็อนสต็อป คงต้องบอกว่าหนังไม่ได้ให้น้ำหนักไปกับบรรยากาศดังกล่าวตามที่หลายคนคาดหวัง แม้การออกแบบฉากต่อสู้จะสามารถทำออกมาได้ค่อนข้างดี ใช้เทคนิกพิเศษทั้งมุมกล้อง ดนตรี อุปกรณ์ประกอบฉากช่วยขับจินตนาการ เสริมความตื่นเต้นให้กับผู้ชมได้อย่างถูกจังหวะ ทว่าคิวบู๊เหล่านี้กลับเป็นเพี้ยงเสี้ยวหนึ่งของเนื้อหาโดยรวมเพียงเท่านั้น น่าเสียดายที่หนังเทน้ำหนักให้กับเนื้อเรื่องการใช้ชีวิตบนโลกจักรกลที่ส่งกลิ่นดราม่าออกมามากกว่านั่นเอง บทบาทท้าทาย นักแสดงงัดไม้ตายปล่อยของแบบไม่มีกั๊กอย่างที่รู้ว่า Jung_E ได้นักแสดงเบอร์ต้นมาปะทะฝีมือกันทั้ง คิมฮยอนจู ที่ไม่ค่อยเห็นเธอในบทบาทเช่นนี้กันบ่อยนัก นอกจากต้องแสดงออกด้วยลักษณะท่าทางเฉกเช่นหุ่นยนต์แล้ว ยังต้องท้าทายตัวเองผ่านฉากแอ็กชันที่เหนือชั้นไปมากกว่าเดิม แน่นอนว่าด้วยประสบการณ์และฝีมือระดับหาตัวจับยากก็ไม่ทำให้เราผิดหวัง เธอสามารถถ่ายทอดบุคลิกหุ่นยนต์รบได้อย่างยอดเยี่ยมจนต้องยกนิ้วให้ รวมไปถึง รยูคยองซู กับการเป็นตัวร้ายที่ยังคงใช้บุคลิกเกรียน ๆ แสบ ๆ มาสร้างสีสันให้เรื่องราวฉูดฉาดน่าติดตามได้เช่นเคย ถือเป็นสองตัวละครหลักที่ทำหน้าที่พาหนังไปถึงจุดจบได้อย่างคงเส้นคงวาการออกแบบบุคลิกตัวละครใน จอง_อี อาจเป็นจุดบกพร่องอยู่บ้าง ด้วยการตีโจทย์ระหว่างความเป็นมนุษย์กับหุ่นยนต์ที่ยากเอาการ ทั้งหมดเป็นปัจจัยสำคัญที่อาจทำให้เราไม่อินไปกับการกระทำของตัวละครเท่าที่ควร แต่ถึงกระนั้นเรื่องนี้ยังเป็นผลงานที่นักแสดงหญิงเจ้าบทบาท คังซูยอน ได้ฝากไว้เป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่เธอจะลาจากโลกนี้ไป ตามที่ปรากฏในข่าวการเสียชีวิตด้วยปัญหาสุขภาพเมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2022 นี่จึงเป็นตัวละครสุดท้ายที่เธอได้มอบให้กับผู้ชมที่รักและสนับสนุนอย่างสุดความสามารถ โดยเฉพาะซีนอารมณ์ที่อาจทำให้หลายคนปล่อยโฮออกมาโดยไม่รู้ตัวJung_E ถือเป็นภาพยนตร์ไซไฟแอ็กชันที่เหนือชั้นด้วยความเล่นใหญ่จัดเต็ม มุ่งขายเทคนิกการสร้างที่ผ่านกระบวนการคิดอันลึกซึ้งจนออกมาเป็นงานคอมพิวเตอร์กราฟิกมาตรฐานสูง พูดได้เต็มปากว่าสามารถเอาขึ้นฉายโรงได้แบบไม่อายใคร ทั้งยังสร้างความน่าสนใจด้วยแนวคิดอันทันสมัย คอนเซปต์ที่กลั่นกรองออกมาเป็นเนื้อหาสาระที่จรรโลงสังคมนอกเหนือจากความบันเทิง แม้ต้องแลกมาด้วยตัวบท พฤติกรรมของตัวละคร รวมทั้งวิธีการเล่าเรื่องที่ยังไม่ลื่นไหลจนกระทบต่อความสนุกระหว่างรับชมอยู่บ้าง แต่ภาพรวมยังถือเป็นหนังล้ำยุคอีกเรื่องที่เปิดดูได้ไม่เสียเวลาอย่างแน่นอน ตัวอย่างภาพยนตร์(YouTube: Netflix Thailand)ติดตามบทสรุปสงครามเอไอได้ใน Jung_E จอง_อี ความยาว 1 ชั่วโมง 39 นาที สามารถรับชมได้แล้ววันนี้ ทั้งฉบับบรรยายไทยและพากย์ไทยถูกลิขสิทธิ์ทาง Netflix ผ่านเว็บไซต์ แอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟนและอุปกรณ์ที่รองรับ รวมทั้งทางกล่อง TrueID TV ได้ด้วยเช่นกันรูปภาพประกอบบทความจาก- Official Twitter: Netflix Koreaภาพหน้าปก | ภาพประกอบที่ 1 | ภาพประกอบที่ 2 | ภาพประกอบที่ 3 | ภาพประกอบที่ 4 | ภาพประกอบที่ 5 | ภาพประกอบที่ 6 | ภาพประกอบที่ 7 | ภาพประกอบที่ 8 | ภาพประกอบที่ 9 | ภาพประกอบที่ 10 | ภาพประกอบที่ 11บทความแนะนำจากผู้เขียน- รีวิว โรแมนซ์ฉบับเร่งรัด Crash Course in Romance (2023) ซีรีส์รอมคอมจาก จอนโดยอน x จองคยองโฮ- รีวิว Payback : Money and Power (2023) ซีรีส์แก้แค้นตีแผ่อำนาจและเงินตราจาก อีซอนกยุน x มุนแชวอน- รีวิว Island เกาะปีศาจ (2022) ซีรีส์แฟนตาซีสายดาร์กจาก คิมนัมกิล x อีดาฮี x ชาอึนอู จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !