"ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก" เริ่มต้นก้าวสู่เส้นทางบันเทิง จากการเป็นนักแสดงในวัยเด็ก ต่อเนื่องมาถึงปัจจุบันตั้งแต่ปี 2003 รวมเวลากว่า 21 ปี จึงไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจแต่อย่างใด เมื่อเห็นว่า "ใบเฟิร์น" รับรางวัลนักแสดงหญิงยอดเยี่ยม จากหลายเวทีการประกาศรางวัล ไม่ว่าจะบทบาทการแสดงในคาแรคเตอร์แบบใด ดราม่า สะเทือนอารมณ์ บู๊ แอคชั่น คอมเมอดี้ ฯลฯ ใบเฟิร์นสามารถพลิกบทบาทได้ทุกบท เข้าถึงคาแรคเตอร์ในทุก ๆ ตัวละครอย่างยอดเยี่ยม และในช่วงเวลานี้ ด้วยบทบาท "ทองดี" หรือ "ทองประกาย" ในละคร "ทองประกายแสด" ที่โชว์ทุกด้านความสามารถในด้านการแสดง ทำให้นึกถึงผลงานเรื่องอื่น ๆ ของใบเฟิร์นเน้น ๆ กันที่การจัดเต็มละครแนวดราม่าสะเทือนอารมณ์ ซึ่งมีอยู่หลายเรื่องด้วยกัน ดังนั้นเรามาส่องผลงานของใบเฟิร์นกันสัก 5 เรื่อง เป็นเรื่องที่เราประทับใจทั้งจากที่ติดตามชมมาแล้ว และที่อยากจะติดตามกันต่อไป ตรงใจกับเพื่อน ๆ หรือเปล่า มาส่องไปพร้อม ๆ กันค่ะ1. ละคร "หลงไฟ" (2017)"หลงไฟ" บทประพันธ์ "กฤษณา อโศกสิน" ที่ถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตของผู้หญิง 2 คน "ก้านแก้ว" กับ "ชาลา" เพื่อนสนิทที่เติบโตมาด้วยกัน แต่เลือกทางเดินชีวิตที่แตกต่างกัน ท้ายที่สุดแล้ว ผลจากการกระทำของทั้ง 2 คน ก็แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ด้วยเนื้อหาของเรื่องที่เข้มข้น เล่าชีวิตของก้านแก้วที่ชีวิตถลำลึกไปกับด้านมืดจนสุดทาง การแสดงของนักแสดงในบท "ก้านแก้ว" จึงเป็นสิ่งที่ท้าทายความสามารถของนักแสดงที่มารับบทนี้อย่างมาก และด้วยความสามารถของผู้ที่มารับบทนี้ ทำให้เมื่อสร้างเป็นภาพยนตร์และละคร ผลงานที่ออกมาสู่สายตาประชาชนจึงประสบความสำเร็จอย่างมาก เริ่มจาก "ฮันนี่ ภัสสร" (1990) "อุ้ม ลักขณา" (2001) และ "ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก" (2017) ชีวิตของก้านแก้ว เริ่มต้นจากหญิงสาวที่ฐานะไม่ดีนัก แต่ทะเยอทะยานต้องการมีชีวิตที่ดีกว่าเดิม ไม่แคร์แม้ว่าต้องแลกชีวิตดี ๆ ในความคิดของตนเอง ด้วยการขายบริการ ขณะที่ชาลาที่มีชีวิตไม่แตกต่างกัน แต่เลือกที่จะใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย มุ่งมั่นที่จะเรียนให้จบปริญญาตรี และหางานทำไปตามความสามารถของตัวเอง ชีวิตของชาลาเริ่มต้นที่ความลำบาก และแน่นอนว่าการไม่ใช้เส้นทางลัดเพื่อนำชีวิตไปสู่ความสุขสบายแบบฉาบฉวย จึงเป็นทางที่ไม่สามารถทำให้ชีวิตพลิกไปสู่ความหรูหรา ร่ำรวยได้เลย แต่ชีวิตก็ดำเนินต่อไปได้ตามวิถีชีวิตของมนุษย์ทั่วไป ขณะที่ทางเลือกของก้านแก้วที่รู้ว่าผิดแต่ก็ยังทำ ท้ายที่สุดชีวิตจึงจบลงที่ความเศร้า ใบเฟิร์นในบทบาทของก้านแก้วโชว์ชะตากรรมของชีวิตของก้านแก้วได้อย่างสะเทือนใจอย่างมาก แต่ขณะเดียวกันก็ให้แง่คิดในการใช้ชีวิตได้อย่างลึกซึ้ง 2. ละคร "ใบไม้ที่ปลิดปลิว" (2019)"ใบไม้ที่ปลิดปลิว" แนวเมโลดราม่า (Melodrama) สะท้อนปัญหาของกลุ่มบุคคลข้ามเพศ บทประพันธ์ของ "ทมยันตี" ที่ได้รับความสนใจจากแฟน ๆ ที่ติดตามนวนิยาย แต่ไม่มีค่ายไหนเลือกสร้างเป็นภาพยนตร์หรือละคร ด้วยว่าเนื้อหาของเรื่อง เต็มไปด้วยความเข้มข้นของความดราม่า ที่ยากต่อการเลือกนักแสดงมารับบท "นิรา" ผู้ซึ่งต้องปกปิดเพศสภาพ ให้ใครรู้ไม่ได้ว่าเป็นกะเทย และใช้ความเป็นผู้หญิงที่ใคร ๆ ก็เข้าใจว่าเป็นอย่างนั้น เพราะผ่านการผ่าตัดแปลงเพศมาแล้ว เพื่อนำตัวเองไปสู่การแก้แค้นผู้เป็นพ่อที่เกลียดที่จะมีลูกเป็นกะเทย และความเกลียดชังและการกระทำของพ่อคือผู้ที่ทำให้แม่ของเขาต้องเสียชีวิต แม้จะเป็นอุบัติเหตุ แต่จุดเริ่มต้นของความเลวร้ายที่เกิดขึ้นในชีวิตของนิราสาเหตุมาจากพ่อ! ด้วยความเข้มข้นของเนื้อหาในนวนิยาย จึงยากในการที่จะสร้างมาเป็นละคร แต่ในที่สุด ช่อง ONE31 ก็เลือกที่จะสร้างเรื่องนี้เป็นละคร ความน่าสนใจเริ่มต้นตั้งแต่การคัดเลือกนักแสดงในบท "นิรา" ซึ่งเป็นตัวละครหลักของเรื่อง ซึ่งในบทคือผู้ชายแปลงเพศ หรือที่เรียกว่าบทกะเทย ความพิเศษก็คือการเลือกผู้หญิงอย่าง "ใบเฟิร์น" มารับบทแบบที่ไม่ได้ปลอมตัว แต่เป็นบทผู้ชายแปลงเพศจริง ๆ และบทบาทที่ต้องแสดงก็เป็นบทที่ใช้ทั้งความสามารถ และใช้พลังในการแสดง ดังนั้นการคัดเลือกผู้ที่มารับบทนี้ ต้องหมายความว่าเป็นนักแสดงที่มีความสามารถด้านการแสดงอย่างยอดเยี่ยม จากที่ได้เห็นใบเฟิร์นในบท "ก้านแก้ว" จากละคร "หลงไฟ" ที่ว่าแสดงได้แบบสุด ๆ แล้ว เมื่อมารับบทเป็น "นิรา" ก็ทำให้เห็นได้ว่าใบเฟิร์นยังไปได้สุดกว่านั้น และไม่มีข้อกังขาใด ๆ เมื่อใบเฟิร์นได้รับรางวัลด้านการแสดงในฐานะนักแสดงหญิงยอดเยี่ยมจากผลงานของเธอ 3. ละคร "สิเน่หาส่าหรี" (2022)จาก "หลงไฟ" และ "ใบไม้ที่ปลิดปลิว" มาถึง "สิเน่หาส่าหรี" ในความดราม่า เข้มข้นของเนื้อหาของเรื่อง เรื่องนี้ถือว่าเป็นบทบาทความดราม่าที่น้อยกว่า 2 เรื่องที่ผ่านมา แต่ก็ยังจัดเต็มความเข้มข้นในเนื้อหาของเรื่อง ซึ่งเป็นนวนิยายจากซีรี่ส์ผืนผ้าของเจ้าของบทประพันธ์ “พงศกร” มีทั้งหมด 9 เรื่อง ที่สร้างเป็นละครมาแล้วคือ สาปภูษา, รอยไหม, กี่เพ้า, กลกิโมโน, ลูกไม้ลายวนธยา, เลื่อมลวง, เล่ห์ลุนตยา และ สิเหน่หาส่าหรี เหลือเพียงเรื่อง บุหงาบาติก ที่ยังไม่ได้สร้างเป็นละคร โดยเรื่องนี้ "ใบเฟิร์น" ได้ร่วมงานกับ "ฌอห์ณ จินดาโชติ" เป็นครั้งแรก ละครเล่าถึงเรื่องราวการของ "นวลเนื้อแก้ว" (ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก) ดีไซเนอร์ชื่อดัง ต้องเดินทางไปยังเมืองมันตราปุระ เพื่อดูแล “นิลปัทม์” (ริชชี่ อรเณศ) น้องสาวที่เตรียมเข้าพิธีสมรสกับ "เจ้าชายชัยทัศน์ วิเรนทรา มันตรา" (ก้อง วิทยา) รัชทายาทแห่งมันตราปุระ ซึ่งมีพี่ชายต่างมารดา คือ "เจ้าชายกีริช แมคเดอร์มอร์ท วิเรนทรา มันตรา" (ฌอห์ณ จินดาโชติ) ซึ่งการมาเยือนเมืองมันตราปุระของนวลเนื้อแก้ว กลับมีความสำคัญมากกว่านั้น เพราะเธอต้องมาร่วมไขปริศนาความลับบนส่าหรีผืนงาม ตำนานลี้ลับที่ถูกซ่อนเอาไว้บนผืนผ้าสาหรีมานานกว่าร้อยปี ด้วยว่าเป็นคนในคำทำนายว่าเป็นบุคคลจากแดนไกลผู้ถูกเลือกให้เป็นผู้กอบกู้แผ่นดิน เป็นละครแนวโรแมนติก แฟนตาซี ลึกลับ ที่มีเรื่องราวเบื้องหลังสุดแสนดราม่าให้ได้ติดตามกัน ซึ่งนอกติดตามชมความสนุกในเนื้อหาของเรื่อง ก็ยังได้ชมแฟชั่นงาม ๆ จากใบเฟิร์นอีกด้วย4. ละคร "ทองประกายแสด" (2024)ละคร "ทองประกายแสด" เป็นอีกบทบาทที่ท้าทายความสามารถของ "ใบเฟิร์น" อย่างมาก เพราะจากการรับบทชีวิตหนัก ๆ ดราม่าจัดเต็มมาแล้ว จนแฟน ๆ ที่ติดตามผลงานพูดกันมาก่อนหน้านี้ว่าใบเฟิร์นได้แสดงละครที่เรียกได้ว่าที่สุดของการแสดงมาหลายเรื่องแล้ว ดังนั้นในบทบาทต่อ ๆ ไปที่จะได้เห็นฝีมือของเธอ ก็น่าจะไม่มีอะไรที่สุดกว่านี้อีกแล้ว แต่นั่นกลับไม่ใช่คำตอบสุดท้าย เพราะผลงานต่อ ๆ มา ล้วนแล้วแต่เป็นที่สุด ให้ได้โชว์ความสามารถของตัวละครแต่ละตัวที่เธอจะต้องสวมบทบาท ในบท "ทองดี" สาวสวยที่รู้ตัวว่าสวย และคิดว่าความสวยของตนเองนั้น จะนำพาไปสู่เส้นทางชีวิตที่สวยงาม มีชื่อเสียง เงินทอง และเกียรติยศได้ แต่ชีวิตของทองดี กลับไม่มีอะไรง่ายเลย ด้วยว่าผู้ชายมากมายที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ไม่ได้เป็นอย่างที่ใจเธอปรารถนา และชะตากรรมของแต่ละคน ก็ส่งผลให้กับชีวิตของทองดี ที่ก้าวสู่การเป็นคุณทองประกายที่เลิศหรูและร่ำรวย ไม่ได้เรียบง่ายและมีความสุขอย่างแท้จริง "ใบเฟิร์น" ในคาแรคเตอร์ "ทองดี" คือความสุดในทุกด้าน สวยสุด ๆ ร้ายสุด ๆ น่าสงสารสุด ๆ น่าหมั่นไส้สุด ๆ และแน่นอนว่าแสดงดีสุด ๆ5. ละคร "ทิชา THICHA" (2025)“ทิชา” แนว Romantic Drama Thriller เป็นผลงานที่เรียกว่าแฟน ๆ "ใบเฟิร์น" ต้องรอคอยกันเลย เพราะเป็นเรื่องที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ ไม่มีข้อมูลอะไรให้ติดตาม กระทั่งได้เห็นในทีเซอร์ ที่เล่าเรื่องราวในละครแบบจัดเต็มความดราม่า สาดความแค้น ในการต่อสู้ชีวิตของ "ทิชา" สาวสวย รวมถึงผู้คนที่ถูกเหยียบย่ำจากชนชั้นทางสังคม ในรูปแบบของการแก้แค้นตามวิธีของคนจนตรอก หันหลังชนฝาและต้องสู้ให้ได้ ด้วยว่าเดิมพันที่มีคือชีวิตที่เหลืออยู่ อีกทั้งใบปิดซีรีส์ที่เป็นภาพ "ใบเฟิร์น" ในคาแรคเตอร์ "ทิชา" ที่ใบหน้าเต็มไปด้วยบาดแผล เลือด และร่องรอยของความเจ็บปวดผ่านแววตาของคนที่พร้อมจะสู้ตาย ภาพเดียวสามารถเล่าถึงความเข้มข้นของเรื่องราวได้อย่างน่าติดตาม และในทีเซอร์ที่เต็มไปด้วยด้านมืดของชีวิตของผู้คนก็ยิ่งทำให้อยากติดตาม อยากเห็นการฟาดอารมณ์ใส่กันของ ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก, ลูกเกด เมทินี และพีช พชร จากกการกำกับของ "เอกสิทธิ์ ตระกูลเกษมสุข"ติดตาม "ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก"IG :: baifernbahรับชม ทองประกายแสด สดพร้อมกัน ทุกวันพุธ - พฤหัสบดี 20.30 น. ทาง ช่องวัน31 บน TrueID ขอบคุณภาพประกอบจาก baifernbahภาพปก ภาพที่1 ภาพที่2 ภาพที่3 ภาพที่4 ภาพที่5 ภาพที่6 ภาพที่7ภาพที่1 ภาพที่2 ภาพที่3 ภาพที่4 ภาพที่5 ภาพที่6 ภาพที่7 ภาพที่8 ภาพที่9 ภาพที่10 ภาพที่11-12เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !