สวัสดีค่าวันนี้จะมารีวิวซีรีส์เรื่อง Light The Night แสงราตรี เป็นซีรีส์สัญชาติไต้หวันที่ season3 พึ่งเข้าNetflix ไม่กี่วันที่ผ่านมาเลย ซีรีส์เรื่องนี้มีความน่าดึงดูดยังไงลองอ่านบทความนี้กันดูนะคะ :)เรื่องย่อ: ในยุคไทเป 80 มีกลุ่มไนท์คลับชื่อดังแห่งหนึ่ง เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันเมื่อมีเหตุการณ์ฆาตกรรมมาม่าซังคนนึงในไนท์คลับ ซึ่งพนักงานทุกคนกลับมีแรงจูงใจที่จะฆ่ามาม่าซังกันทุกคน แต่ใครจะเป็นคนที่ฆ่า แล้วแต่ละคนมีเบื้องหลังในชีวิตกันยังไง ต้องลองไปรับชมซีรีส์เรื่องนี้กัน 1.เนื้อเรื่องสำหรับซีรีส์เรื่องนี้ผู้เขียนมองว่า เป็นซีรีส์สืบสวนสอบสวนที่ผสมกับยุคไทเป80 ที่น่าสนใจมาก ด้วยความที่ในยุคนั้นจะมีคนญี่ปุ่นอยู่เป็นจำนวนมากทำให้คนในไนท์คลับเองมีการพูดภาษาญี่ปุ่นปนกับภาษาจีนเป็นเรื่องปกติ อีกทั้งซีรีส์มีทั้งหมด 3 ซีซั่น ซึ่งในทั้ง 3ซีซั่นนี้ก็จะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการฆาตกรรมแต่เริ่มจากจุดสิ้นสุดไปยังจุดเริ่มต้น ในซีซั่นแรกเรื่องราวจะเน้นไปที่มาม่าซังคนไหนที่ถูกฆ่า และเหตุการณ์โดยรวมภายในไนท์คลับ ซีซั่นที่สองจะเน้นไปที่ความหลังที่ผ่านมาของทุกตัวละครว่ากว่าจะมีวันนี้ได้ผ่านอะไรมาบ้าง ซีซั่นสุดท้ายก็จะเป็นเหมือนการเฉลยปมทุกอย่างที่เกิดขึ้นในซีซั่น1 และ 2 ส่วนตัวผู้เขียนมองว่าซีรีส์เรื่องนี้แอบขมวดปมนาน และ ดำเนินเรื่องช้าไปเล็กน้อย แต่จุดที่ทำให้อยากติดตามตอนต่อไปมีอยู่ในทุกตอนที่ดูจบ ถ้าใครอยากดูซีรีส์แนวสืบสวนสอบสวนจ๋าๆ เรื่องนี้อาจจะไม่ตอบโจทย์เพราะเป็นการสืบสวนที่มีเรื่องราวของอดีตผสมกับปัจจุบันเยอะมาก และใช้เวลาเล่าเรื่องนานมากสำหรับคดีเพียง 1 คดี 2.องค์ประกอบของเรื่อง2.1 ฉากและอุปกรณ์ประกอบฉาก ด้วยความที่ในซีรีส์อยู่ในยุค80 ก็จะมีความถ่ายทอดยุค80 ออกมาได้ค่อนข้างน่าสนใจเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นร้านไนท์คลับเอง ที่อยู่อาศัย หรือแม้แต่ร้านอาหารในยุคนั้น 2.2 การแต่งกาย อยากจะบอกว่าซีรีส์เรื่องนี้เสื้อผ้า หน้า ผม จัดเต็มมาก ทุกตัวละครคือถ่ายทอดความเป็นตัวเองได้ดีที่สุด และที่สำคัญเลยคือได้เห็นว่าในยุคนั้นคนแต่งตัวกันยังไง มีรูปแบบยังไง ซึ่งคลาสสิคมากๆเลย 3. นักแสดงRuby Lin รับบทเป็น หลัวอวี่หนง หรือ โรส เป็นมาม่าซังของไนท์คลับแสงราตรี ซึ่งโรสเองเป็นผู้หญิงที่ผ่านเรื่องราวมามากมาย แล้วแต่ละเรื่องเป็นเรื่องที่หนักเกินกว่าคนคนนึงจะรับได้ทั้งนั้น ซึ่งเธอเองเป็นคนที่มีจิตใจดีมากๆ และด้วยความที่ซีรีส์จะมีย้อนกลับไปในสมัยอดีต อดีตบางเรื่องทำให้ผู้เขียนรู้เลยว่าโรสเค้ารักเพื่อนและพร้อมที่จะเสียสละมากจริงๆ อีกทั้งตัวละครนี้ยังกล้าที่จะเผชิญหน้าและไม่กลัวว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร แค่อยู่กับปัจจุบันให้ดีที่สุดTony Yang รับบทเป็น พันเหวินเฉิง คือเป็นคุณตำรวจนั่นเอง ซึ่งพันเหวินเฉิงเป็นคนที่มุ่งมั่นในการทำงานเป็นอย่างมาก และมีเทคนิคแพรวพราวในการสืบหาข้อมูลแต่ละครั้ง อีกทั้งพันเหวินเฉิงเองยังเป็นคนที่รักในความยุติธรรมด้วยเช่นกัน และเขายังเป็นคนสนับสนุนโรสในเรื่องต่างๆที่ผ่านมา Cheryl Yang รับบทเป็น ซูชิ่งอี หรือ ซู เป็นมาม่าซังอีกคนของไนท์คลับ เธอคอยสนับสนุนโรสมาโดยตลอดในทุกๆเรื่อง แต่ด้วยความที่ซูเองเป็นคนที่จริงจังในการทำงานมาก ทำให้ไนท์คลับประสบความสำเร็จได้เพราะมีเธอเป็นส่วนสำคัญ แต่สิ่งที่สำคัญคือถ้าเธอสนิทกับใครมากๆอาจจะทำให้ไม่สามารถพูดเรื่องบางเรื่องได้ จากตัวละครนี้จะทำให้เห็นว่าในแต่ละช่วงอายุความคิดจะเป็นอย่างไร ถ้าตอนเด็กความคิดเป็นแบบนี้ แต่พอเวลาผ่านไปกลับคิดได้ในสิ่งที่ผ่านมาว่าตัวเองควรทำอะไร4. เพลงประกอบสำหรับเพลงประกอบของเรื่องนี้คือเอาอยู่ทุกฉาก อาจจะเป็นเพลงที่ทุกคนรู้จักหรือคุ้นหูกันอยู่แล้วนั่นก็คือเพลง "The Moon Represents My Heart" ที่มีต้นฉบับมาจาก Teresa Teng เวอร์ชั่นนี้ก็เพราะไปอีกแบบนะ:) https://youtu.be/A3xx6M-ZNbk 5. รับชมได้ที่ไหนสามารถรับชมได้ที่ Netflix มีทั้งหมด 3 ซีซั่น ซีซั่นละ 8 ตอนค่ะ ตอนนี้สามารถดูรวดเดียวจบ 24 ตอนเลย ลุ้นๆตามกันไป!! 6. ความประทับใจในซีรีส์เรื่องนี้สำหรับผู้เขียนเองมองว่าซีรีส์เรื่องนี้ถ่ายทอดความรู้สึกของคนคนนึงออกมาได้ดีมาก เป็นคนจริงๆที่ไม่ใช่คนที่มีบทบาทในซีรีส์ เพราะตัวละครแต่ละคนจะมีเบื้องหลังที่แตกต่างเกินไป เราอาจจะมองว่าคนเราจะเจอเรื่องหนักขนาดนี้ได้เลยหรอ แต่ความเป็นจริงก็คือคนเราคงหนีไม่พ้นเรื่องราวแบบนี้แน่นอน และที่สำคัญที่ผู้เขียนชอบจากซีรีส์เรื่องนี้คือ ตัวละครทุกตัวมีความดาร์ค ไม่ได้เป็นตัวละครที่เลิศเลอเพอร์เฟ็กต์ไปทุกคน ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้มีรสชาติขึ้นมา อีกทั้งทำให้มองคำว่าไนท์คลับแตกต่างไปจากเดิม ซึ่งในซีรีส์เองจะมีไนท์คลับ 2 แห่งที่แตกต่างกัน ถ้าไนท์คลับที่ผู้หญิงเป็นเจ้าของจะให้ค่าของผู้หญิงมากๆ แตกต่างจากอีกที่ที่ปฏิบัติแตกต่างกัน หลังจากดูซีรีส์นี้จบจะทำให้คุณมองคำว่าไนท์คลับเปลี่ยนแปลงไป!แต่สิ่งที่ผู้เขียนมองในอีกแง่ของซีรีส์เรื่องนี้เลยคือ เป็นซีรีส์ที่ปูเรื่องมายาวมาก แต่เหมือนมาตกม้าตายตอนจบ เพราะการไขปมคดีทำได้เร็วจนเกินไป เพียงแค่ตอนเดียวก็เฉลยทุกอย่างที่ปูมา 23 ตอน ผู้เขียนเลยมองว่ามันแอบง่ายเกินไป และใช้เวลานานเกินไปในการเล่าเรื่อง น่าจะมีเรื่องราวอื่นๆเพิ่มขึ้นมาให้น่าสนใจบ้าง เพราะอาจจะมีตอนที่ทำให้ผู้เขียนรู้สึกว่าเอื่อยๆไปนิดนึง แต่โดยรวมซีรีส์เรื่องนี้ก็น่าติดตามเพราะจะมีการหักมุมกันไปมาดูแล้วก็รู้สึกว่าคนนี้เป็นฆาตกรชัวร์ แต่พอจบตอนเอ้า หรือจะเป็นอีกคนนึงนะ ผู้เขียนคิดว่าได้เข้ามาดู Mood&Tone นักแสดง ฉาก เนื้อเรื่อง ก็คุ้มค่าแก่การดูแล้วค่ะ ยังไงลองไปค้นหาฆาตกรตัวจริงกับซีรีส์เรื่อง 'Light The Night / แสงราตรี' กันดูนะคะ:) Trailerhttps://youtu.be/yS3gcCzzUfA ที่มาภาพภาพปก 華燈初上: Facebook ภาพที่ 1ภาพประกอบ 華燈初上: Facebook ภาพที่ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 ที่มาวิดีโอ五月天 阿信 [ 月亮代表我的心 The Moon Represents My Heart ] Official Music Video(戲劇《華燈初上》片頭曲)/ Youtube: 相信音樂BinMusicLight the Night | Official Trailer | Netflix / Youtube: Netflix Asia เกาะติดซีรีส์เรื่องใหม่ๆ App TrueID โหลดฟรี!